ฮือฮาเมื่อคิสซิงเจอร์ออกมาสัมภาษณ์สื่อฉลองอายุครบ ๑๐๐ ปีว่านาโต้ควรรับยูเครนเป็นสมาชิก ส่งสัญญาณให้รู้ว่าอิลิทโลกไม่ต้องการสันติภาพ ขณะที่จีนซัดนาโต้ที่ไม่หยุดแค่ยูเครนกำลังขยายไปยังเอเชีย-แปซิฟิก ไม่ได้รับประกันความมั่นคงแก่ภูมิภาคใดไม่ว่าจะเป็นยุโรปหรือเอเชีย มีแต่จะโหมไฟความขัดแย้งให้ลามลึกจ่อขยายสงครามอันตรายต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมากกว่า
วันที่ ๑๙ พ.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวทาซซ์และเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงานว่า โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน หวัง เหวินปินย้ำ “เป็นไปไม่ได้ที่จะรับประกันความมั่นคงในภูมิภาคด้วยการเสริมกำลังและขยายกลุ่มทหารของนาโต้”
ความมั่นคงของประเทศหนึ่งไม่ควรได้รับการรับรองจากความปลอดภัยของผู้อื่น” เขาฟันธงเพื่อตอบสนองต่อคำขอของ TASS ที่ให้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำพูดที่เผยแพร่โดย Henry Kissinger อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ (2516-2520) และที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีสองคน (2512-2518) เกี่ยวกับการควบรวมของยูเครนกับนาโต้
จุดยืนของจีนในประเด็นยูเครนนั้นสอดคล้องและชัดเจน ยูเครนไม่ควรกลายเป็นแนวหน้าในการเผชิญหน้ากันระหว่างมหาอำนาจ ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน ทุกฝ่ายจำเป็นต้องอยู่ในความสงบ ใช้ความอดกลั้น และหลีกเลี่ยงการดำเนินการใด ๆ ที่อาจบานปลายหรือทำให้วิกฤตซับซ้อนยิ่งขึ้น ควรพยายามสร้างสถาปัตยกรรมการรักษาความปลอดภัยในยุโรปที่สมดุล มีประสิทธิภาพ และคงทนผ่านการสนทนาและการปรึกษาหารือ และหาทางออกที่เอื้อต่อสันติภาพและความมั่นคงที่ยั่งยืนในยุโรปอย่างแท้จริง
ในด้านความมั่นคงของยุโรป จุดยืนของเราก็สอดคล้องและชัดเจนเช่นกัน การเสริมสร้างความเข้มแข็งหรือแม้แต่ขยายกลุ่มทหารไม่ใช่วิธีที่จะรับประกันความปลอดภัยของภูมิภาคได้ ความมั่นคงของประเทศหนึ่งไม่ควรได้รับค่าใช้จ่ายจากความมั่นคงของประเทศอื่น เราหวังว่าทุกฝ่ายจะพยายามบรรลุการรักษาความปลอดภัยร่วมกัน ครอบคลุม ร่วมมือ และยั่งยืน และสร้างสถาปัตยกรรมการรักษาความปลอดภัยที่สมดุล มีประสิทธิภาพ และคงทนผ่านการสนทนาและการปรึกษาหารือ และบนพื้นฐานของการเคารพข้อกังวลด้านความปลอดภัยที่ถูกต้องตามกฎหมายของกันและกัน เพื่อให้ตระหนักถึงสันติภาพและ ความปลอดภัยที่ยั่งยืนในยุโรป
หวังกล่าวเสริมว่า “จีนคาดหวังให้ทุกฝ่ายในความขัดแย้งยึดมั่นในแนวคิดความมั่นคงร่วมกัน ครอบคลุม และยั่งยืน สิ่งนี้สามารถทำได้ผ่านการเจรจาและการปรึกษาหารือบนพื้นฐานของการเคารพต่อผลประโยชน์ด้านความปลอดภัยที่ชอบด้วยกฎหมายของทุกฝ่าย”
เมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคมที่ผ่านมา นิตยสาร The Economist ได้ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ของคิสซิงเจอร์ ซึ่งจะมีอายุครบ ๑๐๐ ปีในวันที่ ๒๗ พฤษภาคมนี้ ในการให้สัมภาษณ์ นักการทูตและผู้มีประสบการณ์ด้านภูมิศาสตร์การเมืองของสหรัฐฯ กล่าวว่า ยูเครนควรกลายเป็นรัฐสมาชิกของนาโต้ การเข้าเป็นส่วนหนึ่งของพันธมิตรแอตแลนติกเหนือของยูเครนจะเป็นผลประโยชน์ของทั้งเคียฟและมอสโกว์ และจะทำหน้าที่เป็นหลักประกันต่อความพยายามในอนาคตของผู้นำยูเครนในการแก้ไขข้อพิพาทด้านดินแดนด้วยวิธีการทางทหาร”
คิสซิงเจอร์ยอมรับว่าเขาได้เปลี่ยนมุมมองของเขาเกี่ยวกับการเป็นสมาชิกที่มีศักยภาพของยูเครนใน NATO โดยกล่าวว่าเขาต้องการหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ยูเครนกลายเป็นรัฐที่เป็นกลางที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
ที่ผ่านมาคิสซิงเจอร์แสดงความเห็นประมาณว่าอยากเห็นสันติภาพและตะวันตกควรสนับสนุนการเจรจา แต่มาวันนี้กลับลำบ่งบอกจุดยืนอิลิทโลกที่คิดว่าจะ กำราบรัสเซียได้ ถ้านาโต้ทุ่มกำลังให้ยูเครนลุยต่อไป
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม วอชิงตันโพสต์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่ากลุ่มประเทศ NATO ได้ตัดสินใจที่จะไม่ส่งคำเชิญให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกของพันธมิตรในการประชุมสุดยอดที่กำลังจะมีขึ้นในเมืองหลวงของลิทัวเนียในเมืองวิลนีอุส แต่กำลังหารือถึงความเป็นไปได้ในการยกระดับความร่วมมือกับเคียฟ และอาจกำหนดกรอบเวลาสำหรับการเข้าสู่กลุ่มทางทหารด้วย
ตามเอกสารเผยแพร่ที่มีอำนาจของสหรัฐฯ มีฉันทามติในหมู่สมาชิกของพันธมิตรว่า แม้ว่าเคียฟจะร้องขออย่างรุนแรง นาโต้จะไม่ขยายคำเชิญอย่างเป็นทางการให้ยูเครนเข้าร่วมกลุ่มในระหว่างการประชุมสุดยอดที่วิลนีอุสในวันที่ ๑๑-๑๒ กรกฎาคมที่จะถึงนี้
นาโต้รับรองคำประกาศทางการเมืองในการประชุมสุดยอดบูคาเรสต์ในเดือนเมษายน ๒๕๕๑ ว่า ในที่สุดยูเครนจะกลายเป็นสมาชิกของนาโต้ แต่ปฏิเสธที่จะให้แผนปฏิบัติการสมาชิกภาพ (MAP) ซึ่งเป็นขั้นตอนแรกในกระบวนการทางกฎหมายของประเทศสมาชิกที่คาดหวังในการเข้าร่วมองค์กร ในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ รัฐสภายูเครน ได้อนุมัติการแก้ไขรัฐธรรมนูญของยูเครนเพื่อยกย่องความปรารถนาของ NATO ให้เป็นกฎหมายรองรับ ประธานาธิบดียูเครน เซเลนสกี กล่าวซ้ำๆ ว่าเคียฟกำลังพยายามทำความเข้าใจเกี่ยวกับวันที่ยูเครนคาดว่าจะเข้าร่วมเป็นพันธมิตรนาโต้มีขั้นตอนลัดอย่างไร
แม่แต่การเดินทางครั้งล่าสุดของทูตพิเศษจีน ที่ปธน.สี จิ้นผิงแต่งตั้งให้ทำหน้าที่ประสานงานการเจรจาสงบศึก ระหว่างรัสเซียและยูเครนก็ดูท่าจะล้มเหลว เพราะที่ไปคุยเป็นทีมงานของเซเลนสกี้และยืนยันว่า จะต้องถือเอาแผนสันติภาพของยูเครนเท่านั้นในการตั้งโตะเจรจา ทูตจีนยกทีมไปคุย ๒ วันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเพราะเบื้องหลังปัญหาที่แท้จริงคือ อิลิทแองโกลแซกซอนที่ไม่ยอมจบ ดูท่าทีคิสซิงเจอร์ก็บ่งบอกแล้วว่าอะไรเป็นอะไร ตอนนี้หลายชาติมากันมาเสนอเป็นคนกลางเจรจา ทั้งตุรกี อาฟริกา บราซิล ทั้งๆที่รู้ว่าปัจจัยชี้ขาดไม่ได้อยู่ที่ยูเครน ก็ยังเล่นละครโรงใหญ่กันอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย รัสเซียรู้ดีว่า คำตอบของสันติภาพไม่มีวันเกิดขึ้นหากรัสเซียไม่ชนะให้เด็ดขาด!!