ที่ฝรั่งเศส ก็ไม่ปล่อยให้ใครหยาบหยามประมุขของประเทศตามอำเภอใจ ผู้โพสต์เปรียบเทียบ Macron เหมือนกับผู้นำลัทธิทหารสุดโต่งสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ ถูกตรวจสอบไล่ล่ามาลงโทษแล้ว ผู้กระทำผิดจะถูกลงโทษทั้งจำคุกและปรับ ฐานดูหมิ่นประธานาธิบดี รวมทั้งแกนนำผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาล
วันที่ ๒๒ พ.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์รายงานว่า เจ้าหน้าที่ในเมืองอาวิญงของฝรั่งเศสได้เปิดการสอบสวนหลังจากผู้โพสต์ปรากฏบนถนนเปรียบเทียบประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงกับอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ เอเอฟพีรายงานโดยอ้างสำนักงานอัยการของเมือง ฟลอเรนซ์ กัลติเยร์
เจ้าหน้าที่กล่าวว่าผู้กระทำความผิดจะถูกจำคุก ๒ เดือนและปรับ ๗,๕๐๐ ยูโร หรือ ๘,๑๑๐ ดอลลาร์ สำหรับการ “ยั่วยุที่ทำให้เกิดการกบฏ”รวมถึงปรับอีก ๑๒,๐๐๐ ยูโรสำหรับการดูหมิ่นประธานาธิบดี รวมเป็น ๑๙,๕๐๐ เป็นเงินไทยประมาณ ๗.๒๔ แสนบาท
โปสเตอร์ต่อต้านมาครงราว ๓๐ แผ่นที่ติดอยู่บนป้ายโฆษณาถูกค้นพบเมื่อวันพฤหัสบดี พวกเขาแสดงให้เห็นประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่มีผมหงอกและหมายเลข ๔๙.๓ บนใบหน้าซึ่งดูเหมือนหนวดสีดำขนาดเล็ก เป็นการอ้างอิงถึงมาตรา ๔๙.๓ ของรัฐธรรมนูญฝรั่งเศส ซึ่งรัฐบาลใช้บังคับเมื่อเดือนมีนาคมเพื่อผลักดันการปฏิรูประบบบำเหน็จบำนาญที่เป็นที่ถกเถียงกัน โดยไม่ได้รับการสนับสนุนจากสภาแห่งชาติ
โปสเตอร์ดังกล่าวเป็นการจำลองภาพจิตรกรรมฝาผนังที่วาดโดยศิลปินกราฟิตีท้องถิ่นในลานจอดรถอาวิญงเมื่อเดือนที่แล้ว จิตรกรรมฝาผนังถูกทำลายอย่างรวดเร็วตามคำร้องขอของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น
การปฏิรูปเงินบำนาญของมาครง ซึ่งจะเพิ่มอายุเกษียณจาก ๖๒ เป็น ๖๔ ปี ได้จุดชนวนการประท้วงในปารีสและเมืองอื่นๆ บางแห่งลุกลามเป็นการจลาจลและการปะทะกับตำรวจ การใช้มาตรา ๔๙.๓ ถูกฝ่ายค้านและประชาชนวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง
ก่อนหน้านี้ในปี ๒๐๒๑ เจ้าของป้ายโฆษณารายหนึ่งถูกปรับ ๑๐,๐๐๐ ยูโรจากการวาดภาพมาครงเป็นผู้นำทหารสุดโต่งเยอรมนีสมัยสงครามโลกครั้งที่สองเพื่อประท้วงข้อจำกัดของโควิด-19
ผู้ประท้วง 3 คนจากชุมชนเซเลสแตท ใกล้ชายแดนเยอรมนี ถูกตั้งข้อหาทางอาญาหลังจากแสดงท่าทางลามกอนาจารใส่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส ระหว่างเดินทางเยือนเมืองเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทั้งสามคนยอมรับผิดในข้อหาดูหมิ่นบุคคลที่มีอำนาจรัฐ อัยการแคทเธอรีน โซริตา-มินาร์ด แห่งเมืองกอลมาร์ที่อยู่ใกล้เคียงประกาศ
สำหรับการชูนิ้วกลางให้ผู้นำของพวกเขา ชายและหญิงสองคนอาจถูกลงโทษจำคุกสูงสุดหนึ่งปีและปรับ ๑๕,๐๐๐ ยูโร ผู้ประท้วงซึ่งไม่มีประวัติอาชญากรรมใดๆ มีอายุระหว่าง ๒๓ ถึง ๔๒ ปี พวกเขาจะขึ้นศาลในเดือนกันยายนนี้ บุคคลที่ ๔ ถูกจับกุมเช่นกัน แต่ยังไม่ถูกตั้งข้อหาเนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ
มาครงเผชิญกับการต่อต้านอย่างหนักในขณะที่เขาเดินทางไปทั่วประเทศเพื่อพยายามโน้มน้าวให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งของเขาเห็นคุณค่าของแผนปฏิรูปเงินบำนาญที่เขาลงนามในกฎหมายเมื่อต้นเดือนเมษายน ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากสองในสามของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง กฎหมายเพิ่มอายุเกษียณขึ้นอีกสองปีและขยายระยะเวลาของการจ้างงานที่จำเป็นในการรับเงินบำนาญเต็มจำนวนทำให้กลุ่มผู้รับบำนาญที่รอมาทั้งชีวิตรับไม่ได้ มาครงเลือกเวลาที่ประเทศกำลังเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจเท่ากับซ้ำเติมชีวิตของประชาชนคนธรรมดา ขณะที่รัฐบาลและเศรษฐีทั้งหลายไม่ได้รับผลกระทบจากกฎหมายใหม่นี้ เป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ประชาชนสุดทนจึงเกิดการประท้วงยาวนาน จลาจลหลายที่ขณะที่ผู้นำประเทศเดินสายหนีหน้าไปจีน เพื่อชักจูงจีนให้เทรัสเซียแม้ไม่สำเร็จแต่ได้โครงการและการจัดซื้อมูลค่าก้อนโตจากจีน

จุดยืนมาครงยังเร่งเดินหน้าหนุนยูเครนต่อไปทั้งการทหารและการเงิน ขณะที่ปากบอกต้องการสันติภาพหนุนจีนเดินหน้าเจรจา แต่ส่งอาวุธให้ยูเครนถี่ๆ รับปากทุกอย่างที่เซเลนสกี้ขอในที่ประชุม G7 จากนั้นก็มุ่งหน้ามองโกเลียเจาะเพื่อนบ้านรัสเซียต่อไม่กลับบ้านเหมือนเซเลนสกี้เปี๊ยบ
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีได้จัดการประชุมทวิภาคีที่มีประสิทธิผลกับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส และหารือในประเด็นต่างๆ มากมาย รวมถึงความร่วมมือในด้านการค้าและเศรษฐกิจ การผลิตร่วมและการผลิตในภาคกลาโหม และความร่วมมือด้านนิวเคลียร์พลเรือน ผู้นำทั้งสองพบกันนอกรอบการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศเศรษฐกิจก้าวหน้ากลุ่มเจ็ด (G7) ที่ฮิโรชิมา ในระหว่างการพูดคุย พวกเขายังได้หารือถึงการ เยือนฝรั่งเศส ที่กำลังจะมาถึงของนายกรัฐมนตรีโมดีในเดือนกรกฎาคมเนื่องในวันบาสตีย์
กระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศสแถลงว่า “การพูดคุยครอบคลุมประเด็นต่างๆ มากมาย รวมถึงความร่วมมือในด้านการค้าและเศรษฐกิจ การบินพลเรือน พลังงานทดแทน; วัฒนธรรม; การผลิตร่วมและการผลิตในภาคการป้องกันประเทศ ความร่วมมือทางนิวเคลียร์พลเรือน พวกเขาตกลงที่จะขยายความร่วมมือไปยังโดเมนที่ใหม่กว่า Modi จะเข้าร่วมขบวนพาเหรดวัน Bastille ในกรุงปารีสในปีนี้ในฐานะแขกผู้มีเกียรติในวันที่ ๑๔ กรกฎาคมนี้”
กองกำลังติดอาวุธของอินเดียจะเข้าร่วมในขบวนพาเหรดพร้อมกับกองทัพฝรั่งเศส ในโอกาสครบรอบ ๒๕ ปีของหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อินเดีย-ฝรั่งเศส นายกรัฐมนตรีโมดีตอบรับคำเชิญของประธานาธิบดีมาครงของฝรั่งเศสแล้ว ขณะที่ประเทศฝรั่งเศสสงบชั่วคราวต้อนรับเทศกาลคานส์งานรวมเซเลบริตี้และดาราทั่วโลก สหภาพแรงงานยอมถอยแต่นัดชุมนุมและหยุดงานประท้วงอีกเดือน มิถุนายนนี้!!