เอเชีย-แปซิฟิกระอุเพิ่ม เมื่อสหรัฐชูธงต้านจีนขับเคลื่อนบทบาททางทหารในย่านนี้ภายใต้การยินยอมพร้อมใจของญี่ปุ่น เกาหลีใต้และฟิลิปปินส์ เปิดหน้าเป็นเอเยนสงครามให้วอชิงตันอย่างโจ่งแจ้ง
จีนพยายามแสดงบทบาทผู้ส่งเสริมสันติภาพ ด้วยการเข้าไกล่เกลี่ยคู่ขัดแย้งฉาบหน้าระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ทั้งๆที่รู้ว่าสงครามตัวแทนนี้ใครเป็นตัวการใหญ่ แต่เพื่อลดระดับความเสี่ยงของสงครามนิวเคลียร์ที่หากเกิดขึ้นแล้ว มนุษยชาติจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้กันทั้งโลก แต่วันนี้ส่อเค้าลางจะไม่เป็นไปตามหวังเพราะ มหาอำนาจเดี่ยวแองโกล-แซกซอนที่นำโดยสหรัฐฯต้องการสงครามล้างไพ่ เมกากำลังเคลื่อนไหวทางทหารกับพันธมิตรอย่างก้าวร้าวในทะเลจีนใต้
ท่ามกลางไฟสงครามคุกรุ่นในหลายภูมิภาคโลก จีนยังคงขยับแรงในการลดอำนาจของดอลลาร์อย่างเอาการเอางาน
วันที่ ๘ พ.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวโกลบัลไทมส์รายงานว่า จีนเพิ่มคลังสำรองทองคำของประเทศเป็นเดือนที่ ๖ ติดต่อกัน ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา สู่ระดับ ๖๖.๗๖ ล้านออนซ์ ประมาณ ๑,๘๙๓ ตัน ท่ามกลางความตื่นตระหนกทางการเงินโลก ซึ่งมีชนวนเหตุจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกของสหรัฐฯ อันนำมาซึ่งวิกฤตภาคธนาคารที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ ณ เวลานี้
ผู้เชี่ยวชาญมองว่าทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยสำหรับประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่ต้องการป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนต่างๆ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลก เงินเฟ้อระดับสูง และความเสี่ยงอื่นๆ
จากข้อมูลของธนาคารกลางจีนที่เผยแพร่ในวันอาทิตย์ที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา คลังสำรองทองคำของจีน เพิ่มขึ้น๒๖๐,๐๐๐ ออนซ์ เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และหากนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี ๒๐๒๒ จีนได้จัดซื้อทองคำไปแล้วมากกว่า ๔,๑๒ล้านออนซ์
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นในขณะที่ธนาคารกลางประเทศต่างๆ ทั่วโลกยังคงเดินหน้าซื้อทองคำในไตรมาสแรก เพิ่มเติมทองคำ ๒๒๘.๔ ตัน เข้าสู่คลังสำรองโลก เพิ่มขึ้นถึง ๑๗๖% เมื่อเทียบเป็นรายปี ตามข้อมูลของสภาทองคำโลกที่เผยแพร่ในวันศุกร์ ที่ ๕ พ.ค.ที่ผ่านมา
จากความเห็นของ ตง เติ้งซิน ผู้อำนวยการสถาบันการเงินและหลักทรัพย์ แห่งมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอู่ฮั่น เขาวิเคราะห์ว่า “การยกระดับเข้าซื้อทองคำของธนาคารกลางประเทศต่างๆ แสดงให้เห็นว่านักลงทุนทั่วโลกสูญเสียความเชื่อมั่นมากขึ้นต่อการถือครองสินทรัพย์ดอลลาร์สหรัฐ นำมาซึ่งการเทขายสินทรัพย์นี้ และเร่งเข้าซื้อทองคำ”
ส่วน เหลียง ไห่หมิง คณบดีสถาบันวิจัยหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road) แห่งมหาวิทยาลัยไห่หนาน ให้สัมภาษณ์ระบุว่า “กองทุนระหว่างประเทศไปออกันที่ทองคำในฐานะสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ เนื่องด้วยตลาดการเงินโลกมีความกังวลความเสี่ยงเพิ่มเติมจะปรากฏขึ้นในภาคธนาคารสหรัฐฯ ตามหลังการล่มสลายล่าสุดของสถาบันการเงินเฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์
การปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เป็นหนึ่งในปัจจัยของการพังครืนของภาคธนาคารอเมริกา เมื่อวันพุธที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา เฟดยังคงแถลงว่ามีแผนปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ถือเป็นการปรับขึ้นครั้งที่ ๑๐ ในวงจรปัจจุบัน และยืนยันว่าปีนีทั้งปีจะขึ้นไปอีก
รายงานจากสภาทองคำโลก ระบุว่าจีนพบเห็นสัญญาณที่ผ่อนคลายมากขึ้นเกี่ยวกับการใช้จ่ายผู้บริโภค ในช่วงไตรมาสแรกในยุคหลังโควิด-19 พร้อมระบุว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและรายได้ที่เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง กระพือการบริโภคภายในประเทศ และราคาทองคำที่น่าสะดุดตาอย่างมากได้กระตุ้นความสนใจจากนักลงทุนอย่างคึกคัก
เหลียง กล่าวว่า จีนจำเป็นต้องลงทุนในทองคำมากยิ่งขึ้น สืบเนื่องจากหยวนเริ่มกลายเป็นสกุลเงินสากลมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่คลังสำรองทองคำของประเทศจำเป็นต้องมีรากฐานที่แข็งแกร่งเพื่อสนับสนุนกระบวนการดังกล่าว
จีนเพิ่มทุนสำรองระหว่างประเทศเป็น ๓.๒๐ ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงปลายเดือนเมษายน ในนั้นมากกว่า ๒๐,๙๐๐ ล้านดอลลาร์ เกิดขึ้นในเดือนมีนาคม จากการเปิดเผยของสำนักงานบริหารเงินตราต่างประเทศของจีน เรียกย่อว่าSAFE(State Administration of Foreign Exchange ) เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๗ พ.ค.ที่ผ่านมา
SAFE ระบุว่า ผลกระทบจากนโยบายการเงินและตัวเลขการคาดการณ์สำหรับเศรษฐกิจหลักๆ ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงและราคาสินทรัพย์การเงินโลกพุ่งขึ้น เป็นตัวกระตุ้นให้ต้องเพิ่มทุนสำรองหว่างประเทศ เพื่อรับมือกับผลกระทบรวมกันของการแปลงเงินตราและการเปลี่ยนแปลงของราคาทรัพย์สิน
ตง กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของทุนสำรองระหว่างประเทศสะท้อนถึงการส่งออกที่เฟื่องฟูของประเทศและการเติบโตของกระแสไหลเข้าของการลงทุนของต่างประเทศ ซึ่งไหลเข้าสู่ทุนสำรองระหว่างประเทศโดยตรง พร้อมชี้ว่าสถาบันระหว่างประเทศและบรรดานักลงทุน มีความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีน