ซัดเดือด!! จีนประณามโจมตีเครมลินขวางสันติภาพ เฉ่งเมกาตั้งฐานนาโต้เอเชีย โหมไฟขัดแย้งเพื่อประโยชน์ตัวเอง

0

จีนตอบโต้กรณีโดรนโจมตีเครมลินอย่างกร้าว ประณามและเรียกร้องให้หลีกเลี่ยงขั้นตอนที่อาจทำให้บานปลายมากขึ้น หลังรัสเซียระบุว่ายูเครนพยายามสังหารประธานาธิบดีปูตินสั่งการโดยสหรัฐฯ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญการเมืองโลกฟันธงว่า ‘น่าจะเชื่อมโยงกับกลุ่มหัวรุนแรง’ ที่ได้รับการสนับสนุนจากเจ้าโลก 

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวข้ามเส้นแดงของวิกฤตยูเครน หลังจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนมากว่าหนึ่งปี ทั้งสองฝ่ายไม่ได้โจมตีทำเนียบรัฐบาลและผู้นำของอีกฝ่าย หลังจากนี้ ทำเนียบของยูเครนอาจตกเป็นเป้าหมายในระยะต่อไป 

และเมื่อนาโต้ประกาศจะเปิดสำนักงานในเอเชียที่ญี่ปุ่น จีนได้ออกมาซัดแรงและเตือนเพื่อนบ้านเอเชียว่าเมกากำลังเข้ามาทำลายความสงบสุขในย่านนี้ มาเพื่อใช้เป็นเวทีแสดงอำนาจปั่นสงครามแบ่งแยก

วันที่ ๕ พ.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวโกลบัลไทมส์รายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศของจีนได้เรียกร้องให้เพื่อนบ้านในเอเชียใช้”ความระมัดระวังอย่างสูง”กับบทบาท

นาโต้สาขาเอเชีย เพื่อตอบสนองรายงานของสื่อที่เปิดเผยว่า NATO กำลังจะเปิดสำนักงานประสานงานแห่งแรกในภูมิภาคนี้ที่กรุงโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่น

เหมา หนิงโฆษกหญิงกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวถึงประเด็นนี้ว่า “เอเชียเป็นสมอหลักของสันติภาพและเสถียรภาพ และเป็นดินแดนที่มีแนวโน้มสำหรับความร่วมมือและการพัฒนา ไม่ใช่พื้นที่สำหรับการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์” เธอกล่าวในระหว่างการบรรยายสรุปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

เหมาเตือนว่า“การโจมตีอย่างต่อเนื่องของนาโต้ทางตะวันออกสู่เอเชียแปซิฟิกและการแทรกแซงในกิจการระดับภูมิภาค จะบ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และกระตุ้นให้เกิดการเผชิญหน้า” 

“จำเป็นต้องมีการเฝ้าระวังอย่างสูงในบรรดาประเทศในภูมิภาค”เมื่อพิจารณาถึงความพยายามของกลุ่มทหารที่นำโดยสหรัฐฯ ในการเข้ามามีบทบาทในเอเชีย”

ก่อนหน้านี้เมื่อวันพุธที่ผ่านมา สำนักข่าว Nikkei Asia รายงานโดยอ้างทั้งเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นและนาโต้ว่า พันธมิตรทางทหารที่นำโดยสหรัฐฯ กำลังเจรจากับญี่ปุ่นเพื่อเปิดสำนักงานประสานงานในประเทศ

NATO ต้องการจัดตั้งสถานีหลักในกรุงโตเกียวเพื่อให้สามารถดำเนินการปรึกษาหารือเป็นระยะกับญี่ปุ่นและพันธมิตรอื่น ๆ ในเอเชียแปซิฟิก เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และเกาหลีใต้ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

แนวคิดเรื่องการจัดตั้งสำนักงานประสานงานของ NATO เกิดขึ้นครั้งแรกโดยนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น Fumio Kishida และเลขาธิการ NATO Jens Stoltenberg ระหว่างการประชุมที่โตเกียวในปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ญี่ปุ่นต้องตกลงเป็นฝ่ายจ่ายเงินที่จะให้ทุนในการดำเนินการตามพันธกิจของกลุ่มเพื่อเปิดประเทศ 

ตัวย่อ ‘NATO’ หมายถึงองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ แต่กลุ่มเพิ่งยอมรับอย่างเปิดเผยว่าพวกเขามีความสนใจในอินโดแปซิฟิกเช่นกัน เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พันธมิตรของกลุ่มจากภูมิภาคนี้ทั้งญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เข้าร่วมการประชุมสุดยอด NATO เป็นครั้งแรก ด้านฟิลิปปินส์ก็เพิ่งไปเยือนสหรัฐฯไม่กี่วันมานี้

กลุ่มกล่าวในแถลงการณ์เมื่อเดือนที่แล้วว่าNATO กำลัง“กระชับความสัมพันธ์”กับญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ และนิวซีแลนด์ เนื่องจาก“ในสภาพแวดล้อมการรักษาความปลอดภัยที่ซับซ้อนในปัจจุบัน ความสัมพันธ์กับพันธมิตรที่มีแนวคิดเหมือนกันทั่วโลกมีความสำคัญมากขึ้นในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงที่ตัดกันและความท้าทายระดับโลกเช่นกัน เพื่อปกป้องระเบียบระหว่างประเทศตามกฎ”

หลิว เจียงยง(Liu Jiangyong) รองคณบดีสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสมัยใหม่แห่งมหาวิทยาลัยซินหัว (Tsinghua) ฟันธงว่าสำนักงานประสานงานจะไม่เพียงครอบคลุมเฉพาะเอเชียตะวันออกเท่านั้น แต่ยังรวมถึงภูมิภาคต่างๆ ตั้งแต่เอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ ไปจนถึงมหาสมุทรอินเดียและไกลออกไปถึงแปซิฟิกใต้ เพื่อสร้างการป้องปรามทางทหารรอบจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสมรู้ร่วมคิดของนาโต้-ญี่ปุ่นมีเป้าหมายเพื่อขัดขวางจีนในประเด็นเกี่ยวกับไต้หวัน หมู่เกาะดินแดนพิพาทหมู่เกาะเตี้ยวหยี๋ และปัญหาทะเลจีนใต้

รัสเซีย ซึ่งต่อต้านอย่างแข็งกร้าวต่อการขยายอาณาเขตของนาโต้ ยังได้วิพากษ์วิจารณ์ความพยายามของกลุ่มที่จะเผยแพร่กิจกรรมนาโต้ในเอเชีย ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ปธน.ปูตินของรัสเซียกล่าวว่า การผลักดันของสหรัฐฯ และพันธมิตรให้สร้างสิ่งที่เขาเรียกว่า“นาโต้สากล”นั้นคล้ายคลึงกับการกระทำของลัทธิทหารสุดโต่งเยอรมนี อิตาลี และญี่ปุ่นในช่วงทศวรรษที่ ๑๙๓๐ ก่อนเกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒