นอกจากเรื่องสงคราม ที่ใช้กำลังทหารเข้าห้ำหั่นกันด้วยอาวุธนานาชิดแล้ว อีกสงครามที่กำลังลามกระทบไปอย่างกว้างขวางทั่วโลก ร้ายแรงไม่แพ้สงครามไหนๆเห็นทีจะเป็นสงครามทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งแม้แต่ประเทศที่อ้างตัวว่าเป็นมหาอำนาจโลกอย่างสหรัฐ ก็จุกและเจ็บไม่แพ้ประเทศไหนๆ เห็นได้ชัดจากการที่ธนาคารในระดับภูมิภาค เริ่มล้มตามกันเป็นแถวๆ
โดยล่าสุดทางด้านของเพจสาธารณะ World Update ก็ได้รายงานถึงประเด็น ธนาคารล้ม ที่ประเทศสหรัฐ ได้อย่างน่าสนใจเป็นอย่างมาก โดยพาดหัวว่า นักเลงโต เงินเป็นฝุ่น! ยิ่งเจ็บยิ่งไม่จบ ธนาคารล้ม โดนรัฐประหารอีกแล้ว ซึ่งมีรายละเอียดว่า
สหรัฐ คว่ำบาตรพลังงาน และสินค้ารัสเซีย หวังยื้อการจัดระเบียบโลกใหม่หลายขั้ว แต่ผลกลับตาลปัตร อัตราเงินเฟ้อสูง ทำให้ธนาคารกลาง FED ทะยอยขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายละลอกเพิ่มเป็น 10 เท่าตัว ในเวลาไม่กี่เดือน (จาก 0.5% เป็น 5.0%)
ส่งผลให้พันธบัตรรัฐบาลที่ธนาคารในสหรัฐ ถือไว้ด้อยมูลค่าลง จนเกิดการขาดทุน ตามมาด้วยหุ้นธนาคารตก ผู้ฝากเงินแห่ถอน จนธนาคาร/ไฟแนนท์ ล้มระเนระนาด และร่อแร่อีกเพียบ
หนึ่งในนั้นคือ First Republic Bank ไตรมาสแรกปี 2566 ผู้ฝากเงิน ระดมถอนเงินออกจากธนาคาร เงินหายวับไปมากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ (3.42 ล้านล้านบาท) หรือคิดเป็นกว่า 40% ของเงินฝาก
แม้กระทรวงการคลังสหรัฐ จะขอให้กลุ่มธนาคารใหญ่ถึง 11 แห่ง ลงขันอัดเงินฝากจำนวน 30,000 ล้านดอลลาร์ เข้าสู่ First Republic Bank หวังจะชะลอการถอนเงินฝากขนาดใหญ่ สถานการณ์ก็ไม่ดีขึ้น
แม้จะปลดพนักงานลงอีก 25% ก็ไม่ช่วยให้ดีขึ้น มูลค่าหุ้นลดดิ่งลงตลอดเวลาจนไม่มีเงินเหลือจะให้ลูกค้าถอนเงิน หุ้นของธนาคารร่วงลง 90% เมื่อเดือนที่แล้ว และร่วงลงอีกในสัปดาห์นี้
First Republic Bank หวังที่จะหลีกเลี่ยงการเข้ารัฐประหารยึดอำนาจกิจการของรัฐบาลโดยการพิทักษ์ทรัพย์ จึงพยายามเจรจาธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ให้ระดมเงินมาช่วยอีกครั้ง
แต่ไม่สำเร็จ ทำให้รัฐบาลพร้อมที่จะยุติการดำเนินงาน 38 ปีของธนาคารนี้ , ล่าสุด Federal Deposit Insurance Corp. (FDIC) หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐ ได้ขอให้ธนาคารเสนอราคาเซ้งต่อกิจการโดยด่วนทันที
โดยมีธนาคารยักษ์ใหญ่ เช่น JPMorgan Chase , Bank of America สนใจที่จะรับเซ้งเทคโอเวอร์กิจการ หากหน่วยงานกำกับดูแล FDIC ได้รับข้อเสนอขายกิจการภายในกำหนด
และเจ้าของรายใหม่ประมูลกิจการได้ ก็จะถูกประกาศชื่อในต้นเดือน พ.ค.2566 โดยรัฐบาลสหรัฐ ฝันว่าจะทำให้ความวุ่นวายตลาดการเงินการธนาคารสงบลง
โดยทางด้านของเพจสาธารณะ World Update ได้มีการวิเคราะห์ว่า สหรัฐ มีเงินไหลออกนอกประเทศให้ยูเครน กู้ยืมค่าอาวุธหลายหมื่นล้านดอลลาร์ แต่กลับไม่มีเงินให้ธุรกิจธนาคารในประเทศตนเองกู้ยืมฟื้นฟูกิจการ จนทำให้ธนาคารล้มกันเป็นโดมิโน
เปิดช่องให้ “ปลาใหญ่กินปลาเล็ก” ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ คอยช้อนซื้อรับเซ้งต่อประมูลกิจการธนาคารระดับภูมิภาคที่ล้มไป คนรวยก็จะรวยมากขึ้น และได้รับประโยชน์จากกระบวนการพิทักษ์ทรัพย์
เกิดภาวะ “รวยกระจุก จนกระจาย” ท้องถิ่นระดับรัฐเงินทุนจะอ่อนแอช่วยตัวเองไม่ได้ ต้องหวังพึ่งพิงเงินทุนจากส่วนกลางเป็นหลัก ขาดอิสระภาพทางการเงินการลงทุน กลายเป็นทาสในเรือนเบี้ย
รัฐบาลสหรัฐ จึงเป็นเสมือนเป็นนายหน้าในการทำรัฐประหารปล้นยึดกิจการธนาคารเอกชนภูมิภาคต่างๆ ไปให้ธนาคารเอกชนรายใหญ่ส่วนกลาง
เหมือนที่เคยกระทำกับบรรดาธนาคารภูมิภาคก่อนหน้ามาแล้วหลายแห่ง และจะมีเหยื่อคิวถัดไปถูกรัฐบาลปล้นแบบนี้อีกเพียบแน่นอน
https://www.blockdit.com/posts/644e462c5dfef156e06980aa?fbclid=IwAR3OuFhysictPBGXlSM7v7bivl9dC_g65LctS8yD2FMTi-LorrcK8k1oTyA