จากที่มีรายงานถึงการเคลื่อนไหวที่โลกเฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิด เมื่อฟิลิปปินส์ให้สหรัฐอเมริกาเข้าตั้งฐานทัพ รวมทั้งการซ้อมรบร่วมกันตามข่าวสารที่ปรากฏ ยิ่งทำให้สถานการณ์ระหว่างสหรัฐและจีนตรึงเครียดกับการยั่วยุให้เกิดสงครามหรือไม่นั้น???
ล่าสุด Blockdit World Update ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงสถานการณ์ในฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 01 พฤษภาคม 2566 ต่อเนื่องจากการซ้อมรบร่วมกบสหรัฐว่า
“อดีตประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ผู้นำฟิลิปปินส์ นาน 6 ปี เป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยม เขาสั่งปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายโปรตะวันตกไม่ไว้หน้า เคยประกาศว่าถ้าสหรัฐ อยากทำสงครามกับจีน ก็กล้าๆ หน่อยถือปืนนำหน้าออกรบเองเดี่ยวต่อเดี่ยวไปเลย ไม่ต้องมายุยงชาวฟิลิปปินส์ไปออกหน้า
สร้างความขุ่นเคืองให้สหรัฐ และยุโรป สั่งให้ศาลอาญาระหว่างประเทศ ICC ที่เป็นเครื่องมือเอาผิดเขา แต่ฟิลิปปินส์ ไม่ได้ร่วมเป็นภาคีองค์กรกำมะลอนี้ จึงมุกแป้กทำอะไรเขาไม่ได้ และเขาไม่ลงสมัครเลือกตั้งวาระใหม่
ปี 2565 ชาวฟิลิปปินส์เลือกคนรุ่นใหม่ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ลูกชายอดีตผู้นำจอมทุจริตคดโกง นายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส โปรสหรัฐ ที่ชาวฟิลิปปินส์หลายล้านคนเคยก่อม็อบไล่ตระกูลเขาหนีไปลี้ภัยเป็นคนแดนไกล
สหรัฐ จึงสมหวังหันมาใช้บริการดันหลังเขาหลอกใช้เป็นเบี้ยเครื่องมือสั่งกองทัพฟิลิปปินส์ ให้เป็นปฏิปักษ์แผนทำสงครามกับจีน โดยอนุญาตให้สหรัฐ มาตั้งฐานทัพ 9 แห่งโดยฐานหลายแห่งอยู่ใกล้กับเกาะไต้หวัน เพื่อปิดล้อมเตรียมยิงขีปนาวุธใส่จีน
วันที่ 11 เมษายน 2566 สหรัฐฯ จูงฟิลิปปินส์ ซ้อมรบครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษมีทหารเข้าร่วมมากกว่า 17,600 นาย ซ้อมยิงกระสุนจริง โดยมีเรือจีนจำลองเป็นเป้าซ้อมโจมตีด้วยจรวดในน่านน้ำทั่วทะเลจีนใต้ แสดงแสนยานุภาพของสหรัฐว่าสั่งชาติในกลุ่มอาเซียนบางชาติได้
วันที่ 23 เมษายน 2566 ขณะซ้อมรบ เรือยามฝั่ง 2 ลำของฟิลิปปินส์ บรรทุกนักข่าว ได้ยั่วยุตามแผนสหรัฐ โดยล่วงล้ำเข้าไปในน่านน้ำนอกแนวปะการังเหรินอ้าย โดยไม่ได้รับอนุญาตจากจีน
เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุว่า การกระทำของฟิลิปปินส์เป็นการยั่วยุโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งออกแบบมาเพื่อสร้างความขัดแย้ง และโยนความผิดบิดเบือนผ่านสื่อให้กับจีน
เมื่อเข้าแผนแล้วต่อมา สหรัฐฯ ยุงยงฟิลิปปินส์ให้ทำสงครามกับจีน โดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า สหรัฐฯ ขอให้จีนยุติการกระทำที่ยั่วยุ และอันตรายในทะเลจีนใต้
สหรัฐฯ ยืนเคียงข้างฟิลิปปินส์เสมอ และขู่ว่าการโจมตีด้วยอาวุธใดๆ ต่อกองทัพฟิลิปปินส์ จะก่อให้เกิดพันธสัญญาด้านการทหารทางสงครามร่วมกันระหว่างสหรัฐฯ และฟิลิปปินส์
ล่าสุดประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ผู้นำฟิลิปปินส์ ถูกเรียกรายงานตัวไปพบกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ เป็นระยะเวลา 4 วันทำข้อตกลงทางธุรกิจมากขึ้น
รวมทั้งข้อตกลงความร่วมมือด้านกลาโหมขั้นสูง (EDCA) ที่ให้สหรัฐฯ เข้าถึงฐานทัพทหารในย่านอาเซียน อนุญาตให้กองทัพสหรัฐฯ ประจำการทหารหลายหมื่นนาย อาวุธ ยุทโธปกรณ์ เตรียมทำมหาสงครามสงครามกับจีน
นาย Harry Roque อดีตโฆษกประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ระบุว่า การเข้าร่วมในสงครามใดๆ ไม่ได้เป็นผลประโยชน์ของชาติ ฟิลิปปินส์ต้องไม่ยอมให้ดินแดนกลายเป็นฐานยิงขีปนาวุธเพื่อโจมตีรัฐอื่น”
Cr.https://www.blockdit.com/world.update
Cr.https://www.facebook.com/profile.php?id=100077775671454