เหตุการณ์ร้อนล่าสุดเมื่อวานนี้ ‘รัสเซีย’แถลงด่วน ‘ยูเครน’พยายามสังหาร‘ปูติน’ โดยใช้โดรนโจมตีวังเครมลิน แต่ล้มเหลวถูกยิงตก ก่อกระแสฮือฮาในสื่อทุกค่าย
อดีตปธน.รัสเซียโกรธจัด เร่งให้แก้แค้นกำจัดผู้นำยูเครนและพวก ด้านสภาดูมาออกมาแถลงประณามยูเครนมีพฤติกรรมก่อการร้าย ใครช่วยก็คือหนุนก่อการร้าย กองทัพรัสเซียจะตอบโต้อย่างสาสม
ก่อนหน้านี้รถไฟเมืองชายแดนรัสเซียถูกระเบิดตกรางสองวันติด ซึ่งบ่งบอกว่ายูเครนจ้องปฏิบัติการก่อการร้ายไม่หยุด ในขณะที่โดรนต้องสงสัยโจมตีคลังน้ำมันในไครเมียทำให้เกิดไฟลุกท่วม และสายไฟฟ้าแรงสูงระเบิดใกล้เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
การส่งโดรนโจมตีเครมลินครั้งนี้ เซเลนสกีปฏิเสธรัวๆว่า ประเทศของเขาไม่ได้โจมตีมอสโกว์หรือปธน.ปูตินของรัสเซียแต่อย่างใด น่าจะรู้ตัวว่าเงาหัวจะไม่มีก็ครั้งนี้แหล่ะ
วันที่ ๔ พ.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวทาซซ์ รัสเซียทูเดย์และสปุ๊ตนิก พร้อมใจรายงานว่าดมิทรี เมดเวเดฟ (Dmitry Medvedev)อดีตปธน. และรองประธานคณะมนตรีความมั่นคงรัสเซีย โพสต์ลงเทเลแกรมของเขาอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “หลังจากการโจมตีของผู้ก่อการร้าย รัสเซียไม่มีทางเลือกนอกจากต้องกำจัด Zelenskyและกลุ่มของเขา ไม่จำเป็นด้วยซ้ำสำหรับการลงนามในเอกสารยอมจำนนโดยไม่มีเงื่อนไข…..จะมีการทดแทนเสมอ“
เหตุเกิดในช่วงเช้ามืดของวันที่ ๓ พ.ค.ที่ผ่านมา UAV ของยูเครน ๒ ลำได้บินเข้าใกล้เครมลิน ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญอันโดดเด่นในกรุงมอสโกว์ ทำหน้าที่เป็นที่พักอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีรัสเซีย
โดรนที่กำลังเข้าใกล้ถูกพบโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของรัสเซียใช้อุปกรณ์สงครามอิเล็กทรอนิกส์ สกัดกั้นเป็นผลให้ UAV ทั้งสองตกเศษซากของพวกมันกระจายอยู่ในสถานที่ของเครมลิน สื่อเครมลินระบุว่าไม่มีการบาดเจ็บหรือ ความเสียหายทางวัตถุ ที่เกิดจากการโจมตีครั้งนี้ ควันสามารถเห็นได้พวยพุ่งขึ้นเหนือทำเนียบวุฒิสภา หนึ่งในอาคารที่ตั้งอยู่ในบริเวณพระราชวังเครมลิน
ในช่วงเวลานั้น ปธน.ปูตินของรัสเซียไม่ได้อยู่ที่เครมลินและยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ เครมลินออกแถลงการณ์ระบุว่า “เหตุการณ์นี้เป็น “การวางแผนก่อการร้ายและความพยายามปลิดชีวิตประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซียวลาดิเมียร์ ปูติน”
ทางเมืองมอสโกมีปฏิกิริยาทันที โดยนายกเทศมนตรีกรุงมอสโก เซอร์เก โนบิยานิน (Sergey Sobyanin) ประกาศห้ามใช้ UAV ในเมือง โดยกล่าวว่า”ข้อยกเว้นเพียงอย่างเดียวสำหรับโดรน จะใช้โดยการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่ของรัฐเท่านั้น”
ดูเหมือนว่าการโจมตีด้วยโดรนรบกวนชีวิตปกติในมอสโกว์เพียงเล็กน้อย โดยผู้สื่อข่าวสื่อรัสเซียรายงานจากที่เกิดเหตุว่า ไม่พบการประกาศมาตรการความปลอดภัยเพิ่มเติมใกล้กับเครมลิน
ฝ่ายนิติบัญญัติของรัสเซียมีปฏิกิริยาทันทีเช่นกัน
โอเลก โมโรซอฟ(Oleg Morozov) ส.ส. รัสเซียระบุว่าประธานาธิบดียูเครน Volodymyr Zelensky ควรถูกกำหนดให้เป็นผู้ก่อการร้ายอย่างเป็นทางการ
เขากล่าวว่า “การโจมตีเครมลินถือเป็นขั้นตอนใหม่ ต่อปฏิบัติการทางทหารของยูเครนต่อรัสเซีย และจำเป็นต้องมีการตอบโต้ทางทหารอย่างเพียงพอเพื่อให้รัสเซียแสดงให้เห็นว่าการกระทำเช่นการโจมตี UAV นี้จะไม่ลอยนวล”
ด้านสภาดูมาของรัสเซีย วยาเชสลาฟ โวโลดินประธานสภาฯ ยืนยันว่า “ระบอบนิโอฯในเคียฟ” ทั้งหมดควรได้รับการยอมรับว่าเป็นองค์กรก่อการร้ายที่คุกคามความปลอดภัยของรัสเซีย ยุโรป และทั่วโลก” .
“พฤติกรรมยูเครนได้เป็นที่ประจักษ์ไปทั่วโลก ว่าเป็นยุทธวิธีที่รวมถึงการแบล็กเมล์นิวเคลียร์ การลอบสังหารบุคคลสาธารณะและบุคคลสำคัญทางการเมือง การก่อวินาศกรรมโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน และการพยายามปลิดชีวิตผู้นำรัสเซีย”
เขาเสริมว่า “นักการเมืองในประเทศตะวันตกที่จัดหาอาวุธให้กับรัฐบาล Zelensky” ควรตระหนักว่าตอนนี้พวกเขากลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดใน “กิจกรรมการก่อการร้าย”ด้่วย
ด้านเคียฟออกมาดิ้นปฏิเสธกันทั่วหน้า ตั้งแต่เซเลนสกี้ไปจนถึงทีมงาน เจ้าหน้าที่จากสำนักงานประธานาธิบดียูเครนอ้างว่า เคียฟไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อการโจมตีเครมลิน ที่ปรึกษาประธานาธิบดีมีไคโล โพโดลียัก ถึงกับพยายามตำหนิการกระทำของผู้ก่อการร้ายว่าเป็น “กองกำลังต่อต้านในท้องถิ่น” โดยไม่ระบุรายละเอียด
ทั้งเขาและเซเลนสกี้อ้างว่ายูเครน “ทำสงครามเพื่อป้องกันโดยเฉพาะและไม่โจมตีเป้าหมายในดินแดนของสหพันธรัฐรัสเซีย” แม้ว่ากองกำลังยูเครนโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือนในรัสเซียซ้ำแล้วซ้ำอีกในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ เคียฟยังแสดงท่าทีไม่เต็มใจที่จะยอมรับความรับผิดชอบต่อการโจมตีของผู้ก่อการร้ายอื่นๆ ที่กระทำโดยกองกำลังของตน เช่น การระเบิดที่สะพานข้ามช่องแคบเคิร์ช ซึ่งกระทำโดยผู้ก่อการร้ายยูเครน หรือการเข้าไปกราดยิงในบริยันสค์เมืองชายแดนของรัสเซียที่ติดกับยูเครน
การมุ่งโจมตีต่อปูติน เป็นเป้าหมายที่ทั้งเมกาและยูเครนเองแสดงออกมาโดยตลอด แม้แต่ส.ส.เดโมแครต หรือที่ปรึกษาทางทหารของเมกาเองก็เคยมาพ่นว่าสงครามจบต้องเด็ดชีพปูติน บางคนถึงกับให้ค่าหัวอย่างโจ่งแจ้ง แสดงว่าแผนซื้อคนทรยศยังไร้ผล ถึงต้องเล่นกันซึ่งๆหน้าทั้งๆที่รู้ว่ายากจะสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ส่งผลตามที่ผู้สนับสนุนสงครามตัวแทน เพราะยั่วยุให้รัสเซียโกรธเกรี้ยวส่งสัญญาณร้ายหมายหัวเซเลนสกี้ หากกี้มีอันเป็นไปโดยใครก็แล้วแต่ ทุกฝ่ายจะมองไปยังรัสเซียทันที!!??
