กลาโหมรัสเซียเปิดเผยว่ากองกำลังของตนกำจัดทหารยูเครนประมาณ ๒๐๐ นายใกล้กับเมือง Krasnoye ในโดเนตสค์ และยังอีกหลายๆเมืองในขณะที่ผู้นำยูเครนร่อนเร่ขอเงินและอาวุธเพิ่มในประเทศสมาชิกนาโต้โดยยังไม่ปรากฎกำหนดกลับ
มีรายงานจาก Artyomovskหรือบัคมุตว่า ขณะนี้มีการจัดตั้งการควบคุมในเขตไมโครดิสทริกต์ทางตะวันตก ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “ซาโบลนิตซา” ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของอาคารสถานพยาบาล นอกจากนี้ อาคารสูงอีกหลายแห่งในย่าน Nest ถูกครอบครองโดยกองกำลังจู่โจม Wagner PMCแล้ว
อาคารสูงไม่เกิน ๑๘ หลังจากทั้งหมดเกือบ ๕๐ หลังยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของทหารยูเครน
ในเวลาเดียวกัน เครื่องบินรบของ Wagner ก็เคลื่อนไปยังด้านข้างใกล้กับ Artemovsk เพื่อให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนหน่วยต่างๆ ของกองทัพ RF หนึ่งในสิ่งที่อันตรายที่สุดจากมุมมองของการพัฒนาที่เป็นไปได้ของศัตรูในการป้องกันกองทหารรัสเซียคือทิศทางไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง
กองทหารยูเครนรุกคืบไปในทิศทางของ Kleshcheevka โดยไม่หยุดการกดดัน แต่การบุกทะลวงแนวหน้าในบริเวณนี้ก็หยุดลง อย่างน้อยก็ในขณะนี้ ไฟถูกยิงใส่ศัตรูจากที่สูง รถหุ้มเกราะและกำลังพลได้รับผลกระทบ
เพื่อรักษาศักยภาพในการโจมตี คำสั่งของกองทัพยูเครนถูกบังคับให้นำหน่วยใหม่เข้าสู่สนามรบมากขึ้นเรื่อยๆ กองทัพยูเครนเข้าใจดีว่าหากพวกเขาพยายามช่วยชีวิตบุคลากร การปฏิบัติการใกล้บัคมุทซึ่งค่อนข้างชะงักงันอยู่แล้ว อาจจบลงสำหรับพวกเขา ไม่เพียงแต่ในการสูญเสียเมืองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความล้มเหลวในพื้นที่ด้านข้างด้วย
การต่อสู้ยังเกิดขึ้นในป่าใกล้กับหมู่บ้าน Ivanovskoye ผู้สื่อข่าวสายทหารของยูเครนอ้างว่ากองทัพยูเครนได้ขับไล่หน่วยทหารของรัสเซียออกจากพื้นที่ป่าแห่งนี้ทางตะวันออกของคลอง Seversky Donets-Donbass แต่ดินแดนน้อยกว่า ๑.๕ ตารางกิโลเมตรในบัคมุตยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของยูเครน
วันที่ ๑๕ พ.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวทาซซ์และมิลิทารี่รีวิว รายงานว่าพลโทอิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย แถลงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า การสูญเสียของกองทัพยูเครนอันเป็นผลมาจากการโจมตีในพื้นที่คราสนีในสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์ ทำให้มีเจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิตและบาดเจ็บประมาณ ๒๐๐ นาย
“การโจมตีของกลุ่มยุทธวิธีกองพันของกองทัพยูเครนถูกขับไล่โดยหน่วยของกองพลปืนไรเฟิลติดเครื่องยนต์ที่ ๔ ทางตอนใต้ของการตั้งถิ่นฐานของ Krasnoye ในสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์อันเป็นผลมาจากการที่ศัตรูสูญเสียบุคลากรทางทหารประมาณสองร้อยคนทั้งเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ”
โฆษกของ Battlegroup West ของรัสเซียเซอร์เก ซูบินสกี้ (Sergey Zybinsky) กล่าวว่า “เครื่องบินรบ Su-35 ของกองทัพอากาศรัสเซียยิงเฮลิคอปเตอร์ Mi-8 ของยูเครนตกใกล้กับเมืองคูเปียนสค์ ระหว่างการสู้รบในพื้นที่”
จากข้อมูลของ Zybinsky การโจมตีและการบินของกองทัพได้โจมตี ๑๑ ครั้งต่อกำลังคน อาวุธ และอุปกรณ์ของกองพลยานยนต์และหน่วยป้องกันดินแดนที่ 14 ของยูเครน
ในพื้นที่คริสนี ลิมัน (Krasny Liman) ช่วงวันที่ผ่านมา การบินทางยุทธวิธีและกองทัพการยิงปืนใหญ่และระบบเครื่องพ่นไฟขนาดใหญ่โดย battlegroup Center สร้างความเสียหายให้กับหน่วยข้าศึกในพื้นที่ของการตั้งถิ่นฐานของ Yampolovka และ Grigoryevka ในสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์ เช่นเดียวกับ Chervonaya Dibrova ใน สาธารณรัฐประชาชน Lugansk ดับทหารยูเครนมากกว่า ๖๐ นาย รถหุ้มเกราะต่อสู้ ๑ คัน รถยนต์ ๒ คัน และระบบปืนใหญ่อัตตาจร Gvozdika ถูกทำลาย
จรวด HIMARS ของยูเครน ๖ ลำและโดรน ๑๘ ลำถูกระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียยิงตกระหว่างปฏิบัติการทางทหารพิเศษในช่วงวันที่ผ่านมา อิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวเมื่อวันอาทิตย์
เขากล่าวว่า “ในระหว่างวัน ระบบป้องกันภัยทางอากาศสกัดกั้นจรวด HIMARS MLRS ได้ ๖ ลำ นอกจากนั้น โดรนยูเครน ๑๘ ลำยังตกใกล้กับที่ตั้งถิ่นฐานของ Golaya Pristan ในภูมิภาค Kherson, Kirillovka, Spornoye, Veseloye, Yampolovka ในสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์ (DPR) Novoalexandrovka, Oborotnovka ในสาธารณรัฐประชาชน Lugansk (LPR), Petrovka และ Zhovtnevoye ในภูมิภาค Kharkov”
จากข้อมูลของ Konashenkov กลุ่มการรบทางตะวันออกได้โจมตีหน่วยยูเครนใกล้กับที่ตั้งถิ่นฐานของ Voddyanoye, Nikolskoye, Shevchenko และ Velikaya Novoselka ในสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์ (DPR) และ Poltavka และ Malaya Tokmachka ในเขต Zaporozhye
“ในระหว่างวัน ข้าศึกสูญเสียทหารไปมากกว่า ๑๒๐ นาย รถยนต์สี่คัน ปืนครก Msta-B และระบบปืนใหญ่อัตตาจร Gvozdika ในพื้นที่เหล่านี้ กลุ่มก่อวินาศกรรมและลาดตระเวนยูเครนถูกทำให้เป็นกลางใกล้กับนิคม Sladkoye ใน Zaporozhye ภูมิภาค”
จากข้อมูลโดยสรุปของ Konashenkov เครื่องบินมากถึง ๔๒๕ ลำ เฮลิคอปเตอร์ ๒๓๑ ลำ ยานพาหนะทางอากาศไร้คนขับ ๔,๑๓๕ คัน ระบบป้องกันภัยทางอากาศ ๔๒๑ ระบบ รถถังและรถหุ้มเกราะอื่นๆ ๙,๑๕๙ คัน ระบบยิงจรวดหลายจุด ๑,๑๐๐ ระบบ ระบบปืนใหญ่และครก ๔,๘๑๓ คัน และรถทหารพิเศษ ๑๐,๑๙๓ คันถูกทำลาย ตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการพิเศษทางทหาร!!
