ประเทศในอเมริกาใต้ให้คำมั่นว่าจะละทิ้งเงินดอลลาร์สหรัฐ ประธานาธิบดี Nicolas Maduro ของเวเนซุเอลาฟันธงชัดว่าการเคลื่อนไหวนี้จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศของเขาปลอดจากการถูกคว่ำบาตรจากเมกาและพวก ขณะที่BRICS กำลังพิจารณาที่จะเปิดตัวสกุลเงินสำรองใหม่เพื่อแทนที่เงินดอลลาร์อย่างคึกคัก
วันที่ ๑๙ พ.ค.๒๕๖๖ สำนีกข่าวรัสเซียทูเดย์รายงานว่า เวเนซุเอลากำลังวางแผนที่จะเปลี่ยนจากการใช้สกุลเงินดอลลาร์ในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน
ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร กล่าวเมื่อต้นสัปดาห์นี้ โดยอ้างว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยให้สาธารณรัฐโบลิวาเรียมีอิสระทางเศรษฐกิจ
เวเนซูเอลาเป็นประเทศล่าสุด ที่ประกาศแผนการลดพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐต่อสาธารณะ มาตรการที่คล้ายกันเพิ่งได้รับการประกาศเป็นทางการโดยอาร์เจนตินา บราซิล และอิรัก ในขณะเดียวกัน กลุ่มประเทศ BRICS กำลังพิจารณาที่จะเปิดตัวสกุลเงินสำรองใหม่เพื่อแทนที่เงินดอลลาร์
มาดูโรกล่าวเมื่อวันอังคารในการให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า “นี่คือเส้นทางของเวเนซุเอลาและเส้นทางของเศรษฐกิจเสรีที่ไม่ใช้สกุลเงินเพื่อลงโทษประเทศต่างๆ และกำหนดมาตรการคว่ำบาตร”
เวเนซุเอลาได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในห้าประเทศที่ได้รับการคว่ำบาตรมากที่สุดในโลก ประเทศในอเมริกาใต้ประสบปัญหาเศรษฐกิจหดตัวครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ เมือปีที่แล้ว วอชิงตันอนุญาตให้เชฟรอนรายใหญ่ด้านพลังงานของสหรัฐฯ กลับมาผลิตน้ำมันในจำนวนจำกัดในประเทศ แต่มาตรการคว่ำบาตรส่วนใหญ่ยังคงอยู่และยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเวเนซุเอลาต่อไป
นโยบายคว่ำบาตรที่ดำเนินมาอย่างยาวนานของทำเนียบขาว ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ ทำให้หลายประเทศทั่วโลกเริ่มมองหาทางเลือกอื่นแทนเงินดอลลาร์
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา อัลเบร์โต เฟอร์นันเดซ ประธานาธิบดีอาร์เจนตินา และลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ประธานาธิบดีบราซิล ตกลงที่จะพัฒนากรอบสำหรับการใช้สกุลเงินของประเทศในการทำธุรกรรมระหว่างกัน
เมื่อเดือนที่แล้ว อาร์เจนตินายืนยันการชำระเงินสำหรับการนำเข้าของจีนในสกุลเงินหยวนแทนที่จะเป็นดอลลาร์สหรัฐ ในความพยายามที่จะปกป้องทุนสำรองที่ลดลงของประเทศ ในเดือนมีนาคม จีนและบราซิลตกลงที่จะละทิ้งดอลลาร์ในธุรกรรมทวิภาคี เพื่อลดต้นทุนการลงทุนและพัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ ในเดือนกุมภาพันธ์ ธนาคารกลางของอิรักกล่าวว่าจะอนุญาตให้การค้ากับจีนสามารถชำระโดยตรงในสกุลเงินหยวนได้เป็นครั้งแรก
ต้นปีนี้ เงินหยวนได้รับความนิยมแซงหน้าดอลลาร์สหรัฐในธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศของจีนแล้ว
ในขณะที่สหรัฐอเมริกาและชาติตะวันตกอื่นๆ กำหนดมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียเพื่อตอบโต้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครน มอสโกว์และรัฐบาลจีนได้ร่วมมือกัน เพื่อลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์และเพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างระบบการเงินของพวกเขา
นับตั้งแต่ปี ๒๕๖๕ การค้าระหว่างรูเบิลกับหยวนเพิ่มขึ้นถึง ๘๐ เท่า รัสเซียและอิหร่านกำลังทำงานร่วมกันเพื่อเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลที่หนุนด้วยทองคำ ตาม รายงานของสำนักข่าวรัสเซีย เวดมอสตี (Vedmosti)
นอกจากนี้ ธนาคารกลางโดยเฉพาะของรัสเซียและจีน ได้ระดมซื้อทองคำ ในอัตราที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี ๒๕๑๐ เนื่องจากประเทศต่าง ๆ พากันกระจายทุนสำรองของตนออกจากเงินดอลลาร์อย่างมีนัยสำคัญ
การสร้างสกุลเงินร่วมของ BRICS จะเป็นหนึ่งในหัวข้อหลักสำหรับการสนทนาเมื่อกลุ่มประเทศแกนนำบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ ประชุมกันที่เมืองโจฮันเนสเบิร์กในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้
นาเลดี พันดอร์(Naledi Pandor) รัฐมนตรีต่างประเทศของแอฟริกาใต้กล่าวว่า การย้ายออกจากเงินดอลลาร์อาจทำให้ประเทศอื่นๆ มีอำนาจในตัวเองเพิ่มขึ้น และตั้งข้อสังเกตว่าโครงการนี้มีความท้าทาย: “เป็นเรื่องที่เราต้องหารือกันอย่างเหมาะสม ฉันไม่คิดว่าเราควรคิดว่าแนวคิดนี้จะได้ผลเสมอไป เพราะเศรษฐศาสตร์เป็นเรื่องยากมาก และคุณต้องคำนึงถึงทุกประเทศด้วย”
อิซาห์ มลังกา(Isaah Mhlanga) หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Rand Merchant Bank ซึ่งเป็นธนาคารเพื่อการลงทุนของแอฟริกาใต้ กล่าวว่าเขาคิดว่าแนวคิดที่ว่าสกุลเงิน BRICS สามารถยกระดับทำลายการครอบงำของเงินดอลลาร์ได้ “ในไม่ช้า” นั้น “ไม่ได้ถูกกำหนดโดยปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจใดๆ ที่เราเคยทราบ” เป็นเรื่องของปัจจัยใหม่ๆที่เกิดขี้นท่ามกลางการใช้เงินดอลลาร์เป็นอาวุธลงโทษประเทศอื่นๆของสหรัฐฯ
ดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินหลักของโลกตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง แปดสิบเปอร์เซ็นต์ของการทำธุรกรรมระหว่างประเทศดำเนินการในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และเกือบสองในสามของทุนสำรองสกุลเงินทั้งหมดในธนาคารกลางอยู่ในสกุลเงินดอลลาร์ ตลาดทุนของสหรัฐยังมีสภาพคล่องมากที่สุดในโลกอีกด้วย
เขามองว่าเป็นไปได้มากที่สุดที่จะให้รัฐสมาชิกแต่ละประเทศทำการค้าทวิภาคีมากขึ้นโดยใช้สกุลเงินของตนเอง ดังที่ได้เกิดขึ้นแล้วกับการค้าน้ำมันของรัสเซียและอินเดีย รัสเซียและจีน
มิคาเตคิโซ คูบายี(Mikatekiso Kubayi) ผู้เชี่ยวชาญ BRICS แห่งสถาบัน Institute for Global Dialogue ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยในพริทอเรีย กล่าวว่า “การค้าที่ง่ายขึ้นและเท่าเทียมมากขึ้นคือเหตุผลหลักที่สมาชิก BRICS ต้องการสกุลเงินที่ใช้ร่วมกัน”
“หลายประเทศที่ BRICS ทำการค้าด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางตอนใต้ของโลก พวกเขาล้วนมีความท้าทายร่วมกัน ค่าใช้จ่ายในการทำการค้าจริง ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน การครอบงำของสกุลเงินบางสกุลเหนือสกุลเงินอื่นๆ และอะไรทำนองนั้น การเข้าถึงการเงินราคาถูก การเงินราคาไม่แพงสำหรับโครงสร้างพื้นฐานของพวกเขาคือคำตอบที่พวกเขาต้องการร่วมกันอย่างจริงจัง”