เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แคนาดาประกาศขับไล่ จ้าว เหว่ย(Zhao Wei) นักการทูตจากสถานกงสุลใหญ่จีนในโตรอนโต โดยระบุว่าเขาเป็น “บุคคลที่ไม่พึงปรารถนา” จ้าวถูกกล่าวหาว่าคุกคามครอบครัวของไมเคิล ชง (Michael Chong) ส.ส. หัวโบราณที่อาศัยอยู่ในฮ่องกง ตามรายงานของสื่อแคนาดา
ปักกิ่งประกาศมาตรการตอบโต้ที่ชอบธรรมทันที ในวันอังคารที่ผ่านมา จีนประกาศให้ เจนนิเฟอร์ ลินน์ ลาลอนเด (Jennifer Lynn Lalonde) กงสุลจากสถานกงสุลใหญ่แคนาดาในเซี่ยงไฮ้เป็น “บุคคลไม่พึงปรารถนา” และขอให้เธอออกจากประเทศจีนก่อนวันที่ ๑๓ พ.ค.๒๕๖๖
โฆษกสถานเอกอัครราชทูตฯ กล่าวว่า จีนยึดมั่นในหลักการไม่แทรกแซงมาโดยตลอด ในกิจการภายในของประเทศอื่น ๆ และมีประวัติดีที่สุดในการไม่แทรกแซงกิจการภายในของผู้อื่น
โฆษกกล่าวย้ำ “ประเทศใดที่แทรกแซงกิจการภายในของผู้อื่นโดยประมาท ล้มล้างรัฐบาลของตน รุกรานดินแดนของตนด้วยอาวุธ ตลอดจนแทรกซึมและล้มล้างประเทศอื่น ?ทุกคนต่างตระหนักดีว่าประเทศเหล่านี้เป็นใคร” พร้อมเรียกร้องให้แคนาดาหยุดโจมตีจีนแต่ให้ไตร่ตรองถึงการแทรกแซงของประเทศอื่นกิจการภายใน
วันที่ ๑๒ พ.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวโกลบัลไทมส์รายงานว่า หวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ฟาดสหรัฐซัดหมัดตรงว่า “สหรัฐฯ ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างโต้งๆ ขณะเดียวกัน ก็กำหนดระเบียบโลกของตนเองผ่านการใช้กำลังบีบประเทศอื่นๆ”
ความคิดเห็นซึ่งมีขึ้นตามหลังมีข่าวว่าวอชิงตันและพันธมิตรกำลังมีแผนใช้การประชุมซัมมิตจี-๗ ที่กำลังมาถึง เรียกร้องปักกิ่งให้กระทำการต่างๆ ด้วยตามความต้องการของตะวันตก
ระหว่างการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ในวันพฤหัสบดีที่ ๑๑ พ.ค.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวจากหนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์สของจีน คาดการณ์ว่าบรรดาผู้นำจี-๗ จะเรียกร้องให้ปักกิ่ง “ยึดมั่นในกฎระเบียบระหว่างประเทศ” ครั้งที่พวกเขามีกำหนดประชุมสุดยอดผู้นำในญี่ปุ่น ช่วงปลายเดือนนี้
ในเรื่องดังกล่าว หวัง ตอบคำถามหยาวเหยียด โดยเริ่มจากเน้นย้ำว่า สำหรับคำว่าเสียงส่วนใหญ่อย่างท่วมท้นของโลก ในแง่ของกฎระเบียบระหว่างประเทศนั้น หมายถึงมาตรฐานพื้นฐานแห่งความสัมพันธ์ที่บัญญัติอยู่ในกฎบัตรสหประชาชาติ
“อย่างไรก็ตาม ครั้งที่จี-๗ พูดถึงระเบียบโลก พวกเขาหมายถึงกฎระเบียบของตะวันตก” “กฎเหล่านี้รับใช้ผลประโยชน์ของไม่กี่ประเทศ ในนั้นรวมถึงจี-๗ แทนที่จะรับใช้ผลประโยชน์ร่วมของประชาคมนานาชาติ”
เมื่อถามจีนจะยึดถือในกฎระเบียบนี้หรือไม่ หวังระบุว่า สหรัฐฯ ได้ถอนตัวจากองค์กรระหว่างประเทศและสนธิสัญญาต่างๆ ไปแล้ว ๑๗ รอบ สอดแนมไม่เลือกหน้าไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรหรือศัตรู ใช้การบีบบังคับทางเศรษฐกิจและแทรกแซงด้านการทหารประเทศต่างๆ
“สหรัฐฯ รุกรานอัฟกานิสถาน อิรัก และซีเรีย รวมถึงประเทศอื่นๆ ที่มีขนาดเล็กกว่าและอ่อนแอกว่าสหรัฐฯ อย่างโต้งๆ เข่นฆ่าและทำผู้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่หลายล้านคนต้องไร้ถิ่นฐาน” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุด้วยว่า “สิ่งที่เป็นเรื่องของกฎระเบียบระหว่างประเทศ สถานที่ของสหรัฐฯ ควรอยู่ในคอกจำเลย พวกเขาไม่อยู่ในจุดที่จะชี้นิ้วกล่าวโทษประเทศอื่นๆ”
แถลงการณ์ร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำจี7 น่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกับที่เผยแพร่เมื่อเดือนที่แล้ว โดยในถ้อยแถลงดังกล่าวได้กล่าวหาปักกิ่งละเมิดสิทธิมนุษยชนในซินเจียงและทิเบต ประณามคำกล่าวอ้างในทะเลจีนใต้ และเรียกร้องให้ดำเนินการด้วยความรับผิดชอบในฐานะสมาชิกของประชาคมนานาชาติในประเด็นรัสเซีย กลยุทธป้ายสีทำผิดเป็นชอบทำดำให้เป็นขาวเป็นเรื่องถนัดของตะวันตก
เจ้าหน้าที่จีนปฏิเสธซ้ำๆ ต่อสารลักษณะดังกล่าวของตะวันตก และก่อนหน้านี้ หวัง เคยประกาศว่าปักกิ่งจะไม่รับฟังคำกล่าวหาจากประเทศหนึ่งที่ก่ออาชญากรรมสงครามและก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติอย่างสหรัฐฯและประเทศนักล่าอาณานิคมทั้งหลาย แสบเข้าไปถึงกระดูกแองโกลแซกซอนเลย
นับเป็นเรื่องยากสำหรับจีนที่จะขับไล่นักการทูตต่างชาติ การไล่ทูตแคนาดาจึงถือเป็นเรื่องร้ายแรงขั้นสูงทีเดียว แต่ดูเหมือนว่าแคนาดาได้กลายเป็นกองหน้าต่อต้านจีนในกลุ่มที่นำโดยสหรัฐฯไปแล้ว นโยบายของแคนาดาต่อจีนกลายเป็นการเผชิญหน้ากันยิ่งกว่านโยบายของวอชิงตัน ฉุดความสัมพันธ์แคนาดา-จีนให้เข้าสู่ภาวะหยุดนิ่ง
นักสังเกตการณ์บางคนกล่าวว่ากระแสต่อต้านจีนในปัจจุบันที่เกิดขึ้นทั่วทั้งการเมืองแคนาดาและความคิดเห็นสาธารณะ อาจเกิดจากการยึดมั่นในลัทธิแมคคาร์ธีในแคนาดาในศตวรรษที่ ๒๑ ซึ่งเน้นอย่างเต็มที่ถึง การขาดวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์และความต่อเนื่องของนโยบายจีนกับออตตาวา
นอกจากนี้ การกล่าวหาว่าจีนแทรกแซงกิจการภายในของแคนาดา? เป็นเรื่องที่โกลบัลไทม์สระบุว่า แคนาดากำลังวาดภาพจีนด้วยภาพลักษณ์อัปลักษณ์ของตัวเอง สหรัฐฯ และกลุ่มประเทศพันธมิตร Five Eyes คือแนวหน้าในการแทรกแซงกิจการภายในของจีน ทั้งประเด็นซินเจียง ฮ่องกง ไต้หวัน และประเด็นอื่นๆ อีกมากมาย พฤติกรรมที่หยาบคายของพวกเขาในเรื่องนี้มีมากเกินไป ความพยายามของแคนาดาที่ป้ายสีว่าจีนแทรกแซงกิจการภายในของผู้อื่น เป็นการแสดงที่ไร้ยางอายอย่างเหลือเชื่อ จัดฉากขึ้นเพื่อใส่ร้ายจีน ความสองมาตรฐานและความซับซ้อนของระบอบแองโกลแซกซอนจะชักนำความคิดแบบตะวันตกทั้งหมดไปสู่คูน้ำล่มจมในที่สุด!!