ตะวันออกกลางยังไม่นิ่ง!? อิหร่าน-อียิปต์-อิรักยกระดับมั่นคง ขณะฉนวนกาซายังแลกจรวดแม้รับปากหยุดยิง

0

สถานการณ์ล่าสุดในกาซ่า อียิปต์หย่าศึกนองเลือด “อิสราเอล-ปาเลสไตน์” หลังมีผู้เสียชีวิตกว่า ๓๐ ราย

การหยุดยิงครั้งใหม่ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มปาเลสไตน์ อิสลามิก จีฮัด ( พีไอเจ ) มีผลบังคับใช้เมื่อเวลา ๒๒.๐๐ น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันเสาร์ที่ผ่านมา ( 02.00 น. วันอาทิตย์ตามเวลาในประเทศไทย ) ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศอียิปต์ซึ่งเป็นผู้ผลักดันการหยุดยิงครั้งนี้ และแทบทุกครั้งในอดีต เรียกร้องคู่กรณีทั้งสองฝ่ายยึดมั่นตามเงื่อนไขของข้อตกลง

ด้านพีไอเจของฝ่ายปาเลสไตน์ออกแถลงการณ์ ยอมรับและจะปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิง อย่างไรก็ตาม กองกำลังป้องกันอิสราเอล ( ไอดีเอฟ ) ใช้คำว่า “จะมีการประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา” เนื่องจากข้อตกลงหยุดยิงจะดำเนินไปได้อย่างลุล่วงมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับว่า จะมีการยิงจรวดข้ามเขตแดนออกมาจากฉนวนกาซาอีกหรือไม่

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ก่อนการหยุดยิงมีผลประมาณ ๓๐ นาที มีการยิงจรวดหลายสิบลูกข้ามเขตแดนจากฉนวนกาซามายังอิสราเอล กระนั้น ระบบป้องกันไอเอิร์นโดมของไอดีเอฟสามารถสกัดกั้นการโจมตีของจรวดเหล่านั้นได้จำนวนมากแต่มีทีเล็ดลอดข้ามแดนมายังเมืองของอิสราเอลด้วย

สำหรับการหยุดยิงครั้งนี้ เป็นการ “สงบศึก” ยาวนาน ๕ วัน ตามข้อตกลงต้องหยุดยิง ตั้งแต่วันที่ ๙ พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งคร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์มากกว่า ๓๓ ราย รวมถึงแกนนำพีไอเจอย่างน้อย ๖ ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า ๑๐๐ คน ส่วนในอิสราเอลมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย ๒ ราย จากการโจมตีด้วยจรวดของปาเลสไตน์ ที่เมืองเรโฮวอต

นอกจากนั้น การสู้รบรอบนี้เกิดขึ้นในช่วงครบรอบ ๒ ปี การต่อสู้ที่ยาวนาน ๒ สัปดาห์ เมื่อเดือน พ.ค. ๒๕๖๔ คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์มากกว่า ๒๕๐ ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า ๑,๐๐๐ คน ส่วนในอิสราเอลมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย ๑๔ ราย ในจำนวนนี้เป็นแรงงานไทย ๒ ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า ๑๑๐ คน

ฮามาสกล่าวผ่านสถานีวิทยุ Voice of Al-Aqsa ว่าจรวดที่ปล่อยออกจากฉนวนกาซาเกิดจาก “ข้อผิดพลาดทางเทคนิค” และอ้างว่ายังคงสนับสนุนการหยุดยิง

เสียงไซเรนดับลงก่อนพระอาทิตย์ตกดินในหลายเมืองทางตอนใต้ของอิสราเอล ทำให้ประชาชนวิ่งหนีหาที่หลบภัย แม้ว่าการพักรบจะมีผลบังคับใช้เมื่อเวลา ๒๒.๐๐น. ตามเวลาท้องถิ่น

วันที่ ๑๕ พ.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และทาซนิมนิวส์เปิดเผยว่า อิหร่านและอียิปต์กำลังอยู่ในแนวทางที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตและเปิดสถานทูตของตนอีกครั้ง 

สมาชิกของคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งชาติและนโยบายต่างประเทศของรัฐสภาอิหร่าน ฟาดา ฮอสเซน มาเลกี(Fada-Hossein Maleki) กล่าวเสริมว่าประธานาธิบดี อิบราฮีม ไรซี(Ebrahim Raisi) และ อัพเดล ฟาตา เอล-ซีซี(Abdel Fattah el-Sisi) ปธน.แห่งอียิปต์ขจะพบกันเป็นการส่วนตัวในอนาคตอันใกล้นี้ 

มาเลกีกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า “การเจรจาระหว่างเตหะรานและไคโรกำลังจัดขึ้นในอิรัก ผู้ร่างกฎหมายบรรยายบรรยากาศระหว่างการเจรจาว่าเป็นไปในเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญ” 

ในเดือนมกราคม กระทรวงต่างประเทศอิหร่านเปิดเผยว่า ฮอสเซน อามีร์-อับดอลลาห์ยาน รมว.ต่างประเทศของอิหร่าน ได้หารือกับประมุขแห่งรัฐของอียิปต์ในปลายปี ๒๕๖๕ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวในเวลานั้นว่าทั้งสองประเทศ “โดยพื้นฐานแล้วไม่มีปัญหาสำหรับการเจรจา การประชุม และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อเนื่อง”

Egypt’s President Abdel Fattah El Sisi and Iranian President Ebrahim Raisi. Reuters

ความสัมพันธ์ระหว่างไคโรและเตหะรานถูกตัดขาดในปี ๒๕๒๓ หลังการปฏิวัติอิสลามในอิหร่าน  

ในขณะเดียวกัน ในช่วงกลางเดือนมีนาคม อิหร่านและซาอุดีอาระเบียที่เป็นคู่แข่งกันมาอย่างยาวนานประกาศว่าพวกเขากำลังเดินหน้าฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูต ซึ่งทั้งคู่ได้ยุติความสัมพันธ์ลงในปี ๒๕๕๙

การเจรจาและข้อตกลงที่ตามมาระหว่างมหาอำนาจในภูมิภาคทั้งสองโดยมีจีนเป็นตัวกลางซึ่งสหรัฐฯ ไม่มีบทบาทในเรื่องนี้แต่อย่างใด ส่งผลให้ดุลกำลังในภูมิภาคพลิกฟื้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

ความจริงที่ว่าปักกิ่งสามารถให้คู่แข่งทั้งสองพูดคุยและบรรลุข้อตกลงได้นั้นถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญของการทูตจีน  

ริยาดยังเข้าร่วมการเจรจากับกลุ่มกบฏชีอะห์ฮูตีในเยเมนเมื่อเดือนที่แล้ว ทำให้เกิดความหวังว่าความขัดแย้งนองเลือดซึ่งดำเนินมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๘ อาจสิ้นสุดลงในไม่ช้า 

สงครามในเยเมนถูกมองว่าเป็นสงครามตัวแทนระหว่างซาอุดีอาระเบียและอิหร่าน ปลายเดือนที่แล้ว หนังสือพิมพ์จีน People’s Daily รายงานว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มีบทบาทสำคัญในการโน้มน้าวให้ริยาดและเตหะรานปรับความสัมพันธ์ให้เป็นปกติ  และวันนี้ทุกอย่างเดินหน้าไปไกลเกินกว่าที่วอชิงตันจะขัดขวางได้