ไบร์ทมาแล้ว! บุกให้กำลังใจกกต.สอบพิธาถือหุ้นสื่อ ซัดติ่งส้มอย่าแพ้แล้วพาล หลังอานนท์ปลุกสามนิ้วลงถนนเหมือนตุลา 63
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ได้ยื่นคำร้องต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบการถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 42,000 หุ้น ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นการกระทำผิดขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญหรือไม่ รวมถึงขอให้ตรวจสอบว่า นายพิธา เข้าข่ายมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) มาตั้งแต่การสมัครรับเลือกตั้งปี 2562 หรือไม่
ตอมาทางด้านของนายอานนท์ นำภา แกนนำม็อบราษฎร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กด้วยข้อความสั้นๆว่า “ครั้งนี้พวกกูไม่ยอม”
และนายอานนท์ ยังได้โพสต์ข้อความต่ออีกด้วยว่า “เลือกตั้ง” ไม่ใช่พิธีกรรมแต่เป็น “มติประชาชน” ถ้าฝืนมติประชาชน ก็เตรียมรับมือการลุกฮือของประชาชนได้เลย
และโพสต์อีกว่า เวลาชุมนุมทางการเมืองที่มีแกนนำ รัฐจัดการง่าย เพราะจับแกนนำก็จบ แต่การชุมนุมขนาดใหญ่ที่ทุกคนเป็นแกนนำ รัฐจัดการไม่ได้ และทุกคนรู้หน้าที่ของตนเองในขบวน ถ้าการชุมนุมจะเกิด เพื่อปกป้องประชาธิปไตย จะเกิดอย่างหลัง คือ การชุมนุมแบบออแกนิก แบบช่วงตุลา ปี 63
และอย่าลืมการชุมนุมเป็นเสรีภาพตามกฎหมายระหว่างประเทศ และตามรัฐธรรมนูญไทย เป็นการแสดงออกทางตรงตามระบบอบประชาธิปไตย ถึงเวลาเราจะเจอกันแน่นอน!
ในขณะที่วันนี้ (1 มิถนายน 2566) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสมชาย ชอบชาย ตัวแทน กลุ่ม Love Democracy – เรารักประชาธิปไตย พร้อมนายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบร์ท ราษฎรนนทบุรี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เดินทางมายื่นหนังสือต่อกกต. เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานอย่างตรงไปตรงมา โดยเฉพาะการพิจารณาคำร้อง ตรวจสอบคุณสมบัตินายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค
และกรณีการถือครองหุ้นสื่อ บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) เนื่องจากคำร้องดังกล่าวมีผลต่อความสงบสุขและความเรียบร้อยของสังคม อีกทั้งยังมีผลต่อความศักดิ์สิทธิ์ ของกระบวนการทางกฎหมาย รวมไปถึงความเชื่อมั่นของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ส่วนตัวมองว่าการทำงานของกกต.มีความล่าช้าเกินไปและไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรตนเองและกลุ่มก็พร้อมยอมรับคำตัดสิน
อย่างไรก็ตาม กลุ่มเรารักประชาธิปไตย ขอให้กำลังใจกกต. ใช้ดุลยพินิจและความรอบคอบ เพื่อให้ประเทศชาติสามารถเดินหน้าต่อไปได้ตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยเร็วที่สุด
ด้านนายชินวัตร กล่าวว่าวันนี้เดินทางมาให้กำลังใจกกต. ส่วนผลการพิจารณาคดีหุ้นสื่อไอทีวี ของนายพิธา จะออกมาเป็นอย่างไร ยินดีและน้อมรับคำตัดสิน เป้าหมายของเราในวันนี้เพียงต้องการให้กกต.ทำงานอย่างรวดเร็ว เพื่อเดินหน้าประเทศต่อไป เพราะหากล่าช้าหรือยืดเวลาออกไปคนที่เสียประโยชน์ก็คือประชาชน และจะมีรัฐบาลจริงๆของประชาชนหรือไม่
พร้อมย้ำจุดยืนทางการเมืองว่าตนเองเป็นกลาง หาก นายพิธา รอดจากคดีหุ้นสื่อไอทีวี ก็ยินดี แต่ถ้าผลออกมานายพิธา มีความผิดทุกคนก็จะต้องยอมรับผลจากการพิจารณาของกกต.ด้วย
เมื่อถามว่าหากนายพิธา ถูกตัดสิทธิ์ ว่ามีความผิดจริงจะเกิดการเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือการชุมนุมบนท้องถนนหรือไม่ นายชินวัตร ย้ำว่าอยากให้ทุกคนยอมรับความเป็นจริงผิดก็ว่าไปตามผิด
“หากผิดก็จะต้องเป็นเรื่องคนไทยทุกคนต้องยอมรับ ส่วนจะลงถนนหรือไม่มันเป็นเรื่องของความคิดของประชาชน แต่ตัวเอง พอแล้ว กับความขัดแย้งที่เกิดขึ้น เพราะประเทศเสียโอกาสไปหลายอย่าง หากวันนี้มีการลงถนนอีกประเทศชาติเละเทะแน่นอน อยากให้ทุกคนคำนึงถึงเรื่องนี้ด้วย อยากให้ทุกคนยอมรับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น หากคุณพิธาไม่ผิด พวกเราก็ยินดี ที่จะอยู่ภายใต้รัฐบาลของคุณพิธา ที่บอกว่าเป็นรัฐบาลประชาธิปไตย แต่ถ้ากกต.บอกว่าผิด ก็ต้องยอมรับตามกติกา ”