ปราบเคียฟ-นาโต้!! รัสเซียเปิดกลยุทธ์ ‘โดรนจับคู่ยานรบ’ ถล่มโดเนตสค์ แลนเซ็ตคู่ BMP-2 IFV กับรถถัง ๓ แบบ

0

ช่วงนี้จะพบว่า กลาโหมรัสเซียจะปล่อยภาพการสู้รบออกมาเป็นระยะ ทั้งในสำนักข่าวหลักและเทเลแกรม ล่าสุด ได้เผยแพร่วีดิโอกองกำลังรัสเซียใช้ยานพาหนะทางอากาศไร้คนขับเพื่อจัดการและควบคุมการยิงระหว่างปฏิบัติการตามเวลาจริง

วันที่ ๑๔ พ.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกเปิดเผยวีดิโอระหว่างการรุกของรัสเซียช่วงสุดสัปดาห์ในเขตนิคมสปอร์โนเย (Spornoye) ทางตอนเหนือของโดเนตสค์ กองทัพยูเครนได้สูญเสียจุดป้องกันทางยุทธศาสตร์ให้กับหน่วยของกองกำลังกลุ่มยุก (Yug) ของรัสเซีย การโจมตีได้รับการสนับสนุนจากหน่วยยานเกราะที่ประจำการด้วยรถถังต่อสู้หลัก T-90, T-80, T-72B3 และ BMP-2 IFV

กองทัพรัสเซียสามารถเข้าควบคุมหมู่บ้าน Spornoye และฐานป้องกันได้ ลุยกวาดล้างทหารยูเครนหลายสิบนาย รังปืนกล และกองกำลังเสริมของยูเครนที่กำลังเข้ามาใกล้

นั้นคือการรุกรบทางภาคพื้นดิน แต่สิ่งที่โดดเด่นในอาวุธยุทโธปกรณ์ของรัสเซียคือขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียซึ่งรัสเซียมีอยู่หลายตัวหนึ่งในนั้นคือ คินซาลที่เพนตากอนและเคียฟอ้างว่าสามารถใช้ระบบป้องกันภัยทางอากาศแพตทริออตของสหรัฐฯทำลายได้

ในตลอดสัปดาห์นี้กองทัพรัสเซียและสหรัฐฯปะทะคารมกันเดือด หลังจากเพนตากอนอ้างว่าขีปนาวุธแพทริออตที่ประจำการในยูเครนได้ยิงขีปนาวุธคินซาลตก สุดท้ายจับโป๊ะได้ว่าแค่โฆษณาชวนเชื่อ ภาพที่เอามาอวดเป็นคนละเรื่องกับขีปนาวุธเร็วกว่าเสียงคินซาลเลย 

อะไรคือความสามารถของ Kinzhal และระบบขีปนาวุธที่สำคัญอื่น ๆ ในคลังแสงของรัสเซียที่เตรียมไว้ซัดกับเมกา-นาโต้

เป็นเวลากว่าหนึ่งสัปดาห์แล้ว และยูเครนยังไม่ได้แสดงหลักฐานใดๆ ที่ตรวจสอบได้โดยอิสระ นายกเทศมนตรีเมืองเคียฟ วิทาลี คลิทช์โก ถ่ายภาพกับสื่อเยอรมันต่อหน้า “หัวรบคินซาล” ที่ดูไม่เหมือนคินซาล หัวรบที่ดูอ่อนล้ามีสิ่งที่ดูเหมือนจะมีตะไคร่น้ำงอกออกมาและขึ้นสนิมเสียด้วย

คินซาล(Kinzhal) หมายถึง “กริช” เป็นหนึ่งในอาวุธเชิงกลยุทธ์ใหม่จำนวนกว่าครึ่งโหลที่ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียเปิดเผยในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อฝ่ายนิติบัญญัติในเดือนมีนาคม ๒๐๑๘  เข้าประจำการรบครั้งแรกในเดือนธันวาคม ๒๐๑๗ และได้เห็นการทดสอบการบินและการสู้รบอย่างกว้างขวาง อาวุธนิวเคลียร์นี้เป็นระบบขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงระบบแรกที่ถูกส่งไปสอดแนมได้ในทุกประเทศ

ขีปนาวุธคินซาลจะถูกบรรทุกโดย เครื่องบินไอพ่น MiG-31 ดัดแปลงชื่อว่า ตูโปเลฟ (Tupolev) ตู-๒๒ (Tu-22) หรือตู-๑๖๐ (Tu-160) เครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ Kinzhals มีความเร็วในการปฏิบัติการ ๑๐-๑๓ มัค(Mach) คิดเป็น ๑๑,๒๐๐-๑๔,๕๐๐ ฟุต/วินาที และมีระยะปฏิบัติการสูงสุด๒,๐๐๐ กม. เมื่อเปิดตัว จาก MiG-31Ks หรือมากกว่า ๓,๐๐๐ กม. เมื่อเปิดตัวจาก Tu-22M3s ติดตั้งระบบนำทางเฉื่อย GLONASS, AWACS และ/หรือเครื่องค้นหาด้วยแสงเพื่อนำทางขีปนาวุธไปยังเป้าหมาย  Kinzhal บรรทุกหัวรบแรงระเบิดสูง ๕๐๐ กก. หรือในโหมดนิวเคลียร์ น้ำหนักบรรทุก ๕-๕๐ กิโลตัน

รัสเซียใช้ Kinzhals อย่างกว้างขวางในสงครามตัวแทนกับ NATO ในยูเครน โดยกำหนดเป้าหมายคลังกระสุนและเชื้อเพลิง ท่าเรือ และหลังจากการโจมตีสะพานไครเมียซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนเมื่อฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว ระยะ ๒,๐๐๐ กม. ของขีปนาวุธเพียงพอที่จะโจมตีได้ทุกที่ในประเทศ เป็นอาวุธยุทโธปกรณ์รุ่นใหม่เพียงรุ่นเดียวของรัสเซียที่จะใช้ในยูเครน

ขีปนาวุธชั้นสูงอีกตัวหนึ่งของรัสเซียคือ อแวนการ์ดAvangard มีความหมายว่า “กองหน้า” เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มอาวุธขั้นสูงที่ปูตินเปิดตัวในสุนทรพจน์ของเขาในปี ๒๕๖๑ 

Avangard เป็นขีปนาวุธร่อนความเร็วเหนือเสียงที่ติดตั้งขีปนาวุธข้ามทวีป R-36 หรือ RS-28 Sarmat (ICBM) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของน้ำหนักบรรทุกบรรทุกกลับเข้าที่เดิม (MIRV) หลายลำ ประจำการกับ Strategic Rocket Forces ตั้งแต่ปี ๒๐๑๘ จรวดนิวเคลียร์สามารถร่อนได้ไกลกว่า ๖,๐๐๐ กม. และมีกำลังระเบิดระหว่าง ๐.๘ ถึง ๒ เมกะตันเมื่อติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ เมื่อรวมกับกลุ่มขีปนาวุธ ICBM แล้ว Avangards จึงมีการเข้าถึงทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับ ซาร์มัตRS-28 (Sarmat) เป็นขีปนาวุธใหม่ล่าสุดในคลังแสงทางยุทธศาสตร์ของรัสเซีย โดยขีปนาวุธลูกแรกคาดว่าจะเข้าร่วมกองกำลังนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์ในปีปัจจุบัน ด้วยพิสัยทำการที่ครอบคลุมทั่วโลก ๑๘,๐๐๐กม. และความเร็วสูงสุดถึง ๒๕,๕๐๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง เร็วประมาณ ๒๐ มัค ขีปนาวุธไซโลหรือเรือบรรทุกเครื่องบินเคลื่อนที่สามารถบรรทุกหัวรบ MIRV แบบดั้งเดิมได้มากถึง ๑๐ หัวรบ ซึ่งเป็นส่วนผสมของ MIRV และ Avangards หรือการผสมผสานระหว่าง MIRVs, Avangards และตัวล่อ 

Sarmat ได้รับการตั้งค่าให้เป็นกระดูกสันหลังของการยับยั้งทางยุทธศาสตร์ของรัสเซีย หัวรบปกติเคลื่อนที่ในเชิงลึกเมื่อเข้าใกล้เป้าหมาย ทำให้สกัดกั้นแทบไม่ได้เลย

ปูตินกล่าวว่า “เราต้องสร้างอาวุธเหล่านี้เพื่อตอบสนองต่อการติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ซึ่งจะสามารถทำให้ศักยภาพทางนิวเคลียร์ทั้งหมดของเราล้าสมัย”  วันนี้ ประธานาธิบดีรัสเซียอธิบายว่า “เป็นครั้งแรก ในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของรัสเซีย ประเทศของเรามีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยที่สุด ซึ่งเหนือกว่าอย่างมากในแง่ของกำลัง พลัง ความเร็ว และที่สำคัญที่สุดคือในแง่ของความแม่นยำ เมื่อเทียบกับสิ่งที่มีอยู่ก่อนหน้าและที่มีอยู่ในปัจจุบัน”

หากสหรัฐฯ สังเกตเห็นความพยายามของรัสเซียหลังสงครามเย็นที่จะเป็นหุ้นส่วนและร่วมมือกับตะวันตก แต่สหรัฐฯกลับจงใจเป็นศัตรูและคุกคามรัสเซียในทุกขั้นตอนทุกวิถีทางอย่างต่อเนื่อง  ทำให้มอสโกว์ต้องดำเนินการบนเส้นทางของการพัฒนาศักยภาพอาวุธทางยุทธศาสตร์ในระดับที่เป็นอยู่ทุกวันนี้