จากเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2566 สำนักข่าวทาซซ์ รัสเซียทูเดย์ และสปุ๊ตนิก พร้อมใจรายงานว่า ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดี และรองประธานคณะมนตรีความมั่นคงรัสเซีย ออกมาเคลื่อนไหวอย่างดุเดือดนั้น
ทั้งนี้รายงานจากสื่อต่างประเทศระบุว่าดมิทรี เมดเวเดฟ ได้โพสต์ลงเทเลแกรมของเขาอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “หลังจากการโจมตีของผู้ก่อการร้าย รัสเซียไม่มีทางเลือกนอกจากต้องกำจัด Zelenskyและกลุ่มของเขา ไม่จำเป็นด้วยซ้ำสำหรับการลงนามในเอกสารยอมจำนนโดยไม่มีเงื่อนไข…..จะมีการทดแทนเสมอ“
อย่างไรก็ตามเหตุเกิดในช่วงเช้ามืดของวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา UAV ของยูเครน 2 ลำได้บินเข้าใกล้เครมลิน ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญอันโดดเด่นในกรุงมอสโกว์ ทำหน้าที่เป็นที่พักอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีรัสเซีย
โดรนที่กำลังเข้าใกล้ถูกพบโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของรัสเซียใช้อุปกรณ์สงครามอิเล็กทรอนิกส์ สกัดกั้นเป็นผลให้ UAV ทั้งสองตกเศษซากของพวกมันกระจายอยู่ในสถานที่ของเครมลิน
โดยสื่อเครมลินระบุว่าไม่มีการบาดเจ็บหรือ ความเสียหายทางวัตถุ ที่เกิดจากการโจมตีครั้งนี้ ควันสามารถเห็นได้พวยพุ่งขึ้นเหนือทำเนียบวุฒิสภา หนึ่งในอาคารที่ตั้งอยู่ในบริเวณพระราชวังเครมลิน
ขณะที่ในวันเดียวกัน ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่าน Blockdit ถึงกรณีการโจมตีของยูเครนต่อรัสเซียด้วยว่า
“ซวยแล้วเซเลนสกี:ข่าวล่าสุดคือรัฐบาลยูเครนส่งโดรน ๒ เครื่องไปหมายลอบสังหารวลาดิเมียร์ ปูตินที่มอสโก แต่กองทัพซึ่งเป็นหน่วยรักษาความปลอดภัยสกัดเอาไว้ได้
ตอนนี้ เซเลนสกีเดินทางไปที่ฟินแลนด์ ถ้ารัสเซียดำเนินการตอบโต้ในแบบเดียวกัน ส่งมือสังหารไล่ล่า เซเลนสกีไม่รอดแน่ครับ แต่กลัวว่าจะมีมือที่ ๓ ฉวยโอกาสเก็บก่อน แล้วป้ายสีใส่รัสเซียนะสิครับ”
ต่อมาดร.ปฐมพงษ์ ยังโพสต์รายงานจากสื่อต่างประเทศที่เผยแพร่ท่าทีของประธานสภามาดูของรัสเซียต่อกรณีลอบสังหารประธานาธิบดีว่า
“จุดยืนรัสเซียกับการลอบสังหารประธานาธิบดี:สื่อนอกรายงาน ขอจับประเด็นที่นาย Viacheslav Volodin ประธานสภาดูมาของรัสเซียออกมาแจง สรุปสาระสำคัญได้ว่า:๑.การใช้โดรนลอบสังหารประธานาธิบดีรัสเซีย เท่ากับศัตรูโจมตีรัสเซีย
๒.รัฐบาลเซเลนสกีต้องถูกตราหน้าว่าเป็นองค์กรก่อการร้าย ๓.เซเลนสกีที่เป็นหัวหน้ารัฐบาลยูเครนก็ถือว่าอยู่ในกลุ่มก่อการร้ายระหว่างประเทศด้วย
๔.รัฐบาลยูเครนในขณะนี้จึงไม่ต่างอะไรจากองค์กรอย่างกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ เชภัต อัลนุสราหรือกลุ่มก่อการร้ายไอสิส
๕.วิธีการก่อการร้ายมีหลากหลายมาก เช่น การลอบสังหารนักการเมืองและบุคคลสำคัญ การใช้อาวุธโจมตีพลเรือนของรัสเซีย ตอนนี้ หันมาวางแผนลอบสังหารประธานาธิบดี
๖.ชาติตะวันตกที่ส่งอาวุธให้ยูเครน ไม่เพียงแต่เป็นผู้สนับสนุนเท่านั้น ยังเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดอีกด้วย ๗.รัสเซียจะไม่เจรจากับยูเครนอีกต่อไปแล้ว ๘.รัสเซียจะใช้อาวุธที่มีประสิทธิภาพหยุดยั้งและทำลายรัฐบาลก่อการร้ายยูเครน”