ขณะที่ ๕ ชาติอาหรับสนับสนุนให้ซีเรียได้กลับเข้าเป็นสมนชิกสันนิบาตอาหรับอย่างเป็นทางการ และมีมติขับกองกำลังต่างชาติ ซึ่งหมายถึงสหรัฐฯที่เข้ามาปล้นทรัพยากรของซีเรีย รวมทั้งกลุ่มก่อการร้ายทุกกลุ่มที่มีขาใหญ่หนุนหลัง
เมื่อวานนี้ตุรกีออกมาประกาศว่า หน่วยปฏิบัติการข่าวกรองของตุรกีได้สังหารหัวหน้าIS ที่เมือง จันเดเรส(Janderes) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ในขณะที่พลเรือเอกที่เกษียณแล้วของตุรกีเรียกร้องให้รัฐบาลถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิก NATO
วันที่ ๒ พ.ค.สำนักข่าวสายอาหรับทั้งอัลจาซีราและอาหรับนิวส์รายงานว่าประธานาธิบดีเรเซป ตอยยิป เออร์โดอัน (Recep Tayyip Erdogan) ของตุรกี แถลงเมื่อวันที่ ๑ พ.ค. ที่ผ่านมาว่า “หน่วยข่าวกรองตุรกี MIT(Millî İstihbarat Teşkilatı ) ได้ปฏิบัติการสังหารนายอาบู ฮุสเซ็น อัล-คูราชี (Abu Hussein al-Qurayshi) ผู้นำกลุ่ม IS ที่เมืองจันเดเรส(Janderes) ของซีเรีย ตั้งแต่วันที่ ๒๙ เม.ย.๒๕๖๖ รวมทั้งประกาศจะดำรงการปฏิบัติการต่อต้านกลุ่มก่อการร้ายสากลทุกกลุ่ม อย่างไรก็ดี โฆษกของกลุ่ม IS ยังไม่ยืนยันข่าวสารการเสียชีวิต และไม่มีการตั้งผู้นำคนใหม่
มีการประมาณการณ์ว่ากลุ่ม IS ยังคงมีสมาชิกประมาณ ๖,๐๐๐ คน อยู่ในซีเรียและอิรัก และมีฐานที่มั่นในอัฟกานิสถานและโซมาเลีย
ขณะที่แหล่งข่าวในซีเรียให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ข่าวกรองของตุรกีและซีเรีย ยังคงปิดล้อมพื้นที่แห่งหนึ่งในเมืองจันเดเรสอยู่
ด้าน ศูนย์บัญชาการภูมิภาคกลางของกองทัพสหรัฐ ( เซนต์คอม ) ยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการ ต่อการเปิดเผยของรัฐบาลอังการา ย้อนกลับไปเมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา กองทัพสหรัฐปฏิบัติการด้านความมั่นคงในซีเรียอย่างน้อย ๒ ครั้ง สังหารแกนนำไอเอสอย่างน้อย ๒ คน คือ นายอับดุล-อัล ฮาดี มาห์มุด อัล-ฮาจี อาลี และนายคาหลิด ไอยิด อาหมัด อัล-จาบูรี
ด้านสำนักข่าวสปุ๊ตนิกเปิดเผยกระแสต่อต้านนาโต้ในตุรกีซึ่งคุกรุ่นมานาน เริ่มปะทุให้เห็น
พลเรือเอกเซ็ม เกอร์เดนิซ (Cem Gurdeniz) นายทหารเกษียณของตุรกีกล่าวในการให้สัมภาษณ์สื่อว่า “ตะวันตกเป็นภัยคุกคามต่อ Turkiye มากขึ้น โดยสนับสนุนความพยายามสร้างรัฐเคิร์ดแบ่งแยกดินแดน” เขาเสริมว่าอังการาต้องออกจากนาโต้ทันที
อ้างถึงจุดเริ่มต้นของสงครามลับ โดยพรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน (PKK) ซึ่งหนุนก่อตั้งองค์กรก่อการร้ายในปี ๑๙๘๔ Gurdeniz ระบุว่าประเทศตะวันตกไม่สนับสนุน Turkiye ในความขัดแย้งที่กำลังดำเนินอยู่กับพวกก่อการร้าย
“มีผู้เสียชีวิตแล้วกี่พันคนทางตะวันออกเฉียงใต้ของ Turkiye ตั้งแต่ปี ๑๙๘๔ Turkiye มีปัญหามากมายในพื้นที่ แต่เราไม่เคยได้รับการสนับสนุนจาก NATO หรือ EU ปล่อยให้พวกก่อการร้ายข้ามแดนไปมาไม่จบสิ้น”
ถ้อยแถลงเกี่ยวกับ Turkiye ที่จัดทำโดยเจ้าหน้าที่สหภาพยุโรปหรือวุฒิสภาสหรัฐฯ ทำให้ ” ชัดเจนว่าใครคือมิตรของเราและใครคือศัตรูของเรา “
พลเรือเอกตุรกีแสดงความกังวลว่า NATO จะลากอังการาเข้าสู่ความขัดแย้งผ่านวิกฤตยูเครน เขากล่าวว่าในกรณีนี้ Turkiye จะถูกบังคับให้ปิดช่องแคบสำหรับรัสเซีย และนี่จะเป็นสาเหตุของความขัดแย้งเต็มรูปแบบระหว่างรัสเซียและ NATO ด้วยการใช้อาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี
Gurdeniz เชื่อว่า Jens Stoltenberg เลขาธิการ NATO ตระหนักถึงความเสี่ยงนี้ แต่เขาเป็นเพียง ” หุ่นเชิดของอเมริกา ” และนั่นคือเหตุผลที่เขารีบประกาศยอมรับยูเครนใน NATOโดยอ้างว่า สมาชิกทั้งหมดของนาโต้สนับสนุนซึ่งไม่จริง
นอกจากนี้ เขายังระบุด้วยว่าสหรัฐฯ “ใช้” อังการามาตั้งแต่ปี ๑๙๔๕/๒๔๘๘ และก่อนหน้านั้น สหราชอาณาจักรก็ปฏิบัติต่อตุรกีแบบเดียวกัน เขาเชื่อว่าประเทศของเขาจะต้องกำจัด “การพึ่งพาพวกแองโกล-แซกซอน” นี้ ด้วยค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผล และดำเนินนโยบายอิสระของตนเองโดยสร้างสมดุลระหว่าง “มหาสมุทรแอตแลนติกและเอเชีย”
เขายอมรับว่าการถอนตัวจาก NATO จะทำให้เกิดความขัดแย้งกับกรีซอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่กว่าต่อความมั่นคงในภูมิภาคมาจากรายงานของโครงการตะวันตกที่ต้องการเปลี่ยนทะเลดำให้กลายเป็น ” ทะเลสาบของนาโต้ “
เกอร์เดนิซ ประณาม NATO ที่ทำให้ Turkiye เข้าใจผิดเกี่ยวกับเป้าหมายของสหภาพโซเวียต และทำให้เครมลินกลายเป็นสีดำ เป้าหมายของนโยบายนี้คือการเปลี่ยน Turkiye ให้เป็นดาวเทียมตะวันตกเผชิญหน้ากับรัสเซีย เขาเชื่อว่า Turkiye ควรสร้างพันธมิตรทางภูมิรัฐศาสตร์กับรัสเซีย จีน และอินเดีย และพัฒนาการติดต่อใกล้ชิดกับประเทศ BRICS และSCO โดยเร็วที่สุด
