“อิสราเอล-ปาเลสไตน์” แลกหมัดดุเดือด ตายแล้วอย่างน้อย ๒๒ รายบาดเจ็บอีกนับสิบ ภายในสองวัน รวมถึงสมาชิกแกนนำกลุ่มติดอาวุธ การโจมตีแลกหมัดอย่างดุเดือดรอบใหม่ ระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ดำเนินอย่างต่อเนื่อง ขณะตุรกี ซีเรีย อิหร่านรัสเซียคุยกันเครียดที่มอสโกว์
About 400 rockets fired at Israel from Gaza hit residential buildings, Defense Minister Yoav Galant said. Al Jazeera's correspondent in Israel notes a significant reduction in the effectiveness of the Iron Dome missile defense system, as it no longer intercepts missiles as it… pic.twitter.com/r8oKJQbdr6
— Spriter (@Spriter99880) May 10, 2023
วันที่ ๑๑ พ.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกและทาซนิมส์รายงานว่า กองกำลังป้องกันอิสราเอล ( ไอดีเอฟ ) รายงานว่า ภายในระยะเวลา ๔๘ ชั่วโมงล่าสุด จนถึงช่วงค่ำของวันพุธที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น กลุ่มติดอาวุธในฉนวนกาซายิงจรวดข้ามเขตแดนมากกว่า ๔๐๐ ลูก เทลอาวีฟอ้างว่าส่วนใหญ่ถูกสกัดได้ ตกลงในพื้นที่ห่างไกลของอิสราเอล หรือตกในเขตฉนวนกาซาเอง
รายงานข่าวจากเอเอฟพีระบุว่า ไอดีเอฟตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายหลายแห่งในฉนวนกาซา ด้านกระทรวงสาธารณสุขของปาเลสไตน์รายงาน จำนวนผู้เสียชีวิตจากปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลอย่างน้อย ๗ ราย เมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังการโจมตีเมื่อวันอังคาร ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย ๑๕ ราย จากจำนวนดังกล่าว ๓ ราย เป็นสมาชิกระดับแกนนำของเครือข่ายนักรบจีฮัด ในฉนวนกาซาและเขตเวสต์แบงก์ ไม่มีการระบุจำนวนผุ้เสียชีวิตของอิสราเอล
ด้านนายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) ประณามการเสียชีวิตของพลเรือนจากเหตุการณ์รุนแรง “เป็นเรื่องที่รับไม่ได้อย่างสิ้นเชิง” และเรียกร้องอิสราเอลยึดมั่น พร้อมทั้งปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล กล่าวว่า ปฏิบัติการของไอดีเอฟรอบนี้ “ผ่านมาเพียงครึ่งทางเท่านั้น”
ขณะที่มีรายงานว่า อียิปต์กำลังพยายามวิ่งเต้นอย่างหนักอยู่เบื้องหลัง เพื่อหาทางหยุดยิงระหว่างทั้งสองฝ่าย ซึ่งการสู้รบรอบนี้เกิดขึ้นในช่วงครบรอบ ๒ ปี การต่อสู้ที่ยาวนาน๒ สัปดาห์ เมื่อเดือนพ.ค. ๒๕๖๔ คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์มากกว่า ๒๕๐ ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า ๑,๐๐๐ คน ส่วนในอิสราเอลมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย ๑๔ ราย ในจำนวนนี้เป็นแรงงานไทย ๒ ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า ๑๑๐ คน
This is what a concealed rocket launcher ready to shoot at Israeli civilians looks like. We have been operating to thwart planned attacks just like this one.
We will continue operating to do so. pic.twitter.com/qND1UGEvXH
— Israel Defense Forces (@IDF) May 10, 2023
ทางด้านผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามกล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนที่ฉนวนกาซาและอิสราเอลว่า ชาวไซออนิสต์ที่โอ้อวดความสามารถของพวกเขาจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้กลายเป็นเริ่มแสดงความหวาดกลัว เนื่องจากมีปฏิบัติการติดอาวุธมากกว่า ๓๐ ครั้งเกิดขึ้นกับพวกเขาทั่วดินแดนที่ถูกยึดครองทุกวัน
พลตรีฮอสเซน ซาลามี (Hossein Salami) กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังจากการประชุมกับผู้บัญชาการบาซิจ Basij ในเมืองแมชฮัด (Mashhad) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่าการพัฒนาในภูมิภาคกำลังกัดกร่อนความสมบูรณ์ของศัตรูของอิหร่าน
สถานการณ์ในปาเลสไตน์ทั้งหมดกลายเป็นเรื่องน่ากังวลสำหรับพวกไซออนิสต์ หัวหน้า IRGC กล่าวโดยระบุว่า “สภาพภายในและการประท้วงทางการเมืองและสังคมโดยประชาชนที่อาศัยอยู่ในดินแดนยึดครองเผยให้เห็นว่าระบบการเมืองของไซออนิสต์ไม่มั่นคง ”
ที่มอสโกว์ เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ในการหารือร่วม ๔ ฝ่ายได้แก่รัฐมนตรีต่างประเทศ ตุรกี ซีเรีย รัสเซียและอิหร่านในกรุงมอสโกว์ เขากล่าวว่า “ตามข้อมูลของเรา สหรัฐฯ ได้เริ่มสร้างสิ่งที่เรียกว่า ‘กองทัพซีเรียเสรี’ ในบริเวณใกล้เคียงกับเมืองรัคกาของซีเรีย โดยได้รับความร่วมมือจากตัวแทนของชนเผ่าอาหรับในท้องถิ่นที่เป็นกลุ่มติดอาวุธไอเอส และองค์กรก่อการร้ายอื่นๆ”
ลาฟรอฟย้ำว่า “สหรัฐฯ ต้องการใช้เครื่องบินรบเหล่านี้ต่อสู้กับหน่วยงานที่ถูกต้องตามกฎหมายของสาธารณรัฐอาหรับซีเรีย เพื่อทำให้สถานการณ์ในประเทศไม่มั่นคง รัฐมนตรีกล่าวเสริม เขากล่าวว่าสหรัฐฯ ควรหยุดบ่อนทำลายสันติภาพในภูมิภาค และเคารพเจตจำนงของประชาชนในตะวันออกกลาง”
สหรัฐฯ หนุนหลังกลุ่มหัวรุนแรงตั้งแต่เกิดความขัดแย้งในปี ๒๕๕๔ มาจนถึงปัจจุบัน กองทัพสหรัฐฯยังคงควบคุมดินแดนที่อุดมด้วยน้ำมันของซีเรียอย่างผิดกฎหมายมาตลอด ความสมานฉันท์ของตุรกีและซีเรีย จึงเป็นนิมิตหมายสำคัญของดุลกำลังในตะวันออกกลาง
นักการทูตชั้นนำแสดงความเห็นว่า “การเปิดตัวกระบวนการทำให้ซีเรีย-ตุรกีกลับสู่สภาพปกติ มีผลกระทบเชิงบวกที่เห็นได้ชัดเจน ไม่เพียงแต่ต่อสถานการณ์รอบๆ ซีเรียเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อบรรยากาศทั่วไปในภูมิภาคตะวันออกกลางโดยรวมด้วย”
Turkiye และซีเรียขัดแย้งกันอยู่เสมอ แต่ความตึงเครียดก็ร้อนระอุขึ้นหลังจากสงครามกลางเมืองในซีเรียเริ่มขึ้นโดยสหรัฐฯสนับสนุน รัสเซียใช้เวลาและความพยายามเพื่อทำให้สถานการณ์กลับสู่ปกติ โดยจัดการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมของทั้งสองประเทศเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว และเริ่มการเจรจาหลายครั้งระหว่างนักการทูตระดับสูงของซีเรียและ Turkiye โดยได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านอย่างแข็งขัน
เมื่อพูดถึงการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นใน Turkiye รมว.ต่างประเทศของรัสเซียแสดงความหวังว่าจะมีการเลือกตั้งโดยไม่มีการแทรกแซงจากภายนอก
ลาฟรอฟกล่าวว่า “ผมขอใช้โอกาสนี้อวยพรเพื่อนร่วมงานชาวตุรกีของเราให้ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งทั่วไป อย่างที่ผมทราบ การเลือกตั้งเหล่านี้ได้เริ่มขึ้นแล้วนอกประเทศ ผมมั่นใจว่าการเลือกตั้งจะเป็นไปโดยสุจริต โปร่งใส และจะรับประกันเจตจำนงของชาวตุรกี โดยปราศจากการแทรกแซงจากภายนอก”
ตอกย้ำความเลือดเย็นของตะวันตก เมื่อวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เกิดแผ่นดินไหวขนาด ๗.๗ และ ๗.๖ สองครั้งทางตะวันออกเฉียงใต้ของ Turkiye และซีเรีย ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวเกิน ๕๐,๐๐๐ รายใน Turkiye และ ๘,๐๐๐ รายในซีเรีย หลายประเทศแสดงความเต็มใจที่จะให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ซีเรีย แต่พวกเขาต้องเผชิญกับความยากลำบากเนื่องจากการคว่ำบาตรของรัฐบาลสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และสหภาพยุโรป