ลุงแซ่บ เซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซียฟาดเจ็บในที่ประชุมSCO ที่เมืองกัว ประเทศอินเดียเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า Zelensky เป็นแค่ ‘หุ่นเชิด’ จึงไร้ประโยชน์ที่จะเจรจาด้วย
เขาย้ำว่า ความตึงเครียดระหว่างมอสโกว์และตะวันตกสามารถแก้ไขได้ด้วยการพูดคุยกับผู้หนุนหลังจากต่างประเทศของปธน.ยูเครนเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าตะวันตกยังคงเดินหน้าไล่เข่นรัสเซียต่อไป
ลาฟรอฟยืนยันว่ามอสโกว์ไม่เคยปฏิเสธที่จะยุติปัญหาที่เกิดจากการกระทำของสหรัฐฯ และดาวเทียมของพวกเขา ในการปั๊มยูเครนด้วยอาวุธเพื่อจะสู้กับรัสเซียได้
หลายประเทศทั่วโลกตระหนักมากขึ้นว่า ความตึงเครียดเหล่านี้ไม่สามารถคลี่คลายลงได้ด้วยการแช่แข็งความขัดแย้งในยูเครน เขากล่าวว่า“ทุกคนเข้าใจว่าเหตุการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่นั้นเป็นธรรมชาติของภูมิรัฐศาสตร์”
“หากปราศจากการแก้ปัญหาหลักทางภูมิรัฐศาสตร์ ปัญหาที่ชาติตะวันตกต้องการยึดความเป็นเจ้าโลกและยัดเยียดเจตจำนงของตนเองเหนือปัญหาอื่น ๆ ทั้งหมด ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะแก้ไขวิกฤตการณ์ในยูเครนและที่อื่น ๆ ในโลก”
นักการทูตรัสเซียชี้ไปที่แผน ๑๒ ประการของจีนสำหรับข้อตกลงทางการเมืองในยูเครนซึ่งเผยแพร่เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ ลาฟรอฟกล่าวว่าแม้ว่าแผนดังกล่าวจะพยายามยุติความขัดแย้ง แต่ก็ยังมุ่งเน้นไปที่ประเด็นระดับโลกและครอบคลุมมากขึ้น
“ทั้งหมดนี้ต้องหารือกัน แน่นอนว่าไม่ใช่กับ Zelensky ซึ่งเป็นหุ่นเชิดในเงื้อมมือของตะวันตก แต่พูดคุยกับเจ้านายของเขาโดยตรง” Lavrov กล่าวตั้งข้อสังเกตว่าการเจรจาจะเกิดขึ้น“ไม่ช้าก็เร็ว”
ซัดหมัดตรงใส่หน้าไบเดนขนาดนี้ แม้ว่าจะรู้เห็นกันทั้งโลกแล้วก็ตาม การสู้รบในแนวหน้าจึงต้องดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้น
วันที่ ๖ พ.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และทาซซ์รายงานว่า อาคารบริหารของโรงงาน NKMZ ในเมือง Kramatorsk ถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธ โรงงานแห่งนี้เป็นหนึ่งในที่หลักของการสะสมอาวุธและกองกำลังผสมของกองทัพยูเครนในเมือง รายงานจากสื่อโปรยูเครนโดยตรง โดยอ้างว่าเป็นที่อยู่อาศัยของพลเรือน
และฮือฮาไปทั่วโซเชียลเมื่อเยฟเกนี ปริโกชิน(Evgeny Prigozhin) ผู้นำวาร์กเนอร์ เปิดเผยว่า กองทหารของเขาจะถอนตัวออกจากบัคมุตวันที่ ๑๐ พ.ค.นี้ หลังวันวิคตอรี่เดย์ เพื่อต้องการเวลาในการฟื้นตัวและได้ขอให้กองทัพรัสเซียเข้าประจำการแทน
ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลิน และเลขาธิการฝ่ายสื่อของปธน.ปูติน กล่าวว่าเครมลิน รับทราบถ้อยแถลงของพรีโกซิน แต่ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้
ด้านผู้นำเชเชน รามซาน คาดิรอฟผู้บัญชาการหน่วยคอมมานโดอัคห์มัต (Akhmat) ออกมาสยบใจกร้าวของลูกพี่เพื่อนสนิทว่า เรื่องการจัดสรรกระสุนนั้นเพียงพอสำหรับการป้องกัน และรุกคืบในหน่วยปฏิบัติการพิเศษ
รองผู้บัญชาการกองพลที่ ๒ แอปตี อะลาวดินอฟ (Apty Alaudinov) กล่าวว่า”ในช่วงสงคราม ไม่เคยมีทุกอย่างเพียงพอเสมอไป เราไม่สามารถพูดได้ว่าเรามีกระสุนจำนวนมหาศาลเหลือเฟือ แต่มีเพียงพอสำหรับเราที่จะป้องกันตนเองอย่างแน่นหนา ตลอดจนรุกเข้าหาศัตรูใน ทุกวันผมคิดว่าเพียงพออยู่แล้ว” เขาให้สัมภาษณ์กับ สถานีโทรทัศน์ Rossiya-24เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
Kadyrov กล่าวว่าหาก PMC Wagner ออกจาก Bakhmut หน่วย Akhmat ก็พร้อมที่จะเข้าควบคุม Bakhmut แทน
Kadyrov เห็นด้วยกับ Prigozhin ในแถลงการณ์ของเขา และยังยกตัวอย่าง ของหน่วย Chechen ใน Mariupol เมื่อต้องใช้รถถังห้าคันจากกระทรวงกลาโหมเพื่อสนับสนุนทหารราบ แต่ได้เพียงคันเดียว
เขายังเคยโทรหามอสโกว์เป็นการส่วนตัว เพื่อพูดคุยกับผู้บัญชาการที่เกี่ยวข้อง หลังจากนั้นหนึ่งเดือนต่อมาปัญหาหลายอย่างก็ได้รับการแก้ไข เขาได้ส่งเสียงเตือนไปถึงพี่ชายที่เคารพของเขา “Prigozhin” เกี่ยวกับการถ่ายทำศพของสหายที่เสียชีวิต อาจจะโดนต่อต้านโดยสาธารณชน และเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และไม่ควรทำอย่างนั้น และกล่าวถึงการต่อสู้ร่วมกันอย่างดีกับ Wagner PMC ใน Popasnaya, Severodonetsk, Lisichansk และยังมีการปลดปล่อยเมืองอื่นๆของ Donbassด้วย
Kadyrov ให้คำมั่นว่า หากพี่ชายที่เคารพ “Prigozhin” และ “Wagner” ถอนกำลังออกไปจาก Bakhmut น้องชายคนนี้ และกลุ่ม “Akhmat” จะมารับช่วงต่อพร้อมยืนหยัดรักษาเมืองอย่างถึงที่สุด
ความเคลื่อนไหวของผู้นำวาร์กเนอร์กลายเป็นอาหารปากของฝ่ายยูเครนและสื่อตะวันตกอย่างคึกคักว่า รัสเซียแตกร้าวภายในเพราะมือขวาปูตินอิจฉาความสำเร็จของวาร์กเนอร์ จริงหรือไม่ไม่มีใครรู้ แต่การศึกนั้นต้องยึดยุทธศาสตร์เป็นแก่น ยุทธวิธีต้องปรับเปลี่ยนตามสภาพจริงในสนามรบ ไม่มีใครหรือหน่วยใดทำการได้สำเร็จเพียงลำพังหากไม่ได้รับการหนุนช่วย ที่สำคัญธรรมชาติของการเคลื่อนไหวระหว่างหน่วยเอกชน กับกองทัพหลักมีระเบียบปฏิบัติการที่แตกต่างกัน
การถอนกำลังของวาร์กเนอร์ก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมเมื่อหมดสัญญา ซึ่งไม่มีใครรู้นอกจากปูตินและปริโกชิน แต่อย่าลืมว่าภารกิจท้าทายสำหรับวาร์กเนอร์ที่รออยู่ตรงหน้าคือ สนามรบที่ซูดาน ซึ่งตอนนี้เมกาส่งกำลังทหารเข้าพื้นที่แล้วอ้างปกป้องคนอเมริกัน เราอาจได้เห็นวาร์กเนอร์ไปแผลงฤทธิ์ที่นั่นอีกไม่ช้านี้ก็ได้ต้องรอติดตาม!!??