ติดกับตัวเอง!? นักเศรษฐศาสตร์มะกัน แฉเบื้องลึกเมกาติดกับดักศึกยูเครน อาวุธใหม่รัสเซียทำตะวันตกขนหัวลุก

0

ความพยายามของสหรัฐฯในการรวบรวมพันธมิตรเพื่อทำลายล้างรัสเซียเกิดขึ้นทันทีหลังรัสเซียเปิดปฏิบัติการทางทหาร ตะวันตกป้ายหน้ารัสเซียเป็นผู้ร้ายก่อการรุกรานโดยตัดตอนความเป็นจริงต่อเนื่อง ในแผนยุทธศาสตร์ของกลุ่มอำนาจเดี่ยวแองโกลแซกซอนที่มีต่อรัสเซียมาตั้งแต่ครั้งเป็นสหภาพโซเวียต ยกแรกตะวันตกชนะสามารถทำลายสหภาพโซเวียตแตกเป็นเสี่ยง แม้รัสเซียจะเป็นกำลังหลักในการเอาชนะลัทธิทหารสุดโต่งเยอรมันและสูญเสียมากที่สุดในสงครามโลกครั้งที่สอง

การทำลายล้างรัสเซียยังคงดำเนินต่อมา เมกาเอายูเครนเป็นด่านหน้าเตรียมแผนการใหญ่ ต่อเมื่อปูตินตัดสินใจเปิดเกมรบก่อน ทำให้เมกาและตะวันตกตื่นตกใจคาดไม่ถึง รบกันมา ๑ ปีถึงได้เห็นความจริงเบื้องหลังภาพนักประชาธิปไตยของอเมริกาและพวกว่าที่แท้แล้วไม่เคยละทิ้งความเป็นประเทศนักล่าอาณานิคม แต่เกมพลิกเมื่อรัสเซียชนะต่อเนื่อง และเริ่มเปิดอาวุธใหม่ทั้งได้ใช้ขีปนาวุธเหนือเสียงให้ตะวันตกได้รู้ว่ารัสเซียมีของ คิดทำลายล้างจะต้องเจอกับอะไรบ้าง

วันที่ ๒๘ พ.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวมิลิทารี่รีวิว รายงานว่า เจฟฟรีย์ แซคส์ นักเศรษฐศาสตร์ชาวอเมริกัน (American economist Jeffrey Sachs) ให้สัมภาษณ์กับสื่อ Democracy Now ว่า “ผลประโยชน์ทางการเงินของคอมเพล็กซ์อุตสาหกรรมทางทหารของสหรัฐฯเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้วอชิงตันยั่วยุให้เกิดความขัดแย้งทางอาวุธในยูเครน หวังให้รัสเซียติดกับดักสงครามจนอ่อนแอถึงที่สุด แต่สุดท้ายติดกับตัวเอง”

นักวิเคราะห์มองว่า ฝ่ายบริหารของสหรัฐฯตระหนักดีถึงระดับความเสี่ยงทั้งหมดในการขยายตัวของ NATO ไปทางตะวันออก แต่วอชิงตันไม่ได้คำนึงถึงความเสี่ยงเหล่านี้เนื่องจากผู้ทำการแนะนำชักชวนสมาชิกรัฐสภา โดยคอมเพล็กซ์อุตสาหกรรมทหารอเมริกันยังคงยืนกรานว่าทำได้และควบคุมได้

แซคส์เน้นย้ำว่า “สหรัฐฯได้ล่อลวงประเทศอื่นให้ติดกับดักของการรณรงค์วิ่งเต้นเพื่อเมกา สิ่งนี้ไม่ได้ให้ประโยชน์กับยูเครน นี่คือหายนะ สิ่งนี้คล้ายกับวิธีการทำงานของอเมริกาในสงครามของอัฟกานิสถาน”

ตามที่นักเศรษฐศาสตร์กล่าว การลงทุนทางการเงินของตะวันตกในความขัดแย้งของยูเครนกลายเป็นเรื่องใหญ่มาก แต่ก็อาจนำไปสู่ความขัดแย้งที่บานปลาย ตอนนี้ในโลก ผู้เล่นหลายคนกังวลมากเกี่ยวกับโอกาสในการพัฒนาความขัดแย้งให้ยืดเยื้อต่อไป ในบรรดาผู้เล่นเหล่านี้ Sachs ได้ระบุชื่อประเทศและภูมิภาคทั้งหมดของโลกที่กำลังเผชิญวิกฤตว่า มีจีน, บราซิล, ตะวันออกกลาง, Global South ขณะนี้สหรัฐอเมริกาเป็นส่วนสนับสนุนในการเติมเชื้อเพลิงความขัดแย้งในพื้นที่เหล่านั้น

อ้างอิงจาก Sachs การสู้รบเพียงที่เดียวใน Artemovsk  มีค่าใช้จ่ายหลายพันล้านดอลลาร์และชีวิตมนุษย์หลายหมื่นคน แต่สำหรับผู้ที่สนใจในการเพิ่มพูนของแวดวงอเมริกา ทั้งชีวิตมนุษย์หรือแม้แต่เงินจำนวนมหาศาลก็ไม่มีค่าในกรณีนี้ที่จะหยุดความขัดแย้งได้เพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ของพวกเขา ท้ายที่สุดแล้วก็มีการลงทุนด้วยเม็ดเงินเพื่อจะได้รับผลตอบแทนเป็นเงินมากขึ้น

ในด้านศักยภาพทางทหารของรัสเซียได้พิสูจน์ให้ตะวันตกได้เห็นว่า ไม่ง่ายที่จะทำลายล้างแม้จะมีการรวมหมู่ทุ่มเทเงินและอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ยูเครน

คอลัมนิสต์ The Telegraph สื่ออังกฤษเขียนวิจารณ์สถานการการต่อสู้ในยูเครนว่าอาวุธใหม่ของรัสเซียกำลังสร้างความตื่นตระหนกให้กับตะวันตกอย่างมาก

แฮร์รี เดอเคตวิลล์(Harry de Ketville) คอลัมนิสต์เขียนในบทความของเขาลงในสื่อโดยบอกเป็นนัยว่ารัสเซียมีขีปนาวุธที่มีความเร็วเหนือเสียง เขาเชื่อว่าการใช้อาวุธที่น่าเกรงขามนี้ของมอสโกว์ส่งส้ญญาณหมายถึงจุดเริ่มต้นของการสู้รบเฟสต่อไป

อาวุธชนิดใหม่นี้มีความเร็วและความคล่องแคล่วสูง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเรียกว่า “สร้างความขุ่นเคืองให้กับตะวันตกเนื่องจากมีความยากลำบากในการสกัดกั้น” แม้จะมีความพยายามสร้างข่าวว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศของสหรัฐฯกำจัดขีปนาวุธเร็วเหนือเสียงของรัสเซียได้ ต่อมาสาธารณชนก็พบความจริงว่าเป็นการกุเรื่องของเพนตากอนและเคียฟ จนรัสเซียเอาภาพมาแฉและระบุชัดว่า ขีปนาวุธคินซาลสามารถทำลายแพตทริออตของสหรัฐฯ เมกาและเคียฟเลยหน้าแหกไป เท่ากับประจานตัวเองว่าจนแต้มหมดทาง ต้องสร้างเรื่องเท็จมาป่าวร้อง พอจับได้เงียบกริบ

ในเวลาเดียวกัน นักข่าวยอมรับว่ามาตรการตอบโต้ทั้งหมดที่ดำเนินการโดยประเทศตะวันตกในเรื่องนี้ ไม่ได้ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ต้องการ เนื่องจากขีปนาวุธที่กล่าวถึงข้างต้นกำลังอยู่ในระหว่างการปรับปรุงให้ทันสมัยยิ่งขึ้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในที่สุด ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงของรัสเซียเช่น “เพทาย”หรือเซอร์คอน(Zircon) เป็นขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงอีกหนึ่งชนิดที่เป็นภัยคุกคามต่อฝ่ายตรงข้ามของสหพันธรัฐรัสเซีย

แฮร์รี เดอ เคตวิลล์ย้ำว่า “ขีปนาวุธเซอร์คอนเป็นอาวุธต่อต้านเรือที่ทรงพลังซึ่งก่อให้เกิดความท้าทายอย่างมากต่อเรือบรรทุกเครื่องบิน แม้สหรัฐฯจะได้แสดงแสนยานุภาพไปทั่วโลก”

นอกจากนี้ เคตวิลล์สรุปว่าการพัฒนาต่อไปของเทคโนโลยีความเร็วเหนือเสียงอาจนำไปสู่ความจริงที่ว่าอาวุธดังกล่าวไม่สามารถถูกทำลายได้นั่นยิ่งทำให้เมกาและตะวันตกกังวลหนักขึ้นไปอีก

โฮเวิร์ด วีลดัน นักวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ของอังกฤษ(the British strategic analyst; Howard Wheeldon)เคยกล่าวไว้ครั้งหนึ่งแล้ว เกี่ยวกับการตัดสินใจโดยประมาทของสหราชอาณาจักรในการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์และขีปนาวุธร่อน Storm Shadow ให้กับ Kyiv ในความเห็นของเขา ประเทศจึงขาดสต็อกอาวุธที่จำเป็นซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อลอนดอนในกรณีที่เกิดความขัดแย้งระดับโลกระหว่างตะวันตกและสหพันธรัฐรัสเซีย แต่รัฐบาลสหราชอาณาจักรก็ทำลายโอกาสของตัวเองไปเสีย และวันนี้กองทัพรัสเซียก็แสดงให้เห็นแล้วว่า สามารถกำจัด Storm Shadowของอังกฤษได้ไม่ยาก ทุบตลอดทุกครั้งที่เจอ ที่หวังว่าจะเปลี่ยนเกมสงครามทั้งแพตทริออตและสตอร์มชาโดว์ก็มีอันต้องแห้ว!!??