นอกจากอาวุธมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่สหรัฐฯ และพันธมิตรได้ส่งมอบให้กับยูเครนแล้ว รัฐบาลเคียฟยังเรียกร้องเครื่องบินรบซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง F-16 ที่ผลิตโดยสหรัฐฯ เพื่อทดแทนฝูงบิน MiG-29 ในยุคโซเวียตที่ลดน้อยลง และเครื่องบินรบ Su-27 ที่ถูกรัสเซียสอยหัวทิ่มไปแล้วหลายลำ
วันที่ ๗ พ.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิก รายงานว่า เอฟ-16 ที่ผลิตในสหรัฐฯติดอันดับหนึ่งในความปรารถนาของเคียฟตั้งแต่เริ่มต้นวิกฤตยูเครน แต่เครื่องบินรุ่นที่สี่เบอร์นี้ ” ไม่มีประโยชน์ในสนามรบสมัยใหม่ ” ทหารผ่านศึกของกองทัพอากาศสหรัฐฯ เป็นคนกล่าวในรายงานของสื่อ
จอห์น เวนาเบิล อดีตนักบิน(John Venable, a former pilot) ชี้แจงว่า หากขาดคุณสมบัติการล่องหน เครื่องบินขับไล่เช่น F-16 จะไม่สามารถเทียบชั้นคู่ปรับได้อย่างสมบูรณ์ในสภาพแวดล้อมที่มีภัยคุกคามสูง ”
การป้องกันทางอากาศขั้นสูงของรัสเซีย ด้วยระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน S-400จะสามารถหลบหลีกระบบเป้าหมายของ F-16 ได้ อย่างง่ายดาย ยิ่งไปกว่านั้น S-400 จะสามารถกำหนดเป้าหมายเครื่องบินขับไล่ได้ดี ก่อนที่พวกเขาจะวางตำแหน่งตัวเอง เพื่อยิงโหลด SDBs ซึ่งหมายถึงการยิงระเบิดเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดเล็กคราวเดียว ประมาณ ๘ ลูก
อดีตนักบินซึ่งเป็นนักวิจัยอาวุโสด้านนโยบายกลาโหมของสถาบันคลังสมอง The Heritage Foundation กล่าวเสริมว่า “การให้ MiG-29 แก่ยูเครนมากขึ้นจะไม่ช่วยเป็นต่อสนามรบ และแม้ว่าเราจะให้ F-16 ที่ทันสมัยแก่พวกเขา ฉันจะบอกว่า F-16 รุ่นที่ทันสมัยกว่านั้น มันจะไม่เปลี่ยนแปลงหรือมีอิทธิพลต่อสนามรบในรอบหนึ่งปี ซึ่งถือว่าน้อยกว่ามากที่จะทันเวลา สำหรับการรุกในฤดูใบไม้ผลิ ” เขาอ้างว่าหมายถึง”การตอบโต้ ” ของยูเครนที่โด่งดังมาก
ทหารผ่านศึกสหรัฐฯ คนนี้หวนนึกถึงสมัยที่เขาเป็นนักบิน F-16 ในทศวรรษที่ ๘๐ และ ๙๐ โดยโต้แย้งว่าในเวลานั้น เครื่องบินไอพ่นของเขามีโอกาสที่จะต่อสู้กับ SA-6 และ SA-11 ขีปนาวุธSAM มิสไซล์ระบบพื้นผิวสู่อากาศในยุคโซเวียต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาได้รับการสนับสนุนจากระบบ HARM ของสหรัฐฯชื่อเต็มว่า High-speed Anti-Radiation Missile ซึ่งในการสู้รบตลอดปีมานี้ ยูเครนนำมาใช้จำนวนมากในการตอบโต้รัสเซีย
Venable ชี้ให้เห็นว่า”มีความเป็นไปได้ที่ฉันจะถูกยิง แต่อย่างน้อยก็มีความเป็นไปได้พอๆ กันที่ฉันสามารถไปถึงเป้าหมายได้” ตั้งแต่นั้นมาก็มีสิ่งที่เขา เรียกว่า “ก้าวกระโดดเต็มความสามารถ” สำหรับประสบการณ์ของตนเอง
เขาย้ำว่า ในขณะที่ยูเครนมี S-300 รัสเซียกำลังติดตั้ง S-400 เคลื่อนที่ซึ่งรู้จักกันในชื่อ SA-21 Growler ในกลุ่มประเทศนาโต้ถือว่าเป็นระบบ SAM ที่ทันสมัยที่สุดในโลกที่ออกแบบมาเพื่อดึงดูดเป้าหมายในระยะสูงสุด 400 กิโลเมตร ในสภาพแวดล้อมที่ติดขัดอย่างมาก”
ระบบ S-400 สามารถติดตามเป้าหมายล่องหนจำนวนมากด้วยโมดูลาร์สูงและความคล่องตัวสูง ทำให้มั่นใจได้ว่าระบบจะปรับใช้และเข้าปะทะกับเป้าหมายได้ภายในไม่กี่นาที มันอันตรายถึงชีวิตสำหรับนักสู้ที่เปิดเผยตัว
นักวิเคราะห์ด้านการบินของตะวันตกคนอื่นๆ ได้สะท้อนการประเมิน F-16 เหล่านี้ โดยกล่าวว่าหากเคียฟได้รับมา พวกเขา “อาจอยู่ได้ไม่นานนัก” มีการชี้ให้เห็นว่าเครื่องบินขับไล่หลายบทบาทของบริษัท General Dynamics ต้องการฐานทัพอากาศและแถบอากาศที่เตรียมไว้เป็นพิเศษ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยูเครนขาด เนื่องจากสนามบินของประเทศนี้ “สั้นเกินไป” เพื่อให้สามารถใช้งาน F-16 เต็มพิกัดได้อย่างปลอดภัยต้องสร้างใหม่หรือขยายพื้นที่เดิมซึ่งทำได้ยากในภาวะสงคราม
ย้อนกลับไปในเดือนมกราคม ซาบรีนา ซิงห์ รองเลขาธิการกระทรวงกลาโหมเพนตากอนอ้างถึงว่าเอฟ-16 จะเป็น ” ระบบที่ท้าทายอีกระบบหนึ่งซึ่งต้องการการฝึกอบรมเพื่อให้นักบินของยูเครนมีความเชี่ยวชาญเพียงพอสำหรับการใช้เครื่องบินในการต่อสู้
ไม่ว่าในกรณีใด จนถึงขณะนี้ ประเด็นการส่ง F-16 ของอเมริกาไปยังเคียฟนั้น “นอกกรอบ” โดยมีเพียงสมาชิกนาโต้อย่างโปแลนด์และสโลวาเกียเท่านั้นที่ให้คำมั่นสัญญากับ MiG-29 รุ่นเก่าบางรุ่นเท่านั้น ซึ่งนักบินและช่างเครื่องของยูเครนคุ้นเคย โจ ไบเดน ปธน.สหรัฐฯ กล่าวกับสถานีโทรทัศน์อเมริกันเมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อ้างว่าประธานาธิบดียูเครน เซเลนสกี ” ไม่ต้องการ F-16 ในตอนนี้และเสริมว่า ” ไม่มีเหตุผลรองรับ ” สำหรับการดำเนินการดังกล่าวทั้งๆที่ทั้งเซเลนสกี้และกลาโหมยูเครนอ้อนวอนขอF-16ไม่รู้กี่ครั้ง
เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา พันเอกยูริ อิกนัต Yuriy Ignat โฆษกทางการของกองทัพอากาศยูเครน ยอมรับว่าประเทศตะวันตกยังไม่เต็มใจที่จะส่งมอบ F-16 ให้กับเคียฟ เขาเสริมว่าประเทศสมาชิกนาโต้บางประเทศอยู่ในรายชื่อรอเพื่อรับเครื่องบินรบของสหรัฐฯ มาหลายปีแล้วก็ยังไม่ได้ นั่นคือสหรัฐฯค่อนข้างหวงกลัวถูกล้วงตับ เพราะขายดียอดไม่ตก หากเสียท่าในสนามรบยูเครนจะขายไม่ออก
รัสเซียเตือนหลายครั้งว่าความช่วยเหลือทางทหารที่สหรัฐฯ และพันธมิตรยังคงส่งไปที่เคียฟมีแต่จะยืดเยื้อความขัดแย้งในยูเครน กระทรวงต่างประเทศรัสเซียเน้นย้ำว่าประเทศในกลุ่มนาโต้กำลัง “เล่นกับไฟ” โดยส่งอาวุธให้เคียฟและขบวนอาวุธใดก็ตามที่ส่งไปยังยูเครนจะกลายเป็นเป้าหมายโดยชอบธรรมสำหรับกองกำลังรัสเซีย นั่นคือ F-16ปรากฎโฉมบนท้องฟ้าเมื่อไหร่ ก็จะเจอSAM S-400ของรัสเซียสอยทันที ว่าแต่ไบเดนกล้าไหม!!??
