เมื่อไช่ อิงเหวินผู้นำไต้หวันเด็กสร้างเมกา กลับจากเยือนนิวยอร์กประหนึ่งประกาศตัวชัดว่าใครคือเจ้านาย พอกลับมาถึงบ้านก็ท้าทายจีนอย่างแข็งกร้าวมากกว่าเดิม ขณะเดียวกันเมกาได้ส่งกลาโหมและบริษัทค้าอาวุธมาเยือนถึงบ้านพร้อมโปรเจกต์ขายอาวุธเพียบ และยุโรปประกาศจะส่งเรือรบมาแล่นช่องแคบไต้หวัน นาโต้เอเชียพากันเล่นใหญ่กะให้เอเชียแปซิฟิกปะทุสงครามให้ได้
ด้านจีนชี้ไต้หวันเชิญ’ฝูงหมาป่า’เข้าบ้าน เมื่อปล่อยกลุ่มอุตสาหกรรมกลาโหมมะกันเยือนไทเป
พ.อ.อาวุโส ตัน เค่อเฟย (Tan Kefei) โฆษกกระทรวงกลาโหมของจีน กล่าวระหว่างแถลงข่าวว่า จีนมีความกังวลอย่างยิ่งต่อเวทีประชุมสัมมนาในครั้งนี้ “อุตสาหกรรมด้านการทหารของสหรัฐฯ มุ่งมั่นอยู่ตลอด ในการขายอาวุธแก่ทั่วโลก ส่งออกสงครามและเสาะหากำไรลาภลอย”
ตันกล่าวอ้างถึงพรรครัฐบาลไต้หวันว่า “การที่เจ้าหน้าที่พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า พาฝูงหมาป่าเข้าบ้าน คือพฤติกรรมที่น่ารังเกียจ และรังแต่จะนำหายนะเลวร้ายมาสู่เพื่อนร่วมชาติไต้หวัน”
สตีเฟน รัดเดอร์ อดีตผู้บัญชาการกองกำลังนาวิกโยธินสหรัฐฯ ประจำภาคพื้นแปซิฟิก จะเป็นคนกล่าวเปิดงานการประชุมนี้ที่มีขึ้นในกรุงไทเป
ตันยังเรียกร้องให้สหรัฐฯ หยุดแทรกแซงคำถามของไต้หวัน และงดเว้นจากการแลกเปลี่ยนทางทหารและขายอาวุธให้ไต้หวัน “กองทัพปลดปล่อยประชาชนจะตอบโต้กิจกรรมแบ่งแยกดินแดน ‘เอกราชไต้หวัน’ และการแทรกแซงจากภายนอกทุกรูปแบบอย่างแน่วแน่ และจะปกป้องอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดนอย่างมั่นคง”
เมื่อแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อกล่าวหาล่าสุดของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่ว่าจีน “เสริมกำลังทางทหาร” ในทะเลจีนใต้ ทำให้สหรัฐฯเสริมกำลังทหารของตนในฟิลิปปินส์ เรื่องนี้ตันกล่าวว่าจีนมีอำนาจอธิปไตยเหนือหมู่เกาะและน่านน้ำที่อยู่ติดกันในทะเลจีนใต้อย่างเถียงไม่ได้ “การสร้างโครงสร้างพื้นฐานของจีนและโครงสร้างการป้องกันที่จำเป็นบนเกาะเหล่านี้เป็นการใช้อำนาจอธิปไตยของชาติโดยชอบด้วยกฎหมายโดยสิ้นเชิง”
เขากล่าวย้ำว่าประเทศอื่น ๆ ไม่มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นอย่างไร้ความรับผิดชอบเกี่ยวกับการกระทำเหล่านี้ จีนได้แสดงความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับการที่สหรัฐฯ พัฒนาฐานทัพใหม่ในฟิลิปปินส์หลายต่อหลายครั้ง “ปัจจุบัน สหรัฐฯ กำลังเสริมกำลังทหารในทะเลจีนใต้และจงใจเพิ่มความตึงเครียด ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้ควรระมัดระวังอย่างยิ่งต่อการพัฒนาเหล่านี้”
ขณะที่ภายในประเทศ มีความเคลื่อนไหวในหมู่พรรคการเมืองที่เตรียมลงแข่งขันเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีหน้าอย่างคึกคักท่ามกลางกระแสต้านเมกาที่คุกรุ่นเพิ่มขี้น แม้ปีหน้าไช่ อิงเหวินจะไม่ได้ลงสมัครด้วยตนเอง แต่หัวหน้าพรรคซึ่งมีนโยบายอิงอเมริกาเหมือนกันจะลงแข่ง ทำให้การขับเคี่ยวการเมืองภายในยิ่งเข้มข้นขึ้น เพราะจะมือำนาจนอกบ้านเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างโจ่งแจ้ง
วันที่ ๒๘ เม.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวไชน่าเดลี่และนิเคอิเอเชียรายงานว่า เทอร์รี กัว (Terry Gou) มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งบริษัท ฟ็อกซ์คอนน์ ออกมาประกาศว่าจีนไม่ได้ต้องการทำสงครามกับไต้หวัน และจะไม่โจมตีเกาะแห่งนี้อย่างแน่นอนหากตนได้เป็นประธานาธิบดี เนื่องจากไม่มีนโยบาย “ประกาศเอกราช”
ความสัมพันธ์ปักกิ่ง-ไทเปยิ่งดูเหมือนจะทวีความตึงเครียดขึ้นทุกขณะ ก่อนที่ไต้หวันจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ในเดือน ม.ค. ปีหน้า โดยจีนได้เปิดการซ้อมรบทางทหารใกล้เกาะไต้หวันบ่อยขึ้นเพื่อยืนยันอธิปไตย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางการไต้หวันปฏิเสธไม่ยอมรับ
“ตามความเข้าใจของผม พวกเขาไม่ได้ต้องการสงคราม แต่ถ้าคุณคิดจะประกาศเอกราช ถ้ามีเอกราชเมื่อไหร่ก็เกิดสงครามเมื่อนั้น พวกเขามองว่าไต้หวันเป็นดินแดนของพวกเขา” กัว กล่าวปราศรัยต่อบรรดานักวิชาการ และนักศึกษาที่มหาวิทยาลัย Tunghai University ในไต้หวัน
กัว ซึ่งเป็นหนึ่งในนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงที่สุดของไต้หวันได้ลาออกจากตำแหน่งประธานฟ็อกซ์คอนน์ ซัปพลายเออร์รายใหญ่ของ “แอปเปิล” เมื่อปี ๒๐๑๙ และล่าสุดได้เสนอตัวลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีไต้หวันในนามของพรรคก๊กมินตั๋ง (KMT) ซึ่งมีจุดยืนส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีกับปักกิ่ง
กัว ชี้ว่า รัฐบาล สี จิ้นผิง ต้องการให้เศรษฐกิจจีนมีความเจริญก้าวหน้า และให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการสร้างงานให้นักศึกษาจบใหม่ และแก้ไขปัญหาปากท้องของคนจีน
“สำหรับจีนแล้ว การโจมตีไต้หวันไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุด ทว่า นักการเมืองไต้หวันบางกลุ่มหวังจะให้มันเกิดขึ้นจริง เพื่อที่คนไต้หวันจะได้เกลียดชังจีน และพวกเขาเองจะได้รับเลือกตั้ง” กัว วัย ๗๒ ปี กล่าว
“ผมจะไม่ประกาศเอกราช และพวกคุณก็จะไม่โจมตีผม หรือส่งเครื่องบินมาวนรอบไต้หวันอีก” เขากล่าว โดยสื่อความถึงกองทัพอากาศจีนที่ส่งเครื่องบินมาปฏิบัติภารกิจข่มขู่ไต้หวันแทบจะรายวันตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
อดีตบอสใหญ่ฟ็อกซ์คอนน์ย้ำว่า ตัวเขาเองต้องการสนับสนุน “สันติภาพและการเคารพซึ่งกันและกัน” รวมถึงการเจรจากับจีนในฐานะที่เท่าเทียมกัน พร้อมกับตำหนิสื่อต่างชาติที่พยายามวาดภาพไต้หวันว่าเป็นเหมือน “ระเบิดเวลา” ที่อันตราย“พวกคุณรู้สึกว่ามันอันตรายไหม?” กัว ตั้งคำถาม ซึ่งเรียกเสียงหัวเราะจากบรรดาผู้ฟัง
ประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน ไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้อีก เนื่องจากติดเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญที่ให้ประธานาธิบดีดำรงตำแหน่งต่อเนื่องได้ไม่เกิน ๒ สมัย
พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) ประกาศแล้วว่าจะส่งรองประธานาธิบดี วิลเลียม ไล (William Lai) เป็นตัวแทนพรรคลงชิงเก้าอี้ผู้นำไต้หวันคนต่อไป ในขณะที่พรรคก๊กมินตั๋งยังไม่ได้ระบุเป็นทางการว่าจะส่งใครเป็นตัวแทน แต่การเปิดตัวเต็มที่ครั้งนี้คาดว่าจะเป็นเทอร์รี่ กัวคนนี้นั่นเอง