ละตินเลือกข้าง!! อาร์เจนติน่าประกาศใช้หยวนค้าขาย เทกระจาดดอลลาร์ ส่งฐานะสำรองดอลลาร์ทั่วโลกลดลง ๑๐ เท่า

0

ก้าวไปอีกขั้น ในสงครามเศรษกิจขย่มอำนาจเปโตรดอลลาร์ ทำลายการครอบงำของโลกขั้วเดี่ยว ล่าสุดอาร์เจนติน่าประกาศเทดอลลาร์ในการค้ากับจีน บัวโนสไอเรสจะจ่ายค่านำเข้าเป็นหยวน หลังจากลงนามในข้อตกลงแลกเปลี่ยนสกุลเงินกับปักกิ่งอย่างเป็นทางการ

วันที่ ๒๗ เม.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์รายงานว่า เซอร์จิโอ มาสซา รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจประกาศเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า “อาร์เจนตินาตั้งเป้าที่จะจ่ายค่านำเข้ารายเดือนจำนวนมากจากจีนในสกุลเงินหยวน แทนที่ดอลลาร์สหรัฐ บัวโนสไอเรสและปักกิ่งลงนามในข้อตกลงแลกเปลี่ยนสกุลเงินเมื่อปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมายเพื่อสกัดกั้นเงินตราต่างประเทศที่ไหลออกจากธนาคารกลางของอาร์เจนตินา”

ปัจจุบันจีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับสองของอาร์เจนตินารองจากบราซิล และเป็นจุดหมายปลายทางอันดับสองสำหรับการส่งออกของอาร์เจนตินา การนำเข้าทั้งหมดของอาร์เจนตินาจากจีนอยู่ที่ประมาณ ๑๓.๕ พันล้านดอลลาร์ในปี ๒๕๖๔ ตามฐานข้อมูลการค้าระหว่างประเทศของสหประชาชาติ

มาสซากล่าวว่า “บัวโนสไอเรสจะจ่ายเงินเทียบเท่า๑ พันล้านดอลลาร์ในสกุลเงินหยวน สำหรับสินค้าและบริการของจีนในเดือนนี้ โดย ๗๙๐ ล้านดอลลาร์สำหรับการนำเข้ารายเดือนจะจ่ายเป็นหยวนในแต่ละเดือนหลังจากนั้น ข้อตกลงแลกเปลี่ยนสกุลเงินซึ่งขยายและสรุปผลเมื่อต้นปีนี้ ยังช่วยให้ผู้ส่งออกชาวอาร์เจนตินาสามารถชำระเป็นสกุลเงินหยวนหรือดอลลาร์ได้ เพื่อช่วยให้กระแสเงินตราต่างประเทศในธนาคารกลางมีความสมดุลยิ่งขึ้น”

ในการเยือนจีนเมื่อต้นเดือนนี้ ประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ของบราซิล เรียกร้องให้ประเทศกำลังพัฒนาถอยห่างจากดอลลาร์สหรัฐและเปลี่ยนไปใช้สกุลเงินของตนเอง อินเดียยังพยายามใช้สกุลเงินของตนเองหรือเงินหยวนเพื่อทำการค้ากับจีน ในขณะที่รัสเซียยอมรับการชำระเงินสำหรับการส่งออกจากหลายประเทศในสกุลเงินรูเบิลและหยวนของจีน

ส่วนแบ่งของเงินดอลลาร์ในเงินสำรองทั่วโลกลดลง ๑๐ เท่าในปีที่แล้วมากกว่าในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา 

สตีเฟน เจน(Stephen Jen) ซีอีโอของบริษัทจัดการสินทรัพย์ในลอนดอนยูริซอน (Eurizon)เปิดเผยกับ Bloomberg เมื่อเร็วๆ นี้ว่า กระบวนการดังกล่าวเร่งตัวขึ้นหลังจากประเทศอื่นๆ เห็นเงินดอลลาร์สหรัฐและสกุลเงินยูโรของรัสเซียถูกแช่แข็งในต่างประเทศ และมอสโกว์ถูกตัดขาดจากระบบการส่งข้อความทางการเงินทั่วโลกที่รู้จักกันในชื่อ SWIFT ทำให้หวั่นเกรงว่าวันใดทำให้เมกาไม่พอใจจะถูกยึดเงินและทรัพย์สินได้ทุกเมื่อ 

เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯยอมรับเมื่อเร็วๆนี้ว่า บทบาทของเงินดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินสำรองของโลกอาจลดน้อยลง เนื่องจากวอชิงตันใช้อำนาจในระบบการเงินโลกเพื่อดำเนินการตามเป้าหมายทางภูมิรัฐศาสตร์ผ่านการคว่ำบาตร พูดง่ายๆคือใช้ดอลลาร์เป็นอาวุธทำลายฝ่ายตรงข้ามที่ไม่ยอมสยบยอมตามความต้องการของวอชิงตันนั่นเอง

ในขณะเดียวกัน นักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำออกมาเปิดเผยว่า ทองคำได้กลายเป็นสินทรัพย์ที่นำ ‘การต่อต้านดอลลาร์’ให้เป็นจริงและธนาคารกลางทั่วโลก กำลังซื้อทองคำสะสมเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากมาตรการคว่ำบาตรที่อาจเกิดขึ้น 

รูเชียร์ ชาร์มา(Ruchir Sharma) ประธานบริษัท ร็อคกี้เฟลเลอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล( Rockefeller International) กล่าวว่า ธนาคารกลางทั่วโลกกำลังเปลี่ยนจากเงินดอลลาร์สหรัฐและหันมาสนใจทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย    

ราคาสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งขึ้น ๒๐% ในช่วง ๖ เดือนที่ผ่านมา โดยอุปสงค์ไม่ได้มาจาก”ผู้ต้องการตามปกติ”เช่น นักลงทุนรายใหญ่และรายย่อย”ที่แสวงหาการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงที่ต่ำ “แต่มาจาก”ผู้ซื้อรายใหญ่”เช่น ธนาคารกลาง Sharma เขียนลงใน Financial Times เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนกล่าวว่าหน่วยงานกำกับดูแลกำลังลดการถือครองเงินดอลลาร์ลงอย่างมากและแสวงหาทางเลือกที่ปลอดภัย ขณะนี้ธนาคารกลางมีสัดส่วนสูงถึง ๓๓% ของความต้องการทองคำทั่วโลกต่อเดือน และกำลังเพิ่มการซื้อทองคำมากกว่าทุกเมื่อ นับตั้งแต่ข้อมูลเริ่มต้นในปี๒๔๙๓  

ชาร์มากล่าวเสริมว่า “การซื้อที่เฟื่องฟูนี้ช่วยผลักดันราคาทองคำให้อยู่ในระดับที่ใกล้เป็นประวัติการณ์และสูงกว่าที่แบบจำลองอ้างอิงตามอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงแนะนำมากกว่า ๕๐%” “เห็นได้ชัดว่ามีสิ่งใหม่ ๆ กำลังขับเคลื่อนราคาทองคำ”  

ชาร์มาชี้ให้เห็นว่าผู้ซื้อของธนาคารกลางเก้าในสิบอันดับแรกตั้งอยู่ในโลกกำลังพัฒนา รวมถึงรัสเซีย อินเดีย และจีน มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ที่ทั้งสามประเทศกำลังเจรจากับบราซิลและแอฟริกาใต้เกี่ยวกับการสร้างสกุลเงินใหม่เพื่อท้าทายดอลลาร์อย่างจริงจัง” 

ความเร่งรีบในการครอบครองโลหะมีค่านั้น เป็นผลมาจากการเพิ่มแรงกดดันในการคว่ำบาตรที่กระทำโดยสหรัฐฯและพันธมิตร โดยมีประเทศต่างๆ มากถึง ๓๐% ที่เผชิญกับบทลงโทษ เพิ่มขึ้นจาก ๑๐% ในช่วงต้นทศวรรษ ๑๙๙๐  

นักเศรษฐศาสตร์ย้ำว่า “สินทรัพย์ที่เก่าแก่ที่สุดและดั้งเดิมที่สุดอย่างทองคำ จึงกลายเป็นเครื่องมือในการประท้วงของธนาคารกลางต่ออำนาจเงินดอลลาร์และสหรัฐฯ”