จากที่ชาติอาหรับต่างทยอยเข้าเป็นพันธมิตรต่อรัสเซียกับจีนอย่างต่อเนื่อง โดยไม่สนใจท่าทีของสหรัฐที่พยายามข่มขู่ หรือ หว่านล้อม นั่นเพราะในอดีตที่ผ่านมาได้เคยเกิดเหตุการณ์ที่เป็นบทเรียนต่อหลายประเทศมาแล้วนั่นเอง
ล่าสุดวันที่ 30 พฤษภาคม 2566 Blockdit World Update ได้โพสต์ถึงเหตุการณ์ในอิหร่านและอัฟกานิสถาน โดยมีเรื่องราวทั้งอดีตและปัจจุบันที่น่าสนใจว่า
“อิหร่าน กับ อัฟกานิสถาน เป็นชาติมุสลิมและพรมแดนติดกัน เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา ช่วงที่สหรัฐ และ NATO ตั้งฐานทัพยึดครองและควบคุมรัฐบาลหุ่นเชิดอัฟกานิสถาน จึงมีเรื่องปะทะกับอิหร่านที่แนวชายแดนเป็นประจำ
ทั้ง 2 ชาติเคยมีข้อพิพาทเดิมในปมสิทธิเรื่องน้ำในการเข้าถึงแม่น้ำเฮลมานด์ โดยสนธิสัญญาปี 2516 ให้ทั้ง 2 ชาติเพื่อนบ้านเข้าถึงการใช้น้ำได้อย่างเท่าเทียมกัน ต่อมาสหรัฐ ได้สร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำแกล้งอิหร่าน
ปี 2564 กองทัพสหรัฐ และพวกฝ่ายรุม พ่ายแพ้ต่อนักรบตอลีบันอย่างยับเยิน เผ่นบินหนีเอาตัวรอดไม่คิดชีวิต พวกเขาจึงปกครองประเทศนับแต่นั้นมา และได้เปิดประตูเขื่อนกั้นแม่น้ำที่ไหลไปยังอิหร่านทันที
จีนเป็นพันธมิตรอัฟกานิสถาน ได้รับสัมปทานแหล่งแร่หายากแร่เอิร์ธ เสียบแทนเจ้าของเดิมคือบริษัทสหรัฐ , ส่วนรัสเซีย เป็นพันธมิตรด้านอาหาร และพลังงาน
เมื่อหมดอิทธิพล สหรัฐจึงทำได้เพียงคอยสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย IS ให้ลอบวางระเบิดโจมตีในย่านชุมชน สนามบิน เท่านั้น ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการเมืองภายในได้ บรรดา NGOs ทั้งหลายต่างถูกยุบทิ้งไล่ตะเพิดออกไปจนหมดสิ้น
ต้น พฤษภาคม 2566 ประธานาธิบดี Ebrahim Raisi ผู้นำอิหร่าน ระบุว่ากลุ่มนักรบตอลิบาน อัฟกานิสถาน ขัดขวางนักวิทยาศาสตร์ของตน ในการตรวจสอบระดับน้ำในแม่น้ำเฮลมานด์ และขู่ว่าจะไม่ปล่อยให้สิทธิของประชาชนตนถูกละเมิด
ล่าสุดทั้งทหารชายแดนของสองชาติได้เปิดฉากปะทะกัน จังหวัด Sistan และจังหวัด Baluchestan ของอิหร่าน และใกล้หมู่บ้าน Makaki และ Sasuli จังหวัด Nimroz ของอัฟกานิสถาน ด้วยปืนอย่างดุเดือด
สำนักข่าวตาลีบัน อ้างว่าทหารชายแดนของอิหร่านเริ่มระดมยิงใส่พื้นที่ของจังหวัดนิมรอซ ของตนก่อน ทหารชายแดนอัฟกานิสถานตอบโต้โดยระดมยิงด่านตรวจชายแดนที่มั่นบนเนินเขาของอิหร่าน โดยใช้ยานเกราะต่อสู้ Humvee พร้อมปืนกล M240 ที่ยึดมาจากกองทัพสหรัฐ
สำนักข่าวของอิหร่านรายงานการเสียชีวิตของทหารรักษาชายแดน 2 นายและบาดเจ็บอีก 2 นาย , ส่วนฝ่ายอัฟกานิสถานยืนยันว่าฝ่ายตนเสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บอีกหลายคน
อย่างไรก็ตามมีข้อมูลจากข่าวท้องถิ่นรายงานว่าโรงพยาบาลในเมือง Zaranj ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอัฟกานิสถาน มีผู้เสียชีวิตเพิ่มรวม 11 ราย และบางพื้นที่ถูกกองทัพอิหร่านโจมตีด้วยจรวด
ต่อมากองทัพอัฟกานิสถาน ขนย้ายทหารและเคลื่อนย้ายอาวุธยุทโธปกรณ์ภาคสนาม รถถัง รถหุ้มเกราะ ไปบนถนนใกล้เคียงแนวปะทะ ส่วนกองทัพอิหร่านก็ได้เสริมอาวุธบริเวณแนวชายแดนด้วยเช่นกัน
อิหร่านใช้โดรนหน่วยสอดแนมและโจมตี Mohajer-4/6 บินลาดตระเวนทางอากาศอย่างต่อเนื่อง บริเวณจุดผ่านแดนมิลัก ซึ่งเป็นเส้นทางค้าขายหลักของพลเรือน 2 ประเทศ ที่ถูกปิดด่านชั่วคราว
ล่าสุดได้รับการยืนยันโดยตัวแทนของทั้งสองฝ่ายสั่งหยุดยิงไม่มีการปะทะ สถานการณ์โดยรวมกลับเข้าสู่โหมดปกติมีเสถียรภาพ โดยตัวแทนของทางการทั้ง 2 ชาติ ตกลงที่จะจัดการเจรจาเพื่อแก้ไขความขัดแย้งที่เกิดขึ้น
โดยกองทัพ 2 ฝ่ายตรึงกำลังพลและอาวุธใกล้ชายแดน ยังไม่ได้ถอนออกสำรองกันเหนียวไว้ในกรณีตกลงกันไม่ได้และมีการยกระดับความขัดแย้งครั้งใหม่”
