แลกหมัดเดือด!! ฮามาซเอาคืนหนัก ส่งจรวด ๔๐๐ ลูกถล่มอิสราเอล เทลอาวีฟเต้นดับเจ็บกว่า ๓๐ ทั้งสองฝ่าย

0

“อิสราเอล-ปาเลสไตน์” แลกหมัดดุเดือด ตายแล้วอย่างน้อย ๒๒ รายบาดเจ็บอีกนับสิบ ภายในสองวัน รวมถึงสมาชิกแกนนำกลุ่มติดอาวุธ การโจมตีแลกหมัดอย่างดุเดือดรอบใหม่ ระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ดำเนินอย่างต่อเนื่อง ขณะตุรกี ซีเรีย อิหร่านรัสเซียคุยกันเครียดที่มอสโกว์

วันที่ ๑๑ พ.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกและทาซนิมส์รายงานว่า กองกำลังป้องกันอิสราเอล ( ไอดีเอฟ ) รายงานว่า ภายในระยะเวลา ๔๘ ชั่วโมงล่าสุด จนถึงช่วงค่ำของวันพุธที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น กลุ่มติดอาวุธในฉนวนกาซายิงจรวดข้ามเขตแดนมากกว่า ๔๐๐ ลูก เทลอาวีฟอ้างว่าส่วนใหญ่ถูกสกัดได้ ตกลงในพื้นที่ห่างไกลของอิสราเอล หรือตกในเขตฉนวนกาซาเอง

รายงานข่าวจากเอเอฟพีระบุว่า ไอดีเอฟตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายหลายแห่งในฉนวนกาซา ด้านกระทรวงสาธารณสุขของปาเลสไตน์รายงาน จำนวนผู้เสียชีวิตจากปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลอย่างน้อย ๗ ราย เมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังการโจมตีเมื่อวันอังคาร ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย ๑๕ ราย จากจำนวนดังกล่าว ๓ ราย เป็นสมาชิกระดับแกนนำของเครือข่ายนักรบจีฮัด ในฉนวนกาซาและเขตเวสต์แบงก์ ไม่มีการระบุจำนวนผุ้เสียชีวิตของอิสราเอล

ด้านนายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) ประณามการเสียชีวิตของพลเรือนจากเหตุการณ์รุนแรง “เป็นเรื่องที่รับไม่ได้อย่างสิ้นเชิง” และเรียกร้องอิสราเอลยึดมั่น พร้อมทั้งปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล กล่าวว่า ปฏิบัติการของไอดีเอฟรอบนี้ “ผ่านมาเพียงครึ่งทางเท่านั้น”

ขณะที่มีรายงานว่า อียิปต์กำลังพยายามวิ่งเต้นอย่างหนักอยู่เบื้องหลัง เพื่อหาทางหยุดยิงระหว่างทั้งสองฝ่าย ซึ่งการสู้รบรอบนี้เกิดขึ้นในช่วงครบรอบ ๒ ปี การต่อสู้ที่ยาวนาน๒ สัปดาห์ เมื่อเดือนพ.ค. ๒๕๖๔ คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์มากกว่า ๒๕๐ ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า ๑,๐๐๐ คน ส่วนในอิสราเอลมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย ๑๔ ราย ในจำนวนนี้เป็นแรงงานไทย ๒ ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า ๑๑๐ คน

ทางด้านผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามกล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนที่ฉนวนกาซาและอิสราเอลว่า ชาวไซออนิสต์ที่โอ้อวดความสามารถของพวกเขาจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้กลายเป็นเริ่มแสดงความหวาดกลัว เนื่องจากมีปฏิบัติการติดอาวุธมากกว่า ๓๐ ครั้งเกิดขึ้นกับพวกเขาทั่วดินแดนที่ถูกยึดครองทุกวัน 

พลตรีฮอสเซน ซาลามี (Hossein Salami) กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังจากการประชุมกับผู้บัญชาการบาซิจ Basij ในเมืองแมชฮัด (Mashhad) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่าการพัฒนาในภูมิภาคกำลังกัดกร่อนความสมบูรณ์ของศัตรูของอิหร่าน

สถานการณ์ในปาเลสไตน์ทั้งหมดกลายเป็นเรื่องน่ากังวลสำหรับพวกไซออนิสต์ หัวหน้า IRGC กล่าวโดยระบุว่า “สภาพภายในและการประท้วงทางการเมืองและสังคมโดยประชาชนที่อาศัยอยู่ในดินแดนยึดครองเผยให้เห็นว่าระบบการเมืองของไซออนิสต์ไม่มั่นคง ”

ที่มอสโกว์ เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ในการหารือร่วม ๔ ฝ่ายได้แก่รัฐมนตรีต่างประเทศ ตุรกี ซีเรีย รัสเซียและอิหร่านในกรุงมอสโกว์ เขากล่าวว่า “ตามข้อมูลของเรา สหรัฐฯ ได้เริ่มสร้างสิ่งที่เรียกว่า ‘กองทัพซีเรียเสรี’ ในบริเวณใกล้เคียงกับเมืองรัคกาของซีเรีย โดยได้รับความร่วมมือจากตัวแทนของชนเผ่าอาหรับในท้องถิ่นที่เป็นกลุ่มติดอาวุธไอเอส และองค์กรก่อการร้ายอื่นๆ” 

ลาฟรอฟย้ำว่า “สหรัฐฯ ต้องการใช้เครื่องบินรบเหล่านี้ต่อสู้กับหน่วยงานที่ถูกต้องตามกฎหมายของสาธารณรัฐอาหรับซีเรีย เพื่อทำให้สถานการณ์ในประเทศไม่มั่นคง รัฐมนตรีกล่าวเสริม เขากล่าวว่าสหรัฐฯ ควรหยุดบ่อนทำลายสันติภาพในภูมิภาค และเคารพเจตจำนงของประชาชนในตะวันออกกลาง”

สหรัฐฯ หนุนหลังกลุ่มหัวรุนแรงตั้งแต่เกิดความขัดแย้งในปี ๒๕๕๔ มาจนถึงปัจจุบัน กองทัพสหรัฐฯยังคงควบคุมดินแดนที่อุดมด้วยน้ำมันของซีเรียอย่างผิดกฎหมายมาตลอด ความสมานฉันท์ของตุรกีและซีเรีย จึงเป็นนิมิตหมายสำคัญของดุลกำลังในตะวันออกกลาง

นักการทูตชั้นนำแสดงความเห็นว่า “การเปิดตัวกระบวนการทำให้ซีเรีย-ตุรกีกลับสู่สภาพปกติ  มีผลกระทบเชิงบวกที่เห็นได้ชัดเจน ไม่เพียงแต่ต่อสถานการณ์รอบๆ ซีเรียเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อบรรยากาศทั่วไปในภูมิภาคตะวันออกกลางโดยรวมด้วย” 

Turkiye และซีเรียขัดแย้งกันอยู่เสมอ แต่ความตึงเครียดก็ร้อนระอุขึ้นหลังจากสงครามกลางเมืองในซีเรียเริ่มขึ้นโดยสหรัฐฯสนับสนุน  รัสเซียใช้เวลาและความพยายามเพื่อทำให้สถานการณ์กลับสู่ปกติ โดยจัดการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมของทั้งสองประเทศเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว และเริ่มการเจรจาหลายครั้งระหว่างนักการทูตระดับสูงของซีเรียและ Turkiye โดยได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านอย่างแข็งขัน

เมื่อพูดถึงการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นใน Turkiye รมว.ต่างประเทศของรัสเซียแสดงความหวังว่าจะมีการเลือกตั้งโดยไม่มีการแทรกแซงจากภายนอก

ลาฟรอฟกล่าวว่า “ผมขอใช้โอกาสนี้อวยพรเพื่อนร่วมงานชาวตุรกีของเราให้ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งทั่วไป อย่างที่ผมทราบ การเลือกตั้งเหล่านี้ได้เริ่มขึ้นแล้วนอกประเทศ ผมมั่นใจว่าการเลือกตั้งจะเป็นไปโดยสุจริต โปร่งใส และจะรับประกันเจตจำนงของชาวตุรกี โดยปราศจากการแทรกแซงจากภายนอก” 

ตอกย้ำความเลือดเย็นของตะวันตก เมื่อวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เกิดแผ่นดินไหวขนาด ๗.๗ และ ๗.๖ สองครั้งทางตะวันออกเฉียงใต้ของ Turkiye และซีเรีย ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวเกิน ๕๐,๐๐๐ รายใน Turkiye และ ๘,๐๐๐ รายในซีเรีย หลายประเทศแสดงความเต็มใจที่จะให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ซีเรีย แต่พวกเขาต้องเผชิญกับความยากลำบากเนื่องจากการคว่ำบาตรของรัฐบาลสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และสหภาพยุโรป