ตำรวจจับลูกชาย “อดิศร เพียงเกษ”โฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎ ขายกัญชาในไอจี มูลค่ากว่า2แสนบาท
24 เม.ย.63 – ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.บก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป., พร้อมด้วย พ.ต.ท.กรกช ยงยืน สว.กก.2 บก.ป. ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายราชภักดิ์ หรือป่าน เพียงเกษ อายุ 22 ปี ลูกชายอดีตรัฐมนตรี และนักการเมืองชื่อดัง โดยกล่าวหาว่า“มียาเสพติดให้โทษประเภท5 (กัญชา) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยจับกุมได้ทีบริเวณริมถนนเอกทักษิณ ต.หลักหก อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี ต่อเนื่อง ห้องพัก เมืองเอกวิลล่าคอนโด ต.หลักหก อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี
ในการจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งข้อมูลมาว่า พบบัญชี INSTRAGRAM ใช้ชื่อว่า“warpguide” มีพฤติการณ์ในการจำหน่ายกัญชาชนิดพันธุ์จากต่างประเทศ โดยจัดส่งให้แก่ลูกค้าทางพัสดุจึงได้เฝ้าติดตามข้อมูลมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้วางแผนทำการล่อซื้อกัญชาจากบัญชี INSTRAGRAM ดังกล่าวเพื่อพิสูจน์ว่าสามารถจัดส่งได้จริงหรือไม่ ซึ่งผลของการล่อซื้อได้มีการส่งกัญชากลับมาให้ทางพัสดุจริง จึงได้ตรวจยึดกัญชาดังกล่าวเพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในการสืบสวนจับกุม
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตรวจสอบข้อมูลทราบว่า เจ้าของอินสตาแกรม ที่ใช้ชื่อว่า“warpguide” มีชื่อเล่นว่านายป่าน อายุประมาณ 20 ปี รูปร่างผอม ขาว พักอาศัยอยู่ย่านมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านรังสิต จนกระทั่งวันที่ 23 เม.ย.63 เวลาประมาณ 15.15 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณริม ถ.เอกทักษิณ ได้พบรถยนต์คันหนึ่งได้ขับมาจอดอยู่บริเวณร้านรับส่งพัสดุ จากนั้นมีนายป่าน เปิดประตูลงมาพร้อมกับถือถุงพลาสติกใบใหญ่ ซึ่งเจ้าหน้าที่พบว่าบุคคลดังกล่าวมีลักษณะรูปพรรณตรงกับนายป่าน จึงได้แสดงตัวเพื่อสอบถามและขอตรวจค้นถุงใบใหญ่ที่ถือมาด้วย
ผลการตรวจค้นพบเป็นกัญชาที่บรรจุภายในกล่องพัสดุขนาดเล็กจำนวน 7 กล่อง ที่ผู้ต้องหากำลังจะนำไปให้ลูกค้า และผู้ต้องหาได้ให้การยอมรับอีกว่าที่ห้องพักของตนยังมีกัญชาอีกจำนวนหนึ่ง จึงได้เป็นผู้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นห้องพักดังกล่าวด้วยตนเอง ผลการตรวจค้นห้องพักดังกล่าวพบกัญชาอีกจำนวนหนึ่งจริง จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิ นำตัวส่ง พงส.บช.ปส. ดำเนินการต่อไป รวมน้ำหนักของกลางที่ได้จากการจับกุมครั้งนี้ประมาณ 700 กรัม คิดเป็นมูลค่ากว่าสองแสนบาท