อาวุธใหม่ล่าสุดของรัสเซียกำลังเปลี่ยนเส้นทางของสงครามยูเครน เป็นหัวข้อข่าวพาดหัวของ The Telegraph ของอังกฤษและแพร่หลายไปยังเครือข่ายความจริงแล้ว น่าจะหมายถึงระเบิดร่อน ที่ปรากฎในแนวหน้าสู้รบของยูเครนบ่อยขึ้น
‘ระเบิดร่อน’ แบบใหม่ของมอสโกมีระยะปกติระหว่าง 30 ถึง 45 ไมล์บางรุ่นมากกว่านั้น และสามารถหลบเลี่ยงระบบป้องกันที่ควบคุมด้วยเรดาร์ด้วยการเดินทางที่ระดับความสูงต่ำ ผู้เชี่ยวชาญของตะวันตกกล่าวว่า สิ่งนี้ทำให้เคียฟและนาโต้ต้องปรับแผนปฏิบัติการเพื่อหยุดยั้งรัสเซียไม่ให้ได้เปรียบแนวรบทางอากาศ ว่าแต่ว่าสายเกินไปไหม
ขีดความสามารถพื้นฐานที่สุดของระเบิดร่อนคือ เป็นอาวุธดัดแปลงที่มีปีกและระบบนำทางที่สร้างเส้นทางบินไปยังเป้าหมายได้โดยอัตโนมัติ
อาจเป็นเรื่องง่ายและดิบพอๆ กับการดัดแปลงอาวุธไร้คนขับโดยที่รัสเซียยกเครื่องอัพเกรดระเบิดทางอากาศ FAB-500 รุ่นเก่าของโซเวียตเสียเป็นส่วนใหญ่ ต่อมาได้อัพเกรดให้ FAB-250 เป็นระเบิดร่อนด้วย
อย่างไรก็ตาม ระเบิดร่อนบางรุ่น เช่น UPAB-1500B-E ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะโดยมีคุณสมบัติเหล่านี้รวมอยู่ด้วย
ปรากฏว่าระเบิดมีปีกเหล่านี้ซึ่งมีต้นทุนราคาถูกและผลิตได้ง่ายกว่าขีปนาวุธและจรวดร่อน กลายเป็นอาวุธทางเลือกของรัสเซีย เนื่องจากรายงานว่าไม่มียุทโธปกรณ์ไฮเทคที่มีความแม่นยำสูงกว่านี้
ข้อมูลจำเพาะและความสามารถของอาวุธร่อนแต่ละชนิด – ดัดแปลงหรือผลิต – แตกต่างกันอย่างมาก โดยมีรายงานว่าบางตัวมีระยะปฏิบัติการสูงถึง ๗๕ ไมล์
ขณะที่สื่อตะวันตกพยายามจะบอกว่า “รัสเซียกำลังจะหมดขีปนาวุธ” แต่การใช้ระเบิดร่อนของมอสโกว์ มีประสิทธิภาพที่ยิงได้ในระดับที่ต่ำกว่าเรดาร์ สื่อเทเลกราฟเลยฟันธงว่า กลยุทธ์เช่นนี้อาจบีบให้เคียฟต้องเขียนแผนต่อต้านการโจมตีเสียใหม่
ในการให้สัมภาษณ์กับ Telegraph พันเอกยูริ อิกนัต (Yuriy Ihnat) โฆษก กองทัพอากาศยูเครนโอดครวญว่า ระเบิดร่อนของรัสเซียเป็น “ภัยคุกคามร้ายแรง”
เทคโนโลยีการร่อนหมายความว่าเครื่องบินไอพ่นของรัสเซียสามารถหลีกเลี่ยงการบินไปยังแนวหน้าเพื่อยิงอาวุธได้จากระยะไกล อิกนัตกล่าวว่า “ในขณะนี้ ศัตรูกำลังใช้การบินทางยุทธวิธีสำหรับภารกิจการสู้รบตามแนวชายแดนติดกับรัสเซียแนวหน้า และชายฝั่งทะเล ในทุกภูมิภาคเหล่านั้น กองทัพรัสเซียใช้ระเบิดร่อนอย่างเข้มข้นมาเป็นเวลาประมาณหนึ่งเดือนแล้ว”
เจ้าหน้าที่ยูเครนประเมินว่ามอสโกยิงระเบิดร่อนในสนามรบอย่างน้อย ๒๐ ลูกต่อวัน จนถึงขณะนี้ชาติตะวันตกปฏิเสธที่จะจัดหาเครื่องบินขับไล่ชั้นนำให้ยูเครนแม้ว่าประธานาธิบดีเซเลนสกีจะร้องขอซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แน่นอนที่รัสเซียส่งระเบิดร่อนถี่ๆ ปรากฎให้เห็นคือ FAB-500 และFAB-1500 ยูเครนจะเอาอะไรมาต้าน
เช้าวันนี้ มีรายงานว่ากองกำลัง RF ได้ทำการโจมตีคลังกระสุนและที่พักของกองทัพยูเครนใน Kramatorsk และ Konstantinovka
การติดตั้งทางทหารของกองกำลังติดอาวุธของยูเครนในดินแดน Kramatorsk และ Konstantinovka ซึ่งตั้งอยู่ในอาณาเขตของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์ของรัสเซีย โดยการก่อตัวของยูเครนถูกกองทหารรัสเซียโจมตีอย่างทรงพลัง รายงานโดย RIA Newsโดยอ้างอิงถึง วาดิม แอสตาฟเยฟ(Vadim Astafyev) หัวหน้าศูนย์ข่าวของกลุ่มกองกำลังของสหพันธรัฐรัสเซียใต้
Kramatorsk ตั้งอยู่ใกล้กับแนวหน้า ระบอบการปกครองของเคียฟได้รวมกองกำลังที่น่าประทับใจไว้ในเมือง โดยวางกองทหารหลายกองของกองทัพยูเครนไว้ที่นี่พร้อมคลังสินค้า อุปกรณ์ทางทหาร และอาวุธ Konstantinovka ยังใช้โดยการก่อตัวของยูเครนเพื่อรวบรวมกองหนุนที่เกี่ยวข้องกับทิศทาง Artemovsky หรือ Bakhmut
หัวหน้าศูนย์ระบุว่า “การโจมตีเกิดขึ้นที่คลังกระสุนของกองพลยานยนต์ที่ 67 ของกองทัพยูเครนใน Kramatorsk และจุดติดตั้งชั่วคราวของกองพลยานยนต์ที่ 28 ของศัตรูใน Konstantinovka”
การโจมตีดังกล่าวดำเนินการโดยหนึ่งในหน่วยขีปนาวุธของรัสเซีย ในเวลาเดียวกันปืนใหญ่ของกองทัพของสหพันธรัฐรัสเซียอยู่ภายใต้การระดมยิงขนาดใหญ่ของบุคลากรของกองพลน้อยของกองทัพยูเครนในพื้นที่ของการตั้งถิ่นฐานของ Artemovsk, Belaya Gora, Kurakhovo นอกจากนี้ยังมีการระดมยิงในตำแหน่งและสถานที่รวบรวมกลุ่มก่อความไม่สงบของยูเครนในพื้นที่ Avdiivka ไม่ไกลจาก Artemovsk ขีปนาวุธ HIMARS MLRS ที่ผลิตในอเมริกาถูกยิงโดยลูกเรือของระบบป้องกันภัยทางอากาศ Buk-M3 ของกองทัพรัสเซีย
กองทัพรัสเซียยังสามารถทำลายปืนใหญ่ลากจูง M119 ขนาด ๑๐๕ มม. ที่ผลิตโดยสหรัฐฯ ใกล้กับหมู่บ้านอเล็กซานโดร-ชุลติโน ใกล้ Daryevka ครก ๑๒๐ มม. ของการก่อตัวของยูเครนถูกทำลาย
ในที่สุดความล้มเหลวในการหมุนเวียนของการก่อตัวของยูเครนในทิศทาง Maryinsky ยังสามารถนำมาประกอบกับความสำเร็จของกองทหารรัสเซียในทิศทางนี้ ประการแรก กองกำลังพิเศษของรัสเซียได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการหมุนเวียน จากนั้นจึงถูกขัดขวางโดยการโจมตีด้วยปืนใหญ่และกองทหารรถถัง การก่อตัวของยูเครนประสบความสูญเสียอย่างร้ายแรงอันเป็นผลมาจากการระดมยิงของรัสเซีย
