ขณะที่โลกขั้วเดี่ยวที่นำโดยสหรัฐฯระส่ำระสาย และความตึงเครียดกับอิหร่านมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อิหร่านเดินหน้าฟื้นสัมพันธ์กับเพื่อนมิตร ประเทศมุสลิมที่เคยขัดเคืองบาดหมาง และได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นทำให้เมกาและอิสราเอลหวาดวิตกยิ่งนัก
ล่าสุดกองทัพเรืออิหร่านยึดเรือบรรทุกน้ำมันที่ติดธงหมู่เกาะมาร์แชลล์ของอังกฤษในอ่าวโอมานที่กำลังมุ่งหน้าไปสหรัฐฯ ท่ามกลางความตึงเครียดเพิ่มขึ้นกับเมกาและพันธมิตรตะวันตก โดยฝั่งเมกาอ้างเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของเตหะราน
ได้นำเรือทั้งสองลำไปยังน่านน้ำของประเทศ หลังจากที่เรือลำดังกล่าวชนเรือประมงอิหร่านและพยายามหลบหนีโดยละเมิดข้อบังคับการเดินเรือ
กองทัพสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านระบุว่า เรือต่างประเทศลำดังกล่าวชนกับเรือประมงของอิหร่านในอ่าวเปอร์เซียเมื่อช่วงค่ำของวันพุธที่ ๒๖ เม.ย.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ลูกเรือจำนวนหนึ่งของเรืออิหร่านได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทก และอีก ๒ คนยังคงสูญหาย
จากนั้นเรือบรรทุกน้ำมันที่ติดธงหมู่เกาะมาร์แชลล์พยายามหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุโดยละเมิดกฎหมายและข้อบังคับระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ซึ่งกำหนดให้ต้องมีการรักษาพยาบาลและดูแลจัดหายาที่เหมาะสมและเพียงพอแก่ลูกเรือในกรณีที่เจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บ
กองทัพเรืออิหร่านได้ส่งกำลังไปยังท่าเรือชาบาฮาร์ทางตอนใต้ของอิหร่านในภารกิจของศูนย์ความมั่นคงทางทะเลระหว่างประเทศ (CIMSEC) หลังจากสกัดกั้นและยึดเรือต่างชาติลำดังกล่าวในทะเลโอมานได้ไม่นานหลังจากได้รับการติดต่อจากศูนย์เฝ้าระวังและช่วยเหลือทางทะเล เรือลำดังกล่าวถูกยึดโดยเรือลาดตระเวน บายันดอร์(Bayandor) ของกองทัพเรืออิหร่าน ตามคำสั่งยึดที่ออกโดยหน่วยงานตุลาการของอิหร่าน
พล.อ.เอริก คูริลลา ผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐฯ ประจำตะวันออกกลาง (U.S. Army Gen. Erik Kurilla, the top U.S. commander for the Middle East) กล่าวในถ้อยแถลงว่า “การยึดอย่างผิดกฎหมาย” ของเรือบรรทุกน้ำมันเป็น “อีกเหตุการณ์หนึ่งในการละเมิดคำสั่งตามกฎสากลของอิหร่านอย่างต่อเนื่อง”
ผู้จัดการเรือซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติตุรกีที่ชื่อว่า Advantage Tankers ได้ออกแถลงการณ์ยอมรับว่าเรือ Advantage Sweet “ถูกกองทัพเรืออิหร่านพาตัวไปยังท่าเรือแห่งหนึ่งโดยมีสาเหตุมาจากข้อพิพาทระหว่างประเทศ” ลูกเรือทั้งหมด 24 คนของเรือเป็นชาวอินเดีย
เมกาและพวกโวยวายกันใหญ่ ทั้งๆที่อิหร่านก็ทำแบบที่สหรัฐฯทำกับอิหร่านและประเทศอื่นๆที่ถูกคว่ำบาตรไง
นอกจากไม่เกรงใจอังกฤษ หลังจากเพิ่งคว่ำบาตรนักการเมืองสหราชอาณาจักรไปไม่นานมานี้แล้ว ยังแถลงข่าวต่อสาธารณะประกาศให้สหรัฐฯจ่ายค่าชดเชยที่เกี่ยวข้องกับการหนุนกลุ่มIS มาโจมตีเตหะราน เป็นการตอบโต้แบบฮือฮากันในระดับนานาชาติก็ว่าได้
วันที่ ๒๘ เม.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวIRNA และอัลจาซิรา รายงานว่า ศาลกรุงเตหะรานของอิหร่าน พิพากษาให้รัฐบาลสหรัฐฯ บุคคลและนิติบุคคลอีกจำนวนหนึ่ง ในนั้นรวมถึงอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา จ่ายเงินชดเชยรวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ ๓๑๓ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ชดใช้เหตุโจมตีก่อการรร้ายในปี ๒๐๑๗ ที่ลงมือโดยกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลามหรือไอเอส ซึ่งทางการอิหร่านระบุว่า อเมริกามีบทบาทในการจัดตั้งและนำทางพวกก่อการร้ายกลุ่มนี้
อ้างอิงจากเว็บไซต์ข่าวอย่างเป็นทางการของตุลาการ ของศาลในเมืองหลวงอิหร่าน ได้เผยแพร่คำพิพากษาในวันพุธที่ 26เม.ย.ที่ผ่านมา บนพื้นฐานคำร้องของครอบครัวผู้เสียชีวิต ๓ รายและบาดเจ็บ ๖ คน ในเหตุโจมตีในกรุงเตหะราน เมื่อเดือนมิถุนายน ๒๐๑๗
ในครั้งนั้น อาคารรัฐสภาอิหร่านและสุสานของ รูฮุลลอฮ์ โคไมนี ผู้ก่อตั้งสถาบันปัจจุบันของอิหร่าน ตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีกลางวันแสกๆ ที่เข่นฆ่าชีวิตผู้คนไปทั้งหมด ๑๗ ราย
คำพิพากษาของศาลระบุว่าเงินจำนวน ๙.๙๕ ล้านดอลลาร์ จำเป็นต้องจ่ายเป็นค่าชดเชยสำหรับความเสียหายด้านการเงิน ส่วนอีก ๒๐๔ ล้านดอลลาร์และ ๑๙๙ ล้านดอลลาร์ เป็นค่าความเสียหายทางศีลธรรมและความเสียหายเชิงลงโทษตามลำดับ ซึ่งรวมแล้วเป็นเกือบๆ ๓๑๓ ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับบรรดาผู้ถูกพิพากษาว่ามีความผิดในคดีนี้ ในนั้นรวมถึงรัฐบาลสหรัฐฯ อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช, กองบัญชาการกลางสหรัฐฯ(CENTCOM), ทอมมี แฟรงค์ส อดีตผู้บัญชาการกองบัญชาการกลาง, สำนักงานข่าวกรองกลาง, กระทรวงการคลัง, ล็อคฮีด มาร์ติน บริษัทผู้ผลิตอาวุธและอเมริกัน แอร์ไลน์ส กรุ๊ป
เชื่อว่าไม่มีนิติบุคคลหรือบุคคลรายใดที่ถือครองทรัพย์สินที่อยู่ภายใต้การควบคุมของอิหร่าน ที่อาจถูกยึดได้ และศาลไม่ได้ระบุถึงแนวทางในการทำตามคำสั่งจ่ายเงินชดเชยดังกล่าว แม้ในการปฏิบัติจริงจะเป็นการยาก แต่ได้ฉีกหน้ากากประชาธิปไตยของเมกาว่า สวมทับการก่อการร้ายมานานแล้วประจานชาวโลก
เว็บไซต์ข่าวอย่างเป็นทางการของตุลาการอิหร่าน อ้างอิงคำพูดของเจ้าหน้าที่อเมริกาหลายคนเกี่ยวกับบทบาทพื้นฐานของสหรัฐฯ ในการจัดตั้งและนำทางกลุ่มก่อการร้ายต่างๆ ข่าวสารและข้อมูลที่เผยแพร่โดยสื่อมวลชนสหรัฐฯ รวมถึงหนังสือและคำปราศรัยของเจ้าหน้าที่อเมริกาหลายคน ที่พูดถึงบทบาทของซีไอเอ ในการก่อตั้งกลุ่มก่อการร้ายต่างๆ ในนั้นรวมไปถึงไอเอส
เท่ากับว่า คำพิพากษาครั้งนี้ของเตหะรานเป็นการตอบโต้คำตัดสินต่างๆนานามากมายของศาลสหรัฐฯในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ที่กล่าวโทษอิหร่านในเหตุโจมตีก่อการร้ายทั้งหลาย และสั่งจ่ายชดเชยโดยการยึดทรัพย์สินของอิหร่านโดยทางอเมริกาอายัดไว้อย่างไม่มีการไต่สวนก่อน เหมือนกับที่ทำกับรัสเซียและกำลังคิดจะทำกับจีน??