แนวรบภาคพื้นดินในสนามรบยูเครนยังดุเดือด แม้รัสเซียเดินหน้ารุกด้วยลูกยาวต่อเนื่องมาหลายวัน ล่าสุดกลาโหมได้เปิดตัว ปืนใหญ่อัตตาจร 152 มม. 2S43 “Malva” รุ่นใหม่เข้าประจำการแล้ว ไว้ลุยกับรถถังนาโต้ที่ทยอยส่งมาให้ยูเครนผ่านโปแลนด์เป็นระยะ รอชมฉากปะทะในไม่ช้า
วันที่ ๑๘ พ.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์รายงานว่า อเล็กซานเดอร์ ปาตาพอฟ(Aleksandr Potapov) ผู้อำนวยการของบริษัท UVZ หรือ UralVagonZavod เปิดเผยเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า
“รัสเซียได้ติดตั้งระบบปืนใหญ่ใหม่ ปืนฮาวิตเซอร์ขับเคลื่อนด้วยตัวเองของ Malva เป็นระบบที่เทียบเคียงกับระบบที่ผลิตในฝรั่งเศสซึ่งใช้งานโดยเคียฟ”
2S43 Malva ปืนใหญ่อัตราจรขับเคลื่อนด้วยตัวเองลำแรกของรัสเซีย ประสบความสำเร็จในการทดสอบและเข้าประจำการแล้ว อาวุธดังกล่าวเป็นคำตอบของมอสโกว์ไว้ต่อกรกับต่อปืนครกซีซาร์ที่ผลิตในฝรั่งเศส ซึ่งบางส่วนถูกส่งไปยังยูเครนตั้งแต่ปีที่แล้วและยังมีเหลือใช้อยู่
“มัลวากำลังจะเข้าร่วมกับกองทหาร เร็วๆ นี้ ทุกอย่างเรียบร้อยดี” Potapov กล่าวกับสำนักข่าว TASS ระหว่างงานแสดงสินค้าอาวุธ MILEX-2023 ที่เมืองมินสค์ ประเทศเบลารุส
Malva หรือ Mallow ติดตั้งปืนขนาดลำกล้อง ๑๕๒ มม. ได้รับการออกแบบให้ยิงไปยังเป้าหมายที่หลากหลาย รวมถึงปืนใหญ่อัตตาจรของข้าศึกและขบวนรถหุ้มเกราะ มีความคล่องตัวมากกว่าและต้นทุนในการผลิตน้อยกว่าระบบติดตาม
ทางการรัสเซียได้สั่งให้เพิ่มการผลิตด้านกลาโหมหลังจากปฏิบัติการทางทหารของมอสโกว์ในยูเครน ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อกว่า ๑ ปีที่แล้ว เมื่อเดือนที่แล้ว รถถังหนักรุ่นใหม่ล่าสุด T-14 Armata ของรัสเซียถูกนำไปประจำการที่แนวหน้าเป็นครั้งแรก
ขณะนี้เคียฟกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการตอบโต้ที่ลือกันว่าเจ้าหน้าที่ของยูเครนกล่าวว่าจะเริ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ ยูเครนเน้นย้ำหลายครั้งว่าความสำเร็จของปฏิบัติการจะขึ้นอยู่กับการส่งมอบอาวุธจากตะวันตกเป็นอย่างมากทั้งภาคพื้นดินและกองกำลังทางอากาศ
ก่อนหน้านี้กลาโหมรัสเซียได้เปิดเผยยุทโธปกรณ์สำหรับแนวรบภาคพื้นดิน โดยได้เพิ่มการผลิต BMP-3 ซึ่งเป็นยานเกราะสนับสนุนทหารราบหลักของตนอย่างมาก บริษัทRostec ด้านการป้องกันประเทศของรัฐบาล ซึ่งดูแลการผลิตด้านกลาโหมกล่าวว่า โรงงาน Kurganmashzavod ทางตะวันออกของเทือกเขา Ural ผลิตยานเกราะต่อสู้ทหารราบเป็นจำนวนมากในไตรมาสแรกของปี ๒๐๒๓ นี้จำนวนเทียบเท่ากับที่ดำเนินการตลอดปี ๒๐๑๙
Rostec อธิบายว่าBMP-3 เป็น“ราชินีแห่งทหารราบ” ได้รับการออกแบบในทศวรรษที่ ๑๙๘๐ และได้กลายเป็นหนึ่งในยานพาหนะหลักของรัสเซียที่ใช้ในการขนส่งทหารและสนับสนุนกำลังรบด้วยอำนาจการยิง ยานพาหนะที่ถูกติดตามสามารถทำงานบนภูมิประเทศที่ยากลำบากและข้ามทางน้ำได้ มีอาวุธปืนขนาด ๓๐ มม. และจรวดต่อต้านเกราะ
“Kurganmashzavod กำลังขนส่งยานเกราะต่อสู้ทหารราบแทบทุกเดือน และจำนวนการส่งมอบก็เพิ่มมากขึ้น” Bekkhan Ozdoyev ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุธและกระสุนของ Rostec กล่าวในถ้อยแถลง เขาอธิบายว่ามีการจัดส่งชิ้นส่วนและโลหะเพิ่มเติมไปยังโรงงานเพื่อให้แน่ใจว่า”กระบวนการผลิตไม่หยุดชะงัก”สามารถผลิตได้ตามเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง
การส่งมอบยุทโธปกรณ์มีขึ้นในขณะที่เคียฟกำลังเตรียมการตอบโต้ ซึ่งความสำเร็จของเจ้าหน้าที่ยูเครนกล่าวว่าจะขึ้นอยู่กับการขนส่งอาวุธจากต่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งรวมถึงรถถังหลักและเครื่องบินรบ
คิริลล์ บูดานอฟ หัวหน้าหน่วยข่าวกรองทางทหารของยูเครน อ้างว่ามันจะเป็น”การต่อสู้ครั้งสำคัญ” ส่วนรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศยูเครน ดมิทรี คูเลบา ได้เรียกร้องให้ทุกคนอย่ามองว่าแผนรุกดังกล่าวเป็นปฏิบัติการชี้ขาดการรบอาจมีหลายรอบ
อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย ดมิทรี เมดเวเดฟ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าคณะมนตรีความมั่นคงของประเทศ กล่าวว่า มอสโกว์จะตอบโต้แผนการรบด้วย “การทำลายล้างครั้งใหญ่”ต่อกองกำลังผสมและยุทโธปกรณ์ที่ตะวันตกส่งมาให้ยูเครน
ปูตินประกาศว่ามอสโกว์วางแผนที่จะผลิตหรืออัพเกรดรถถังมากกว่า ๑,๖๐๐ คัน และประเทศนี้จะมีรถถังมากกว่ายูเครนถึงสามเท่า เมื่อเดือนที่แล้ว สื่อรัสเซียรายงานว่ารถถังรุ่นใหม่ล่าสุด T-14 Armata ถูกนำมาใช้ในยูเครนเป็นครั้งแรกแล้ว เรียกว่าภาคพื้นดินพร้อมรบเต็มพิกัด ไม่ว่านาโต้จะยาตราทัพเข้ามาในแผ่นดินรัสเซียอย่างเป็นทางการหรือไม่ รัสเซียก็ลุยสถานเดียว!!