พร้อมลุย!! อิหร่านยึดเรือน้ำมันสหรัฐฯลำที่สองในรอบสัปดาห์ จับมือซีเรียให้คำมั่น ร่วมขจัดผู้รุกรานฟื้นฟูปท.

0

ร้อนระอุอีกแล้วแบบไม่กลัวเมกาขาใหญ่ เมื่อกองทัพเรือ IRGC ของอิหร่านเข้ายึดเรือบรรทุกน้ำมันต่างชาติติดธงประเทศอื่นแต่เป็นของเมกาฐานฝ่าฝืนกฎหมาย อเมริกายืนยันการยึดเรือบรรทุกน้ำมันถือเป็นลำที่สองในรอบสัปดาห์อย่างที่ทำอะไรไม่ได้ ทำได้แค่โวย

ตามรายงานของสำนักข่าวทาซนิมนิวส์และ IRA ยืนยันถึงความตึงเครียดรอบล่าสุดระหว่างเตหะรานและวอชิงตันว่า อิหร่านได้ยึดเรือบรรทุกน้ำมันของเมกาในน่านน้ำของอ่าวเปอร์เซียอีกแล้ว และกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เรียกร้องให้ปล่อยเรือ

กองเรือที่ห้าของกองทัพเรืออเมริกันในบาห์เรนยืนยันการยึดเรือบรรทุกน้ำมันอเมริกันลำนี้และประกาศว่า เรือบรรทุกน้ำมันชื่อนิโอวิ (Niovi) ที่มีธงปานามาถูกยึด IRGCเมื่อเวลา ๐๖.๒๐ น. ขณะผ่านช่องแคบฮอร์มุซ

ก่อนหน้านี้อิหร่าน ได้ยึดเรือบรรทุกน้ำมันติดธงหมู่เกาะมาร์แชลของอังกฤษชื่อ Advantage Sweet ในอ่าวโอมานเมื่อวันพฤหัสบดีสัปดาห์ก่อน สำนักทะเบียนธงหมู่เกาะมาร์แชลล์ประกาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า เรือบรรทุกน้ำมันถูกทางการอิหร่านควบคุมไว้ในเมืองบันดาร์ อับบาสจริง

กองทัพเรือสหรัฐฯ อธิบายว่าการยึดทั้งสองครั้งเป็นการ“ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศและทำลายความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาค” อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อเมริกันไม่ได้กล่าวถึงข้อเท็จจริงที่ว่า ทันทีก่อนการยึดในวันพฤหัสบดี ทางการสหรัฐฯ ได้ยึดการขนส่งน้ำมันของอิหร่านที่มุ่งหน้าไปยังจีน Financial Timesอ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่นิรนามว่าเรือลำนี้ถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังสหรัฐฯ ในปฏิบัติการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตร

สหรัฐฯ และพันธมิตรมักขัดขวางการขนส่งน้ำมันของอิหร่านในทะเล และเตหะรานมักจะตอบโต้ในลักษณะเดียวกัน กองกำลังอิหร่านยึดเรือบรรทุกน้ำมันสัญชาติกรีก 2 ลำในช่องแคบฮอร์มุซเมื่อปีที่แล้ว หลังจากกรีซอนุญาตให้สหรัฐฯ ระบายน้ำมันของเรือบรรทุกน้ำมันของอิหร่านในน่านน้ำกรีก ย้อนกลับไปในปี 2019 อิหร่านยึดเรือบรรทุกน้ำมันติดธงอังกฤษ 2 ลำ หลังจากที่อังกฤษยึดเรือบรรทุกน้ำมันอิหร่านในยิบรอลตาร์

นอกจากไม่หวาดหวั่นต่อศัตรูแล้ว อิหร่านก็ยังไม่ทอดทิ้งเพื่อนบ้านอย่างซีเรีย

วันที่ ๓ พ.ค.๒๕๖๖ สำน้กข่าวทาซนิมนิวส์รายงานว่า อิบราฮีม ไรซีปธน.อิหร่านเยือนซีเรียอย่างเป็นทางการ ครั้งแรกในรอบ ๑๓ ปี 

แม้ทั้งสองประเทศต่างเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรอย่างหนักหน่วงของสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลานานกว่า ๑ ทศวรรษของสงครามกลางเมืองในซีเรีย ซึ่งปะทุ เมื่อเดือนมี.ค. ๑๕๕๔ อิหร่านเป็นหนึ่งในประเทศที่คอยมอบความช่วยเหลือทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ และการทหาร ให้แก่รัฐบาลดามัสกัส โดยเฉพาะความสนับสนุนทางทหารจากอิหร่านถือว่า มีส่วนสำคัญอย่างมาก ซึ่งช่วยให้กองทัพซีเรียสามารถกระชับพื้นที่กลับคืนจากกองกำลังฝ่ายกบฏ โดยคงเหลือเพียงพื้นที่บางส่วนทางเหนือเท่านั้น และตอนนี้ รัฐบาลอัสซาดมุ่งเน้นไปที่การฟื้นฟูประเทศ ที่แน่นอนว่า ต้องใช้เวลาอีกนานหลายทศวรรษเนื่องจากมีภัยพิบัติแผ่นดินไหวมาซ้ำเติมอีกระลอก

ปธน.บาร์ชา อัล-อัสซาดกล่าวกับปธน.ไรซี ยกย่องความสัมพันธ์ที่มั่นคงระหว่างสองประเทศ ด้านผู้นำอิหร่านแสดงความเชื่อมั่น ว่าทุกภาคส่วนในซีเรียจะสามารถฝ่าฝันทุกอุปสรรคไปได้อย่างราบรื่นเพื่อชัยชนะ และความสัมพันธ์ระหว่างซีเรียกับอิหร่าน “เป็นมากกว่าเรื่องการเมืองและการทูต” เพราะ “คือความไว้เนื้อเชื่อใจกันอย่างแท้จริง”

อัสซาดและไรซีลงนามร่วมกันในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วย “การส่งเสริมความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ในระยะยาว” ครอบคลุมด้านพลังงาน อากาศยาน ระบบขนส่งทางราง และการเกษตร

อัสซาดเรียกร้องให้อิหร่านช่วยเหลือประเทศของเขาในการรับรองความปลอดภัยและฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากสงครามขึ้นใหม่ เขาย้ำว่า “รัฐบาลซีเรียและประเทศชาติจะไม่มีวันลืมความช่วยเหลือจากพี่น้องชาวอิหร่าน” 

เขายังเรียกร้องให้อิหร่านมีบทบาทที่แข็งขันมากขึ้นในการประกันสันติภาพและความมั่นคงที่ยั่งยืนในซีเรีย และช่วยให้ประเทศอาหรับสร้างพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากสงครามหลายปีขี้นมาใหม่

อัสซาดระบุด้วยว่าความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านและซีเรียยังคงมีเสถียรภาพแม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก และแม้จะมี “พายุทางการเมืองและความมั่นคงที่รุนแรง” ที่พัดถล่มภูมิภาคตะวันออกกลางอยู่อย่างต่อเนื่อง

ในส่วนของประธานาธิบดีอิหร่านย้ำว่าการพัฒนาในระดับภูมิภาคและนอกภูมิภาคไม่ได้ทำลายสายสัมพันธ์ฉันพี่น้องระหว่างเตหะรานและดามัสกัส Raisi ได้กล่าวยกย่องรัฐบาลซีเรียและประเทศ ตลอดจนแนวร่วมต่อต้านผู้รุกราน สำหรับชัยชนะในการต่อต้านการก่อการร้าย ซีเรียได้ฝ่าฟันทุกปัญหาแม้จะมีภัยคุกคามและการลงโทษจากบุคคลภายนอกก็ตาม

ท่ามกลางการคุกคามจากภายนอก เจ้าหน้าที่พลเรือนซีเรีย เปิดเผยว่า หลังเหตุแผ่นดินไหวที่รุนแรงในซีเรีย ประชาชนยังอยู่กับความทุกข์บ้านเมืองต้องการฟื้นฟูในขณะที่การคุกคามโจมตีจากอิสราเอลยังไม่จบสิ้น พร้อมๆกับการถูกปล้นทรัพยากรน้ำมันโดยสหรัฐฯและสมุนยังดำเนินต่อไปไม่ยอมเลิก การพบกันซึ่งหน้าครั้งนี้เปรียบเสมือนการประกาศอย่างเป็นทางการ ของอิหร่านในการจับมือกับพันธมิตรหลายฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมกับปัญหาซีเรียอย่างจริงจัง ทำให้ซีเรียไม่โดดเดียว ส่วนเมกาและอิสราเอลมีสะดุ้ง!!