พิธา แถลงพร้อมเป็นนายกฯ จับมือ 5 พรรค ตั้งรบ.เสียงข้างมาก 309 เสียง แต่โบว์เบรก ฟันฉับ! สุดท้ายพท.ได้เป็นแกนนำ-หน.ก้าวไกลอาจแห้ว?
จากกรณีที่วันนี้ (15 พฤษภาคม 2566) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ หลังผลการนับคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่ทางการ โดยระบุว่า ขณะนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าพรรคก้าวไกลได้รับความไว้วางใจอย่างล้นหลาม จากประชาชนทั้งประเทศ ก้าวไกลจะเป็นพรรคสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาล
นอกจากนี้ นายพิธาประกาศความพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทย โดยนัดแถลงชัยชนะศึกเลือกตั้ง 2566 พร้อมเตรียมทำ MOU จับมือกับพรรคเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาล และย้ำว่าโอกาสของรัฐบาลเสียงข้างน้อยแทบจะไม่มีแล้ว และจะขึ้นรถแห่ไปขอบคุณประชาชนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย-ลานคนเมือง
ล่าสุด เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ทำการพรรคก้าวไกล นายพิธา แถลงว่า ตนเองมีความพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี และได้พูดคุยกับเพื่อจับมือกับ 5 พรรคการเมือง ได้แก่ พรรคเพื่อไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคไทยสร้างไทย พรรคประชาชาติ จะได้ทั้งหมด 308 เสียง และจะประสานไปยังพรรคเป็นธรรม จะทำให้ได้เสียงเป็น 309 เสียง โดยเราจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ปิดประตูรัฐบาลเสียงข้างน้อย จากนี้เราจะเดินหน้าแก้ปัญหาเก่า เผชิญหน้าปัญหาใหม่
นายพิธา กล่าวต่อว่า จากนี้จะมีการตั้งทีมงานเพื่อเปลี่ยนผ่านรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรม และจะเดินสายพบปะ พูดคุย กับภาคประชาชน ภาคธุรกิจ ทุกภาคส่วน แก้ไขปัญหาเศรษกิจ ปัญหาปากท้อง
นอกจากนี้ ทางด้านของ โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา นักกิจกรรมทางการเมือง ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีของการจัดตั้งรัฐบาลและการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี โดยบอกว่า การโหวตเลือกนายกฯในรัฐสภา อาจต้องทำถึงสองสามรอบจึงลงตัว สุดท้ายคนที่จะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล คือพรรคเพื่อไทย
และยังบอกด้วยว่า ผลการเลือกตั้งออกแล้ว ช็อตต่อไปคือการเลือกนายกรัฐมนตรี และจัดตั้งรัฐบาล หากแคนดิเดทนายกฯของพรรคก้าวไกลได้เสียงไม่ถึง 376 จากรัฐสภา แกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลจะกลายเป็นพรรคเพื่อไทย จากนี้คือบทบาทของ สว. และการตัดสินใจของพรรคภูมิใจไทย (อ่านบทวิเคราะห์ ปัจจัยที่ทำให้ก้าวไกลแซงเพื่อไทย) m.facebook.com/story.php?stor