เปิดกันชัดๆรัสเซีย-เกาหลีเหนือแน่นปึ้กทั้งทางการทหารและเศรษฐกิจ ท่ามกลางการขับเคี่ยวอย่างดุเดือดระหว่างเมกา-นาโต้กับรัสเซีย เกาหลีเหนือยืนหยัดจุดยืนเคียงข้างมอสโกว์มาโดยตลอด ขณะที่ถูกเมกาและพวกกดดัน คว่ำบาตรต่อเนื่อง
จนวันนี้ผู้นำเกาหลีเหนือได้แสดงแสนยานุภาพของอาวุธยุทโธปกรณ์ที่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง รัสเซียถึงกับชมเปาะว่าศักยภาพของอาวุธข่มเมกา-นาโต้เอเชียอย่างชัดเจน
นอกจากนี้เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำเกาหลี ยังเปิดเผยอีกว่า ทั้งสองประเทศกำลังทำงานเกี่ยวกับระบบการตั้งถิ่นฐานในสกุลเงินรูเบิล การค้าขาย ทำธุรกรรมทางการเงินไม่ใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นักการทูตกล่าวว่า “การค้าทวิภาคีปัจจุบันยังมีปริมาณน้อย และสถานการณ์ที่ยากลำบากเกิดจากการคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติต่อเกาหลีเหนือ แต่มีโอกาสมากมายแม้ในเงื่อนไขเหล่านี้ในการเพิ่มมูลค่าการค้า สิ่งสำคัญคือการสร้างระบบการชำระหนี้ในรูเบิล และเรากำลังดำเนินการอยู่”
วันที่ ๒๖ พ.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกรายงานว่า อเล็กซานเดอร์ มัตเซโกรา เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำเกาหลีเหนือ(Russian Ambassador to North Korea Aleksandr Matsegora)กล่าวในการให้สัมภาษณ์ว่า “เกาหลีเหนือพัฒนาขีปนาวุธและขีปนาวุธร่อนเกือบทั้งชุด แต่เปียงยางไม่ได้วางแผนที่จะโจมตีสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น หรือเกาหลีใต้ มีไว้ป้องกันตนเอง”
เอกอัครราชทูตกล่าวว่า “ควรยอมรับว่าศูนย์อุตสาหกรรม-การทหารของเกาหลีเหนือประสบความสำเร็จอย่างน่าประทับใจในช่วง ๑๐ ปีที่ผ่านมา” “ได้พัฒนาชุดขีปนาวุธและจรวดร่อนเกือบครบชุด และได้ทำการทดสอบยิงหลายครั้ง”
เขากล่าวว่า “การพัฒนาขีปนาวุธใหม่ของเปียงยางและการทดสอบอย่างต่อเนื่องเป็นผลโดยตรงจากนโยบายที่เป็นศัตรูต่อเกาหลีเหนือของวอชิงตัน พร้อมเสริมว่าผู้นำเกาหลีเหนือจะไม่มีเหตุผลในการพัฒนาและดำเนินโครงการขีปนาวุธนิวเคลียร์ขนาดใหญ่หากไม่มี “การรุกราน” การเพิ่มแรงกดดันทางทหาร การเมือง และเศรษฐกิจ ความพยายามที่จะแทรกแซงกิจการภายในประเทศ และการคุกคามโดยตรงที่จะกำจัดระบบสังคมและการเมืองที่นั่น เป็นต้นเหตุสำคัญ”
“แน่นอนว่าชาวเกาหลีเหนือไม่ได้วางแผนที่จะโจมตีสหรัฐฯ ญี่ปุ่น หรือเกาหลีใต้ ไม่ได้รุกรานประเทศเหล่านี้หรือเปลี่ยนแปลงระเบียบทางการเมือง” เขาเน้นย้ำ
มัตเซโกรายังชี้ให้เห็นอีกว่า “ไม่มีการยิงขีปนาวุธทดสอบของเกาหลีเหนือครั้งใดที่สร้างภัยคุกคามต่อภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซีย ที่สำคัญฝ่ายเกาหลีกล่าวซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าปฏิบัติตามหลักการนี้อย่างเคร่งครัด เราไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่เชื่อถือหลักการนี้ของเปียงยาง”
ในช่วงกลางเดือนเมษายน เกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีปเชื้อเพลิงแข็ง Hwansong-18 รุ่นใหม่ ซึ่งปล่อยสู่ทะเลญี่ปุ่น โดยบินไปประมาณ ๑,๐๐๐ กิโลเมตร หรือ ๖๒๑ ไมล์ และตกนอกเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น
การฝึกซ้อมดังกล่าวถือเป็นการยิงขีปนาวุธครั้งที่ ๙ ในปี ๒๕๖๖ และเป็นการยิงครั้งที่ ๑๒ พร้อมกับขีปนาวุธร่อน ซึ่งในปี ๒๐๒๒ เกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธ ๓๗ ลูกแล้ว
สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีร้อนระอุขึ้น เนื่องจากเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาดำเนินเกมสงครามซ้ำแล้วซ้ำเล่าในภูมิภาคนี้ เกาหลีเหนือตอบโต้ด้วยการทดสอบขีปนาวุธและการสาธิตว่าอาวุธของพวกเขาไม่เพียงแค่เข้าถึงกรุงโซลเท่านั้น แต่ลูกยาวยังสามารถส่งไปถึงญี่ปุ่นและภูมิภาคอื่นๆ ด้วย
เกาหลีเหนือเตือนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าการซ้อมรบร่วมระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯ กำลังผลักดันให้ภูมิภาคนี้เข้าใกล้ความขัดแย้งทางอาวุธ
บทความที่ตีพิมพ์ในสื่อของรัฐเกาหลีเหนือกล่าวว่าคาบสมุทรกำลัง “ใกล้จะระเบิด” และการฝึกร่วมทางทหารได้กลายเป็นธรรมชาติที่ไม่เปิดเผยและอันตรายมากขึ้น”
เกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกามีกำหนดจะเริ่มการฝึกซ้อมทางทหารครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยจะจัดขึ้นใน ๕ ช่วงตั้งแต่วันที่ ๒๕ พ.ค. ถึง ๑๕ มิ.ย.ปีนี้ โดยจะมีการใช้กำลังทั้งทางอากาศ ทางทะเล และทางบก และจะรวมถึงเครื่องบินขับไล่ F-35A, AH- เฮลิคอปเตอร์ 64-Apache รถถังต่างๆ และเครื่องยิงจรวดหลายลำ
นอกจากนี้ยังเป็นการฉลองครบรอบ ๗๐ปีของการเป็นพันธมิตรระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกา และครบรอบ ๗๕ ปีของกองทัพเกาหลีใต้
บทความของเกาหลีเหนือชื่อ “ No End to the Ceaseless War Moves”ระบุว่า “เป็นสิทธิอันชอบธรรมของประเทศอธิปไตยที่จะจัดหาวิธีการป้องกันตนเองที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อรับมือกับสถานการณ์ร้ายแรงและภัยคุกคามที่จะเกิดขึ้น ”
“การเคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่งของสงครามนิวเคลียร์ของสหรัฐอเมริกาและหุ่นเชิดเกาหลีใต้จะเชื้อเชิญให้มีการตอบโต้ที่เท่าเทียมกัน”
ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำเนียบขาวได้ประกาศ “ปฏิญญาวอชิงตัน” ซึ่งเป็นข้อตกลงระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาว่าด้วย “การยับยั้งนิวเคลียร์” ซึ่งบทความนี้อธิบายว่าเป็น “ภัยคุกคามนิวเคลียร์และการแบล็กเมล์ต่อ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี” การเคลื่อนไหวของสหรัฐและพันธมิตรในย่านนี้ ไม่ได้มีแต่เกาหลีใต้ ทั้งญี่ปุ่นและบางประเทศในอาเซียน ได้เปิดฐานทัพให้สหรัฐฯประจำการอย่างเป็นทางการ องค์กรพันธมิตรทางทหารของสหรัฐฯทั้งออคัสและควอดได้หลอมรวมกับนาโต้ กลายเป็นนาโต้สาขาเอเชียอย่างโจ่งแจ้ง ประกาศต้านจีน ทำลายล้างรัสเซียเป็นสำคัญ และแน่นอนหมายหัวเกาหลีเหนืออย่างชัดเจนเช่นกันด้วย
สถานการณ์ทั้งในคาบสมุทรเกาหลี และทะเลจีนใต้จึงระอุคุกรุ่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน!!???