รัสเซียจะไม่เล่นตาม ‘กฎ’ ที่ใครก็ตามคิดค้นขึ้นบีบบังคับผู้อื่นแต่ตัวเองไม่เคยทำตามกฎ ขณะเดียวกันก็พร้อมที่จะขยายสัมพันธ์เพื่อนมิตรในยูเรเซีย อาฟริกาและเอเชียอย่างไม่ลดละ เป็นคำประกาศของปูตินที่บ่งบอกถึงบทบาทของรัสเซียต่อโลกนับจากนี้ ทางด้านฝ่ายบู๊อย่างรมว.กลาโหมซึ่งอยู่ระหว่างซัมมิตSCO ก็ได้แฉเกมสกปรกของเมกาในการใช้วิธีแบล็กเมล์พันธมิตรของรัสเซียและแม้แต่พันธมิตรของตัวเองให้ต่อต้านรัสเซียและจีน ชกหมัดตรงกลางที่ชุมนุมพยัฆกลาโหม ๘ ประเทศซึ่งกำลังเผชิญสถานการณ์ร้อนและผลกระทบจากการขับเคลื่อนแผนการทางภูมิรัฐศาสตร์ของกลุ่มอำนาจขั้วเดี่ยวแองโกลแซกซอนที่มีสหรัฐฯเป็นแกนนำ
วันที่ ๒๙ เม.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวทาซซ์และรัสเซียทูเดย์รายงานว่า ปธน.ปูตินกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมสภานิติบัญญัติของรัสเซียในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า “มอสโกว์จะไม่ปฏิบัติตาม“สิ่งที่เรียกว่ากฎ”ที่คิดค้นและกำหนดโดย“บางประเทศ” ขณะที่ปัจจุบัน รัสเซียกำลังอดทนต่อ“การรุกรานทางเศรษฐกิจ”จากชาติตะวันตกโดยรวม
ปูตินเรียกร้องให้สมาชิกสภานิติบัญญัติ ตลอดจนหน่วยงานอื่นๆ ของผู้มีอำนาจในประเทศ ทำงานเชิงรุกมากกว่าพยายาม “รอ” ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ เขาเน้นย้ำเป้าหมายสูงสุดคือการสร้าง“พื้นฐานสำหรับการพัฒนาประเทศของเราในระยะยาว เป็นอิสระ และประสบความสำเร็จ”
ปูตินกล่าวว่า ระบบการทูตระหว่างประเทศได้พังทลายลงอย่างมากในช่วงหลัง โดย“บางประเทศ” บังคับใช้ “กฎ”ของตนเองแทน “พันธมิตรของเราหรืออาจกล่าวได้ว่าพันธมิตรเก่าในบางประเทศกำลังทำลายกรอบกฎหมายและช่องทางการสื่อสารอย่างบ้าคลั่ง โดยพยายามยัดเยียดความคิดเห็นและสิ่งที่เรียกว่ากฎเกณฑ์ให้กับทุกคน กฎคืออะไร? … ไม่มีใครเห็นพวกเขาทำตามกฎ”
พวกเขากำลังเขียนบางอย่างไว้ใต้ปก และพวกเขาเองก็กำลังทำอะไรบางอย่างกับสิ่งนั้นภายใต้ปก เราจะไม่คลานเข้าไปใต้ผ้าห่มกับพวกเขาและเราจะไม่ปฏิบัติตามกฎของพวกเขาเช่นกัน
ในขณะเดียวกัน รัสเซียไม่ต้องการโดดเดี่ยวตนเอง และยังคงพร้อมที่จะให้ความร่วมมืออย่างเป็นธรรมกับ“มิตรประเทศ”“เราจะขยายความสัมพันธ์เชิงปฏิบัติ เท่าเทียม เป็นประโยชน์ร่วมกัน และเป็นหุ้นส่วนเฉพาะกับมิตรประเทศในยูเรเชีย แอฟริกา และละตินอเมริกา”
เขาตั้งข้อสังเกตว่า “รัสเซียมี”คนที่มีใจเดียวกันจำนวนมาก”ในประเทศทางตะวันตกโดยรวมรวมทั้งสหรัฐฯด้วย ถึงกระนั้น พวกชนชั้นสูงกลับทำตัวแตกต่างออกไป แต่คุณและฉันรู้ว่าชนชั้นสูงของประเทศเหล่านี้ ต่างไม่ได้ดำเนินนโยบายที่มุ่งผลประโยชน์สูงสุดของประชาชนของตนเอง สิ่งนี้จะตามมาหลอกหลอนพวกเขา”
ด้านเซอร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมรัสเซีย กล่าวว่า “วอชิงตันกำลังใช้การบีบบังคับในรูปแบบต่างๆ เพื่อผลักดันการสร้างพันธมิตรระดับภูมิภาคที่มุ่งต่อต้านคู่แข่งทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งรวมถึงมอสโกว์และปักกิ่ง
เขากำลังพูดคุยกับตัวแทนสมาชิกคนอื่นๆ ขององค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ หรือ SCO ในการประชุมที่กรุงนิวเดลี กลุ่มที่ก่อตั้งโดยรัสเซียและจีน มีสมาชิกอีก ๖ คน รวมทั้งอินเดียเข้าร่วม
ชอยกูระบุว่า “แรงกดดันที่ไม่เคยมีมาก่อน ถูกนำมาใช้กับประเทศเอกราชผ่านการใช้วิธีแบล็กเมล์อย่างเปิดเผย การคุกคามปท.ต่างๆด้วย ‘การปฏิวัติสี’ การรัฐประหาร และการเผยแพร่ข้อมูลเท็จอย่างโจ่งแจ้ง เครื่องมือเหล่านั้นเมื่อนานมาแล้วกลายเป็นบัตรโทรศัพท์ของตะวันตกแล้ว”
เป้าหมายของสหรัฐฯและพันธมิตร คือการบ่อนทำลายโลกหลายขั้วที่เกิดขึ้นใหม่และรักษาอำนาจเหนือกว่าของพวกเขา วอชิงตันเลือกที่จะรื้อระบบความมั่นคงของโลก เพื่อแสวงหาความทะเยอทะยานและถอนตัวจากสนธิสัญญาหลายฉบับที่ทำกับรัสเซีย
ชอยกูย้ำว่า “มอสโกว์ได้พยายามกลบเกลื่อนปัญหาความตึงเครียดกับนาโต้ผ่านการทูตในปี ๒๕๖๔ แต่ตะวันตกปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าสหรัฐและพันธมิตรไม่ต้องการเป็นหุ้นส่วนที่เท่าเทียมกันกับรัสเซีย”
รมว.กลาโหมรัสเซียฟันธงว่า “วันนี้ วอชิงตันและผู้สมรู้ร่วมคิดกำลังดำเนินแผนยุทธศาสตร์เพื่อยั่วยุให้ชาติอื่นๆ เผชิญหน้าทางทหารกับรัฐที่พวกเขาไม่ชอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัสเซียและจีน
รัฐมนตรีชี้ถึงความความขัดแย้งในยูเครนว่าเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของ”นโยบายทางอาญา” ของอเมริกา เป้าหมายของสหรัฐฯในเรื่องนี้คือ“สร้างความพ่ายแพ้ทางยุทธศาสตร์ต่อรัสเซีย สร้างภัยคุกคามต่อจีน และรักษาตำแหน่งเจ้าโลกของตน”
กองกำลังรัสเซียต้องทำลายเสบียงอาวุธตะวันตกที่ส่งไปยังเคียฟ การส่งอาวุธของตะวันตกมีแต่จะยืดเยื้อความเป็นปรปักษ์ และสร้างความเสี่ยงเพิ่มเติมต่อยุโรปและทั่วโลก รัสเซียพบว่า อาวุธเหล่านี้หาทางเข้าสู่ตลาดมืดและไปอยู่ในมือขององค์กรก่อการร้าย”
SCO ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างรัฐบาลของเอเชีย ประกอบด้วยจีน อินเดีย รัสเซีย คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน ปากีสถาน ทาจิกิสถาน และอุซเบกิสถาน