ซัดกันเดือดเมื่อหัวหน้าสายลับชั้นนำของรัสเซียบอกให้สหรัฐฯและอังกฤษ ‘ไปลงนรกซะ’ สุดทุนที่สหรัฐฯและอังกฤษแทรกแซงทำลายประเทศในตะวันออกกลางไม่จบสิ้น ล่าสุดยังไล่บี้อิหร่านด้วยข้ออ้างสารพัด ป้ายหน้ารัสเซีย จีน อิหร่านเป็นตัวอันตรายของโลก ความจริงมันตรงกันข้าม เพราะต้นเหตุของความขัดแย้งและสงครามทั่วโลก คือกลุ่มมหาอำนาจขั้วเดี่ยวแองโกลแซกซอน ที่หวังครองโลกควบคุมทรัพยากรโลกแต่เพียงผู้เดียว มีสหรัฐฯและสหราชอาณาจักรเป็นแกนหลัก
วันที่ ๒๕ พ.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์ รายงานว่า เซอร์เก นาริชคิน(Sergey Naryshkin) หัวหน้าหน่วยข่าวกรองต่างประเทศของรัสเซีย (SVR)แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายของทั้งสองประเทศที่มีต่ออิหร่าน โดยแนะนำให้วอชิงตันและลอนดอนคำนึงถึงเรื่องของตัวเอง
Naryshkin กล่าวว่า “สหรัฐฯ และอังกฤษควรปล่อยอิหร่านไว้ตามลำพัง ทั้งสองประเทศรู้สึกผิดหวังกับความสำเร็จของความพยายามของจีนในการเจรจาไกล่เกลี่ยระหว่างอิหร่านและซาอุดีอาระเบีย จึงเร่งเดินหน้าต้านจีน บับอิหร่านทุกวิถีทาง”
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา Naryshkin กล่าวว่า “แองโกล – แซกซอนควรดูแลความขัดแย้งทางแพ่งภายในของพวกเขาเอง หรือดีกว่านั้น กลับไปหาเพื่อนเก่าของพวกเขา – ปีศาจในนรก”
เขาเน้นว่า “วอชิงตันและลอนดอนมองความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านและซาอุดีอาระเบียที่ปรับให้เป็นปกติเมื่อเร็วๆนี้ในแง่ลบอย่างสิ้นเชิง พันธมิตรทั้งสองระแวงว่ากิจกรรมทางการทูตของปักกิ่งในภูมิภาคจะบ่อนทำลายกลยุทธ์ระยะยาวของพวกเขาในการทำให้สาธารณรัฐอิสลามอ่อนแอลง แตกแยกกันเพื่อพวกเขาจะแทรกแซงควบคุมได้ง่าย”
Naryshkin กล่าวว่าหน่วยงานรัฐบาลของอเมริกาและอังกฤษได้รับมอบหมายให้ขัดขวางความพยายามทางการทูตของจีน และทำลายชื่อเสียงของจีนในฐานะผู้ไกล่เกลี่ย เขาโยงถึงเนื้อหาเรื่องเล่าถึงผลกระทบนี้ในสื่อ และเสริมว่าสหรัฐฯ และอังกฤษไม่น่าจะประสบความสำเร็จกับแคมเปญป้ายสีใส่ร้ายประเทศอื่นที่พวกเขากล่าวหา”
สายลับชั้นนำของรัสเซียแย้งว่ามหาอำนาจตะวันตกสามารถมีบทบาทในการสร้างหลักประกันความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองของโลกได้ แต่เป็นเพียงหนึ่งในศูนย์กลางของโลกหลายขั้วเท่านั้น “ความไร้สาระบ้าๆ”ของประเทศเหล่านี้ทำให้พวกเขาไม่สามารถแสดงท่าทีที่เท่าเทียมกับผู้เล่นคนอื่นๆได้
Naryshkin กล่าวอ้างคำพูดจากพระคัมภีร์เสริมว่า“จุดจบของพวกเขาจะสอดคล้องกับการกระทำของพวกเขา”และทำนายว่าชะตากรรมของอเมริกาและอังกฤษ“จะมีจุดจบที่น่าเศร้า”
ไม่ว่าสหรัฐฯและสหราชอาณาจักรจะวิพากษ์แบบไหน สื่ออิหร่านหลายสำนักรายงานเมื่อวันอังคารว่าเตหะรานได้แต่งตั้งเอกอัครราชทูตคนใหม่ประจำซาอุดีอาระเบียแล้ว และประกาศแผนการเปิดสถานทูตของทั้งสองระหว่างกันอีกครั้ง
ทั้งสองประเทศตกลงในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูต หลังจากตัดขาดกันในปี๒๕๕๙
การเจรจาระหว่างริยาดและเตหะรานได้รับการอธิบายว่าเป็นชัยชนะทางการทูตครั้งสำคัญสำหรับจีน โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้เกลี้ยกล่อมให้ทั้งสองประเทศแก้ไขปัญหาเป็นการส่วนตัว รายงานโดยหนังสือพิมพ์ People’s Daily ของจีนเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา การเจรจาครั้งนั้นไม่มีการปรากฏตัวของสหรัฐฯเกี่ยวข้องแต่อย่างใด เป็นฝีมือสี จิ้นผิงล้วนๆ
นั่นคือการเคลื่อนไหวของหัวหน้าสปายของรัสเซีย ที่มุ่งเน้นไปที่ภารกิจทางยุทธศาสตร์ สร้างความเป็นปึกแผ่นในหมู่พันธมิตรรัสเซียอย่างเอาการเอางาน ในขณะที่หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯและอังกฤษ เน้นไปที่ท่วงทำนองสนับสนุนก่อการร้ายอย่างชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งแพ้รัสเซียในสงครามตัวแทนยูเครน ยิ่งออกอาการใช้วิธีก่อการร้ายหนักข้อขึ้น
การเคลื่อนไหวล่าสุดของหัวหน้าหน่วยข่าวกรองยูเครน เมื่อแพ้ศึกแล้วก็ประกาศอาฆาตมาดร้ายต่อปธน.ปูติน และเยฟเกนี ปริโกชินผู้นำวากเนอร์อย่างโจ่งแจ้ง เป็นท่าทีของอาชญากรที่องค์กรโลกบาลทั้งหลายพากันปิดหู ปิดตาไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ยิน
วาดิม สกีบิตสกี(Vadim Skibitsky) รองหัวหน้าสำนักข่าวกรองของประเทศเปิดเผย ว่าผู้ใต้บังคับบัญชาของเขากำลังตามล่าผู้บัญชาการทหารระดับสูงของรัสเซีย
ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อ Die Welt ของเยอรมนีเมื่อวันพุธที่ผ่านมา Skibitsky ถูกถามว่าบริการของเขากำลังพยายามลอบสังหารประมุขแห่งรัฐของรัสเซียหรือไม่ เจ้าหน้าที่ยูเครนตอบว่าประธานาธิบดีปูติน “สังเกตเห็นว่าเรากำลังเข้าใกล้เขามากขึ้นเรื่อย ๆ ” เราต้องการฆ่าปูตินและเยฟเกนี ปริโกชินแห่งวากเนอร์
และนี่คือความดิบเถื่อนของเคียฟและแองโกลแซกซอน ที่แสดงออกอย่างเย่อหยิ่งถือว่ามีพวกมากรุมรัสเซียจะชนะ แต่ตลอดสงครามตัวแทนยูเครน ๑ ปีที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่า พูดน้อยต่อยหนักอย่างรัสเซียกำชัยชนะเห็นๆทั่งการรบและเศรษฐกิจ หัวหน้าและรองหัวหน้าฝ่ายข่าวกรองยูเครน อาจไม่มีเงาหัวหรือมีสภาพเหมือนผู้บัญชาการทหารสูงสุดของยูเครนที่เจ็บสาหัสไม่ตายแต่ทำงานต่อไม่ได้อะไรก็เกิดขึ้นได้ เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์!!??