“พิธา” แถลงผุดคณะเจรจาตั้งรบ. อ้างทุกพรรคตกผลึกแก้112 ชลน่านพท.โยนเข้าMOU ขณะ “หญิงหน่อย” ตาใส ทุกพรรคต้องรักษา 3 สถาบันไว้

0

“พิธา” แถลงผุดคณะเจรจาตั้งรบ. อ้างทุกพรรคตกผลึกแก้112 ชลน่านพท.โยนเข้าMOU ขณะ “หญิงหน่อย” ตาใส ทุกพรรคต้องรักษา 3 สถาบันไว้

จากกรณีที่วันนี้ (18 พฤษภาคม 2566) ที่โรงแรมโอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ นายปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม และพรรคเพื่อไทรวมพลัง ร่วมแถลงข่าวผลเจรจาพรรคการเมืองจัดตั้งรัฐบาลประชาชน

โดยนายพิธา กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการมีจำนวนผู้แทนราษฎรรวมกันทั้งสิ้น 313 คน พวกเราทุกพรรคขอขอบคุณทุกเสียงที่ประชาชนมอบให้ ซึ่งเสียงของประชาชนทุกเสียงคือเสียงแห่งความหวัง คือเสียงแห่งการเปลี่ยนแปลง รัฐบาลชุดใหม่จะทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ต่ออำนาจของประชาชนและเราจะเป็นรัฐบาลของคนไทยทุกคน ทุกพรรคประกาศจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชนร่วมกันดังต่อไปนี้

1.ทุกพรรคเห็นชอบที่จะสนับสนุนนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ตามข้างมากของผลการเลือกตั้ง

2.ทุกพรรคจะทำข้อตกลงร่วม หรือ MOU ในการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อแสดงถึงแนวร่วมในการทำงานร่วมกันและวาระร่วมกันของทุกพรรค และจะแถลงต่อสาธารณะชนในวันที่ 22 พ.ค.ที่จะถึง เพื่อแก้ไขวิกฤตทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม

3.ทุกพรรคจะจัดตั้งคณะทำงานเพื่อเปลี่ยนผ่านรัฐบาลเพื่อเตรียมความพร้อมให้สามารถบริหารราชการแผ่นดินต่อจากรัฐบาลเดิมได้อย่างไร้รอยต่อ

เมื่อถามถึงข้อเป็นห่วงในเงื่อนไขการแก้ไขมาตรา 112 นายพิธา กล่าวว่า ไม่มีความห่วงใยเพราะเรากำลังจัดทำทั้งเรื่องของคณะกรรมการที่จะใช้เจรจาการเข้าร่วมรัฐบาล รวมถึงคณะที่จะมีการเปลี่ยนผ่านอำนาจของประชาชนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นขอให้รอรายละเอียดในวันที่ 22 พ.ค.เลยทีเดียว ซึ่งเรื่องเกี่ยวกับมาตรา 112 ทุกพรรคตกผลึกแล้วไม่มีอะไรน่ากังวลใจ

ด้านนพ.ชลน่าน กล่าวว่า ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยจะสนับสนุนนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 และร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลเพื่อเป็นรัฐบาลแห่งความหวังและความฝันของประชาชนให้ได้ ขอยืนยัน แม้จะยืนยันเป็นครั้งที่ 100 500 หรือ 600 ก็ยอม ส่วนแนวทางที่เราประกาศที่จะเข้าร่วมการจัดตั้งรัฐบาล เรื่องแรกเราไม่ได้เป็นคนเสนอเงื่อนไข เรายกให้เป็นหน้าที่ของพรรคแกนนำเป็นผู้เสนอซึ่งข้อเท็จจริงในการดำเนินการก็ผ่านกระบวนการของการจัดทำร่างตกลงร่วมมาให้ทุกพรรคช่วยกันดู ซึ่งขั้นตอนนี้แต่ละพรรคก็ดูว่าอะไรที่เราเห็นว่ารับได้ หรือสมควรปรับแก้ หรือไม่สามารถไปด้วยกันได้ ก็จะพิจารณา

แต่ร่างดังกล่าวก็ไม่ได้ผูกมัดอะไรมากนัก ก็เปิดโอกาสให้พรรคต่างๆเสนอ เช่นเรื่องมาตรา 112 ก็อยู่ในเนื้อหาของ MOU ถ้าเราลงนามร่วมกันนั่นหมายความว่ามันมีข้อตกลงที่สรุปจบแล้ว เสนอให้กับพรรคซึ่งก็เป็นไปตามเงื่อนไขที่เราเสนอให้พรรคแกนนำ เพราะฉะนั้นนายพิธา จึงตอบชัดได้ว่าถึงขั้นตอนนี้มันไม่ได้เป็นประเด็นที่เราจะไม่ร่วมกันในกรณีมาตรา 112 เพราะมีข้อตกลงร่วมที่ทุกคนหาทางออกร่วมกันได้

ขณะที่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทยยืนยันว่าหลักการของเราได้พูดเป็นสัญญาประชาคมตั้งแต่ในระหว่างการรณรงค์หาเสียงว่าเราสนับสนุนให้ทุกฝ่ายเดินตามครรลองของประชาธิปไตย เมื่อพรรคก้าวไกลได้เสียงสนับสนุนจากประชาชนเป็นอันดับหนึ่ง เรายกมือสนับสนุนให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี

ส่วนประเด็นมาตรา 112 หน้าที่ของพรรคการเมืองทุกพรรคตามรัฐธรรมนูญเลยรักษาชาติจะต้องรักษาชาติศาสตร์ กษัตริย์ไว้ ดังนั้นการที่จะทำอะไรแล้วจะกระทบทำให้สถาบันเกิดความเสื่อมเสีย ที่ของทุกพรรคการเมืองจะต้องปกป้อง ส่วนประเด็นการที่ผู้มีอำนาจมาใช้ประเด็น 112 เพื่อกลั่นแกล้งหรือทำร้ายกัน คงจะต้องต้องมีการมาพิจารณาและมาดูแต่ประเด็นของการที่จะทำให้มาตรา 112 ปกป้องสถาบันได้อย่างดีและไม่เป็นเครื่องมือให้กับใครที่มีอำนาจในการไปทำร้ายคนอื่นเป็นยืนยันจะต้องปกป้องสถาบัน และไม่ต้องการให้ใครใช้มาตรา 112 ไปทำร้าย