เกาหลีเหนือเผยแพร่ภาพถ่าย Launchpad ดาวเทียมทหารดวงใหม่ แม้ว่าความพยายามครั้งแรกของประเทศที่จะส่งดาวเทียมสอดแนมเหนือชั้นบรรยากาศของโลกจะล้มเหลว แต่ผู้นำระดับสูงน้องสาวคิมยืนยันว่าว่าพวกเขาจะประสบความสำเร็จในเร็วๆ นี้
ก่อนหน้านี้รัสเซียได้ส่งดาวเทียมทหาร หลายดวงขึ้นฟ้าประกาศล็อคเป้าสนามรบยูเครนซึ่งแน่นอนหมายรวมถึงนาโต้ด้วย เพราะนับวันจะเป็นคู่ปรับโดยตรงอย่างเปิดเผย
กองบินอวกาศของรัสเซียเปิดเผยว่า ดาวเทียม Cosmos-2569 ของรัสเซียดวงใหม่ที่ส่งขึ้นสู่วงโคจร จะใช้สำหรับการสำรวจตำแหน่งของยูเครน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปล่อยจรวด Soyuz-2.1a จากยานอวกาศ Vostochny cosmodrome ในอวกาศ โดยสามารถรับภาพที่มีรายละเอียดพื้นผิวด้วยความละเอียด ๑ เมตร ตามแหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับสถานการณ์ ยานอวกาศจะถูกใช้สำหรับการลาดตระเวนตำแหน่งของกองทัพยูเครน
วันที่ ๑ มิ.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิก รายงานว่า คิม โยจอง น้องสาวของผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จอง อึน ประกาศให้คำมั่นว่าความพยายามในการส่งดาวเทียมทหารจะดำเนินต่อไปไม่ลดละ
เธอกล่าวโดยใช้ชื่อทางการในนามของประเทศ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีว่า “เป็นที่แน่นอนว่าดาวเทียมสอดแนมทางทหารของเกาหลีเหนือจะเริ่มต้นภารกิจในวงโคจรอวกาศในไม่ช้า”
สื่อเกาหลีเหนือเผยแพร่ภาพ ๒ ภาพที่แสดงให้เห็นฐานปล่อยจรวดแบบใหม่ที่ใช้ในความพยายามครั้งแรกของประเทศในการวางดาวเทียมตรวจการณ์ทางทหารในอวกาศในสัปดาห์นี้แม้จะไม่ประสบความสำเร็จในครั้งแรก
ในการตอบสนองต่อข้อกล่าวหาของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ว่าการยิงดังกล่าวฝ่าฝืนมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ โยจองยืนยันว่า “ไม่มีใครมอบอำนาจให้สหรัฐฯ ในการดำเนินการเกี่ยวกับสิทธิอธิปไตยของรัฐที่ระบุ” และกล่าวว่าเกาหลีเหนือ “พร้อมที่จะทำทุกอย่าง เพื่อปกป้องสิทธิอธิปไตยและผลประโยชน์ของประเทศเรา”
ผู้เชี่ยวชาญที่สัมภาษณ์โดยสื่อที่ต่อต้านเกาหลีเหนืออย่างฉุนเฉียวอธิบายว่าฐานยิงจรวดนี้ใช้แขนไฟฟ้าสถิตย์ ซึ่งรัสเซียรายงานว่าใช้ในการยิงจรวดเช่นกัน
บางคนกล่าวว่าการก่อสร้างแท่นปล่อยจรวดนั้นเร็วผิดปกติเมื่อเทียบกับกรอบเวลาที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในประเทศอื่นๆ
การปล่อยดาวเทียมซึ่งมีขึ้นในเวลาประมาณ ๐๖.๒๗ น.ในวันอังคารที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น มีวัตถุประสงค์เพื่อติดตั้งดาวเทียมสำรวจทางทหาร มัลลิกยอง-๑ (Malligyong-1) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามครั้งใหญ่ของเกาหลีเหนือในการต่อสู้กับภัยคุกคามในภูมิภาค
การเปิดตัวได้ ทำให้เกิดความแตกตื่นเตือนภัยฉุกเฉินและไซเรนในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ประชาชนของทั้งสองประเทศถูกกระตุ้นให้หาที่พักพิง หลังจากรายงานเบื้องต้นออกอากาศได้ไม่นาน กระทรวงมหาดไทยของเกาหลีใต้ก็ออกมาขอโทษสาธารณชน ยอมรับว่าได้ออกคำเตือนในกรุงโซลโดย “ผิดพลาด” คิดว่าเป็นเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ แต่สุดท้ายก็มาเก็บซากที่หลุดตกลงมาจากท้องฟ้าด้วย
ด้านสหรัฐฯ ได้ออกมาประณามสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (DPRK) สำหรับการปล่อยดาวเทียมโดยใช้เทคโนโลยีขีปนาวุธ ซึ่งเป็นการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหลายข้ออย่างโจ่งแจ้ง เพิ่มความตึงเครียด และเสี่ยงที่จะทำให้สถานการณ์ด้านความมั่นคงในภูมิภาคและที่อื่นๆสั่นคลอน
อดัม ฮอดจ์(Adam Hodge) โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าวในแถลงการณ์ โดยอ้างว่าการปล่อยดาวเทียมดูเหมือนจะใช้เทคโนโลยีที่เชื่อมโยงกับโครงการขีปนาวุธข้ามทวีปของเปียงยาง มุกเก่าประเทศอื่นทำไม่ได้ สหรัฐฯและพวกทำได้
หลายชั่วโมงหลังจากมีรายงานเหตุการณ์ดังกล่าว คณะเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้รายงานว่ากองกำลังของตนกำลังทำงานเพื่อสกัดชิ้นส่วนต้องสงสัยของจรวดเกาหลีเหนือที่ตรวจพบในน่านน้ำของทะเลเหลือง
ภาพถ่ายของสิ่งที่เชื่อว่าเป็นเศษซากจากการปล่อยจรวดได้ถูกแชร์โดยเจ้าหน้าที่ของเกาหลีใต้ สื่อท้องถิ่นอ้างการทหารของเกาหลีใต้ รายงานว่าเศษชิ้นส่วนต้องสงสัยว่าเป็นโครงสร้างที่เชื่อมต่อจรวดขั้นที่หนึ่งและขั้นที่สอง เจ้าหน้าที่ระบุว่าจะมีการวิเคราะห์เพื่อตรวจสอบว่ามีการใช้ชิ้นส่วนแปลกปลอมในการสร้างจรวดหรือไม่
เดฟ ชเมอร์เลร์ (Deve Schmerler)ผู้ร่วมวิจัยอาวุโสที่ศูนย์เจมส์ มาร์ติน เพื่อการศึกษาการไม่แพร่ขยายพันธุ์ เรียกการก่อสร้างอย่างรวดเร็วว่าเป็นสิ่งที่ “น่าประทับใจ” มีรายงานระบุว่า มีการทดสอบหลังจากการก่อสร้างเริ่มขึ้นในปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา และมีการกล่าวกันว่าคนงานได้เสร็จสิ้นขั้นตอนสุดท้ายของโครงการแล้วในช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อน
โฆษกหน่วยงานอวกาศของเกาหลีเหนือกล่าวว่า การปล่อยที่ล้มเหลวเชื่อว่ามีสาเหตุมาจากระบบเครื่องยนต์ใหม่ในจรวด “ชอลลีมา-๑” และความไม่เสถียรของเชื้อเพลิงที่ใช้ ข้อมูลนี้อ้างจากสื่อของรัฐ
สื่อของรัฐระบุว่าจุดมรณกรรมของจรวดเป็นผลมาจากปัญหาทางเทคนิคที่เกิดขึ้นเมื่อจรวดขั้นที่ ๒ ล้มเหลวในการจุดระเบิด และทำให้โพรเจกไทล์สูญเสียพลังงานและตกลงในทะเลเหลือง
“จรวดยานดาวเทียมใหม่ ชอลลีมา-๑ ชนในทะเลตะวันตกเนื่องจากสูญเสียแรงขับจากการสตาร์ทเครื่องยนต์ที่ผิดปกติในขั้นที่ ๒ หลังจากขั้นที่ ๑ ถูกแยกระหว่างการบินปกติ”
เจ้าหน้าที่ย้ำว่าการเปิดตัวครั้งที่สองจะจัดขึ้น “ในอนาคตอันใกล้” เมื่อทางการสามารถแก้ไขปัญหาเทคโนโลยีได้ กองทัพเกาหลีใต้เสนอว่าการยิงจะดำเนินการก่อนวันที่ ๑๑ มิถุนายนที่จะถึงนี้ ตามที่เกาหลีเหนือกำหนดไว้ก่อนหน้านี้
