อังกฤษผวา! หวั่นโดนถล่มโครงข่ายไฟฟ้าฯ หลังร่วมวางแผนระเบิดสะพานไครเมีย ขณะครึ่งยุโรป หันฟื้นสัมพันธ์รัสเซียแล้ว
จากกรณีเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อังกฤษประกาศคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม เนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปีสงครามยูเครน ซึ่งรวมถึงการห้ามส่งออกสินค้าทุกรายการที่รัสเซียได้นำไปใช้ในสนามรบ และห้ามนำเข้าสินค้าโลหะและเหล็กกล้าด้วย
ล่าสุดวันนี้ (3 พฤษภาคม 2566) Blockdit World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่อังกฤษ กลัวรัสเซียจะตัดไฟฟ้า โดยบอกว่า Dr. Duane Ryan Menezes ผู้เชี่ยวชาญองค์กร Think Tank Polar Research and Policy Initiative สหราชอาณาจักรระบุว่า ประเทศมีสายเคเบิลมากกว่า 550 สายทอดยาว 870,000 ไมล์ใต้ทะเลเหนือ เสี่ยงที่จะถูกก่อวินาศกรรมโดยเรือสอดแนมรัสเซีย โจมตีเอาคืนทำลายโครงข่ายไฟฟ้าแห่งชาติของสหราชอาณาจักร ที่ขึ้นอยู่กับสายเคเบิลใต้ทะเลที่ทรงพลัง จนส่งผลให้ไฟฟ้าดับวงกว้างทำให้ชาติเป็นอัมพาต
ความเสียหายต่อสายไฟใต้ทะเลจะสร้างความเสียหายอย่างมากโดยเฉพาะในประเทศที่อยู่รอบๆ ทะเลเหนือ จะทำให้เกิดไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ ทำให้สังคมและเศรษฐกิจของพวกเขาเสียหายย่อยยับ สื่อ RTE ของไอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร รายงานว่า Larisa Gerasko ทูตยูเครนประจำไอร์แลนด์ โวยวายว่า บริษัทวิสกี้แบรนด์ Jameson เจ้าของโดยบริษัท Pernod Ricard ของฝรั่งเศส กลับมาค้าขายสินต่อในสหพันธรัฐรัสเซีย
โดยยืนยันว่า “ปฏิบัติตามมาตรการคว่ำบาตรระหว่างประเทศทุกประการ” เพราะสหภาพยุโรปไม่มีการกำหนดวิสกี้ในการคว่ำบาตร ดังนั้น ยุโรป จึงขายสินค้าให้รัสเซีย แล้วชำระเป็นรูเบิลได้ อีกทั้งบริษัท ต้องการปกป้องการตกงานของพนักงานจำนวนมาก ทูตยูเครน ประจำไอร์แลนด์ จึงหัวร้อนมาก เธอจะ “คว่ำบาตร” เป็นการส่วนตัว ไม่ซื้อผลิตภัณฑ์วิสกี้ของ Jameson ดื่มอีกต่อไป และต้องการให้บรรดาผับ รวมถึงร้านอาหาร และลูกค้าของแบรนด์นี้คว่ำบาตรวิสกี้ฝรั่งเศสนี้เช่นเดียวกัน
นาย ปิโอเตอร์ กลินสกี้ รองนายกรัฐมนตรีโปแลนด์ ระบุว่า ฝ่ายค้านและพันธมิตร คู่แข่งทางการเมืองต้องการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัสเซีย ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวโปแลนด์ก็เช่นกัน รวมทั้งธุรกิจที่สนับสนุนทางการเมือง กว่าครึ่งหนึ่งของชาติในทวีปยุโรป ต้องการที่จะปรับปรุงฟื้นความสัมพันธ์กับรัสเซียโดยเร็วที่สุด เพื่อเริ่มทำมาค้าขายกัน
วิเคราะห์ว่า อังกฤษ เคยไปก่อการร้ายกับชาติอื่นไว้มาก รวมถึงร่วมวางแผนระเบิดสะพานไครเมีย การส่งกำลังพลเทพกว่า 50 หน่วย พร้อมอาวุธมหาเทพ ทำสงครามโดยตรงกับรัสเซียในยูเครน จึงมีอาการกลัวว่ารัสเซีย จะเอาคืนแบบเดียวกันบ้าง แต่ที่ควรต้องกลัวและระวังให้ดีคือ ลูกพี่สหรัฐ ที่เคยก่อการร้ายแบบนี้กับชาติต่างๆ มาแล้วทั่วโลก
ภายหลังการคว่ำบาตรมากว่า 1 ปี เศรษฐกิจรัสเซีย กลับดีขึ้นกว่าเดิมก่อนคว่ำบาตร มหาเศรษฐีงอกเพิ่มขึ้นมาเพียบ อัตราเงินเฟ้อต่ำ ชาวรัสเซีย จึงมีกำลังซื้อมหาศาลเพิ่มขึ้นกว่าเมื่อก่อนอย่างมาก อีกทั้งกำลังร่วมมือกับจีนในการจัดระเบียบโลกใหม่หลายขั้ว เป็นเทรนที่สามารถย้อนกลับได้ ชาติในยุโรปที่ไม่มีโรงงานผลิตอาวุธขายให้ยูเครนกู้ จึงอยากฟื้นความสัมพันธ์กลับไปค้าขายและนำเข้าพลังงานราคาถูกรัสเซียเหมือนเดิม
แต่เป็นสิ่งที่ช้าและเป็นไปไม่ได้แล้ว เพราะรัสเซีย ได้เปลี่ยนทิศทางสินค้าโภคภัณฑ์ราคาถูก และเปลี่ยนยุทธศาสตร์ชาติไปยังเอเซีย แอฟริกา ละตินอเมริกา ไปเรียบร้อยแล้ว โปแลนด์ จะมีการเลือกตั้งใหญ่ไตรมาส 3 ปี 2566 พรรคฝ่ายรัฐบาลที่นำพาชาติเข้าสู่สงครามกับรัสเซีย ทำให้เกษตรกรเดือดร้อนจากราคาพืชยูเครน ตีตลาด การน้ำเข้าพลังงานราคาแพงจากสหรัฐ นอร์เวย์ จะเสี่ยงแพ้เลือกตั้งสูงกว่า
ยุโรป จะไม่มีโอกาสกลับไปรุ่งเรืองได้อีกแล้ว สัญญาณนี้ดูได้จากเพิ่งมีม็อบชาวฝรั่งเศส 2.3 ล้านคน ออกมาก่อการปฏิวัติฝรั่งเศส เรียกร้องประชาธิปไตย เผาบ้านเผาเมืองครั้งใหญ่ในรอบปี สถานการณ์ฝรั่งเศส เป็นเช่นใดความวุ่นวายในสหภาพยุโรป ก็จะลุกลามขยายตัวไม่ต่างกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.blockdit.com/world.update
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/profile.php?id=100077775671454