๗๘ปีแห่งชัยชนะ!! ปูตินลั่นรัสเซียชนะศึกยูเครน ฟาดอิลิทโลกต้นตอระบบปล้นปราบปราม ๘ ปท.เข้าร่วมงานพรึ่บ

0

เมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม ในอดีตมีหลายประเทศจัดเฉลิมฉลองวันแห่งชัยชนะสงครามโลกครั้งที่ ๒ ทั่วยุโรปและสหรัฐอเมริกา แต่วันนี้สถานการณ์เปลี่ยน รัสเซียผู้เป็นกองหน้าสงครามแห่งความรักชาติ และสูญเสียหนักกว่าประเทศสัมพันธมิตรอื่นๆในการปราบกองทัพสุดโต่งเยอรมนี ได้จัดสวนสนาม รำลึกวันสำคัญนี้ ขณะที่อเมริกานอกจากไม่ร่วมยังตีกินหน้าตาเฉยว่า เพราะตนยิงนิวเคลียร์ใส่ญี่ปุ่น สงครามจึงจบ แต่สมรภูมิเดือดที่รบกันมายาวนาน มีแต่รัสเซียที่ตะลุยแหลกจนกองทัพฝ่ายอักษะราบคาบ 

งานนี้พันธมิตร CIS ทั้ง ๘ ประเทศเข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียงประกอบด้วย Armenia, Azerbaijan, Belarus,  Kazakhstan, Kyrgyzstan,  Tajikistan, Turkmenistan, Uzbekistan อดีตUkraine และ Moldovaเป็นสมาชิกด้วย แต่วันนี้ไม่ใช่และไม่ได้มาร่วม แต่ที่มอลโดวามีประชาชนจัดขบวนรถยนตร์รำลึกวันแห่งชัยชนะ ขณะที่รัฐบาลโปรเมกาสุดลิ่ม

ที่สำคัญ ในขบวนพาเหรดมองโกเลียส่งหน่วยทหารเข้าร่วมเดินสวนสนามด้วย

วันที่ ๑๐ พ.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์ ทาซซ์และสปุ๊ตนิกพร้อมใจกันรายงานการกล่าวสุนทรพจน์ของ ปธน.ปูตินแห่งรัสเซียที่เวทีสวนสนามของกองทัพ ที่จัตุรัสแดงในกรุงมอสโกว์ ซึ่งอุทิศให้กับวันครบรอบ ๗๘ ปีแห่งชัยชนะเหนือนาซีเยอรมนีในสงครามโลกครั้งที่ ๒

ปธน.ปูติน ให้คำมั่นว่าสงครามได้ปลดปล่อยรัสเซียจากอาณัติของแองโกลแซกซอนแล้ว แต่มอสโกว์จะแก้ไขปัญหาตรงหน้าอย่างเด็ดเดี่ยวต่อไป

ผู้นำรัสเซียระบุว่า “ชนชั้นสูงในตะวันตกลืมผลที่ตามมาของ“ความทะเยอทะยานบ้าคลั่ง” รัสเซียเชื่อว่า“อุดมการณ์ใดๆ ที่เหนือกว่าผู้อื่นนั้นโดยธรรมชาติแล้วเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ เป็นอาชญากร และเป็นอันตรายถึงชีวิต”

ปูตินกล่าวย้ำว่า “ชนชั้นนำระดับโลกยังคงยืนกรานในความพิเศษของพวกเขา พวกเขาทำให้ผู้คนแตกแยก สังคมแตกแยก ยั่วยุให้เกิดความขัดแย้งนองเลือดและการรัฐประหาร หว่านความเกลียดชัง โรคกลัวรัสเซียและลัทธิชาตินิยมที่ก้าวร้าว ทำลายค่านิยมดั้งเดิมของครอบครัวที่ทำให้มนุษย์เป็นมนุษย์” 

และทั้งหมดนี้ดำเนินการโดยสหรัฐฯ และพันธมิตรเพื่อ“กำหนดเจตจำนง สิทธิ และกฎของพวกเขาต่อไป”และนำสิ่งที่เรียกว่า“ระบบการโจรกรรม ความรุนแรง และการปราบปราม” มาใช้ ในเวทีระหว่างประเทศ

เมื่อกล่าวถึงความขัดแย้งในยูเครน ปูตินกล่าวว่า“วันนี้ อารยธรรมกลับมาถึงจุดเปลี่ยนอีกครั้ง สงครามที่แท้จริงได้ปลดปล่อยมาตุภูมิออกมาแล้ว แต่เราต่อต้านการก่อการร้ายระหว่างประเทศ เราจะปกป้องผู้อยู่อาศัยของ Donbass และรับประกันความปลอดภัยของเราด้วย”

เขายืนกรานว่า เป้าหมายของตะวันตกคือ“บรรลุความแตกแยกและการทำลายล้างประเทศของเรา ลบล้างผลพวงของสงครามโลกครั้งที่สอง ทำลายระบบความมั่นคงของโลกและกฎหมายระหว่างประเทศโดยสิ้นเชิง และบีบคอศูนย์กลางการพัฒนาอธิปไตยทุกแห่ง” 

สหรัฐฯ และพันธมิตรคือต้นตอของการปะทุความขัดแย้งในยูเครน ประมุขแห่งรัฐกล่าวว่า “ความทะเยอทะยานอย่างท่วมท้น ความเย่อหยิ่ง และการยอมจำนนย่อมนำไปสู่โศกนาฏกรรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นี่คือสาเหตุของหายนะที่ชาวยูเครนกำลังประสบอยู่ในขณะนี้”

เขาชี้ให้เห็นว่าชาวยูเครนกลายเป็น“ตัวประกัน”ของการรัฐประหารที่เกิดขึ้นในประเทศในปี ๒๐๑๔ และกลายเป็น“เบี้ยต่อรอง”โดยตะวันตกซึ่งใช้ประเทศนี้เพื่อดำเนิน“แผนเห็นแก่ตัวที่โหดร้าย” มุ่งหมายทำลายรัสเซีย

ปูตินกล่าวว่า “เราได้เห็นอนุสรณ์สถานทหารโซเวียตถูกทำลายอย่างไร้ความปรานีและเลือดเย็น ในหลายประเทศทางตะวันตก ที่ซึ่งมีการสร้างลัทธินิโอฯสุดโต่งเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดอย่างแท้จริง และความทรงจำเกี่ยวกับวีรบุรุษที่แท้จริงกำลังถูกลบล้างและใส่ร้าย” 

เขาประณามการกระทำเหล่านี้ว่าเป็น “อาชญากรรม” และ “การทำลายล้างอย่างตรงไปตรงมาในหมู่ผู้ที่เตรียมการรณรงค์ครั้งใหม่อย่างเหยียดหยามและเปิดเผย เพื่อต่อต้านรัสเซีย และมีการรวบรวมพวกนีโอฯจากทั่วทุกมุมโลกเพื่อการรณรงค์นี้”

ขณะที่อเมริกาอ้างเป็นผู้ปราบฝ่ายอักษะเป็นวีรบุรุษของสงครามโลกครั้งที่สอง แต่กลับเป็นผู้สนับสนุนกลุ่มนีโอฯให้ฟื้นคืนชีพทั้งในยูเครนและยุโรป เพื่อบรรลุเป้าหมายทางภูมิรัฐศาสตร์ของตน คงความเป็นมหาอำนาจเดี่ยวครองโลกต่อไป ปล้นทรัพยากรประเทศอื่นมาปรนเปรอตัวเองและพวกพ้องต่อไป เมื่อเป็นเช่นนี้เหยื่อรายใหญ่ที่แข็งแกร่งอย่างรัสเซีย จึงได้ประกาศแตกหักกับกลุ่มอิลิทแองโกลแซกซอนอย่างชัดเจนแล้วในงานรำลึกวันแห่งชัยชนะ มีแต่ต้องสู้เพื่อความอยู่รอด รบชนะเท่านั้นประเทศและประชาชาติรัสเซียจึงจะดำรงอยู่ได้!!