การเคลื่อนไหวครั้งสำคัญสั่นสะเทือนการเมืองโลกของสี จิ้นผิง เมื่อยกโทรศัพท์คุยกับ เซเลนสกี้ ปธน.แห่งยูเครน ซึ่งเป็นการสนทนาอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับตั้งแต่มอสโกว์เปิดปฏิบัติการทางทหารในสงครามตัวแทนกว่า ๑ ปีมาแล้ว
สีบอกกับ Zelensky ว่า“การเจรจาและเจรจาเท่านั้นเป็นทางออกเดียวที่ได้ผล”
“จีนจะไม่ดูไฟจากอีกด้านหนึ่ง หรือเติมเชื้อไฟ นับประสาอะไรกับการใช้ประโยชน์จากโอกาสในการทำกำไร” สีกล่าวตามการรายงานจากสื่อโกลบอลไทมส์
ประธานาธิบดีจีนเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยังคง“สงบและอดกลั้น”เมื่อต้องรับมือกับความเป็นไปได้ ที่ความขัดแย้งจะลุกลามกลายเป็นการเผชิญหน้ากันที่ใหญ่ขึ้น “ไม่มีใครชนะสงครามนิวเคลียร์”
วันที่ ๒๗ เม.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์ รายงานว่า มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุว่า “ขอยกย่องปักกิ่งสำหรับความพยายามในการช่วยเริ่มต้นการเจรจาที่มีความหมายอีกครั้ง” เธอกล่าวว่าวิสัยทัศน์ของรัสเซียและจีนเกี่ยวกับเส้นทางสู่สันติภาพนั้น“สอดคล้องกันอย่างกว้างขวาง”ซึ่งกันและกันแต่ “ปัญหาไม่ได้อยู่ที่การขาดแผนการที่ดี”
ซาคาโรวาย้ำว่า “จนถึงขณะนี้ ระบอบการปกครองของเคียฟยังไม่เปิดรับต่อความคิดริเริ่มที่สมเหตุสมผลใดๆ ที่มุ่งไปที่การตั้งถิ่นฐานทางการเมืองและการทูตของวิกฤตยูเครน ข้อตกลงเป็นครั้งคราวเพื่อจัดการเจรจานั้นผูกติดอยู่กับคำขาดพร้อมข้อเรียกร้องที่ไม่สมจริงอย่างเห็นได้ชัด”
โฆษกก.ต.กล่าวโทษเคียฟ ที่ทำให้การเจรจาล้มเหลวในที่สุดเมื่อฤดูใบไม้ผลิปีที่แล้ว เมื่อทีมรัสเซียและยูเครนจัดการประชุมหลายรอบ เคียฟกล่าวซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าการเจรจาจะกลับมาดำเนินต่อได้ก็ต่อเมื่อ รัสเซียยอมจำนนถอนตัวจากดินแดนที่เพิ่งผนวกรวมเข้าด้วยกัน มอสโกว์เรียกข้อเรียกร้องดังกล่าวว่าไม่สามารถยอมรับได้”
ไครเมียลงมติให้ออกจากยูเครนและเข้าร่วมกับรัสเซียหลังจากเกิดรัฐประหารในปี ๑๐๑๔/๒๕๕๗ ที่เคียฟ สาธารณรัฐประชาชน Donetsk และ Lugansk รวมถึงภูมิภาค Kherson และ Zaporozhye ทำเช่นเดียวกันหลังจากจัดการลงประชามติในเรื่องนี้ในเดือนกันยายน
ในเดือนตุลาคม Zelensky ได้ลงนามในกฤษฎีกาที่ประกาศว่า”เป็นไปไม่ได้”ในการเจรจากับประธานาธิบดี Vladimir Putin ของรัสเซีย
เธอยังตั้งข้อสังเกตว่า แนวคิดคอมมิวนิสต์และพรรคคอมมิวนิสต์ถูกห้ามอย่างเป็นทางการในยูเครน ในขณะที่หัวหน้าคณะกรรมการกิจการระหว่างประเทศ (รัฐสภา) Alexander Merezhko ของยูเครนเพิ่งอ้างว่า การที่ประชาคมระหว่างประเทศยอมรับไต้หวันในฐานะส่วนหนึ่งของจีนนั้นเป็น “ความเข้าใจผิดของพรรคคอมมิวนิสต์”เอง
ปักกิ่งซึ่งเปิดเผยแผนงาน ๑๒ ประการเพื่อสันติภาพในยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ยืนยันว่าความขัดแย้งจะยุติได้ด้วยการเจรจาเท่านั้น จีนไม่เหมือนกับประเทศตะวันตกหลายแห่ง ปฏิเสธที่จะประณามรัสเซียสำหรับการกระทำของตน
จีนแต่งตั้งหลี่ ฮุย (Li Hui) นักการทูตเป็นทูตพิเศษประจำยูเครนและ“ประเทศอื่นๆ”ในวันพุธที่ผ่านมา สีกล่าวว่าทูตจะได้รับมอบหมายให้ดำเนินการ“สื่อสารเชิงลึกกับทุกฝ่ายเกี่ยวกับการยุติทางการเมืองของวิกฤตยูเครน” Li เป็นเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงมอสโกว์มาก่อนระหว่างปี ๒๕๕๒-๒๕๖๒
ในขณะเดียวกัน Zelensky ได้แต่งตั้งอดีตรัฐมนตรีอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์พาเวล รยาบคิน (Pavel Ryabkin) เป็นทูตคนใหม่ไปประจำที่จีน
ทางด้านเมกาและนาโต้ผู้สนับสนุนหลักของสงครามตัวแทนยูเครน นิวยอร์กไทมส์รายงานว่าหากเคียฟรุกครั้งใหม่แล้วพ่ายแพ้ผลที่ตามมาอาจกระตุ้นให้ผู้สนับสนุนเคียฟกดดันให้เจรจาเพื่อสันติภาพ ซึ่งยังเป็นคำถามที่ไม่คำตอบแต่บ่งบอกว่าการต่อสู้ครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นแน่นอน
นิวยอร์กไทมส์วิเคราะห์ว่า ยูเครนไม่มีการรับประกันความสำเร็จในการต่อต้านรัสเซีย แม้ว่าจะได้รับการสนับสนุนด้านอาวุธ การฝึกอบรม และข่าวกรองจากตะวันตกก็ตาม
เคียฟได้โน้มน้าวการผลักดันที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นระยะต่อไปของความขัดแย้งกับรัสเซีย การโจมตีสามารถเปิดฉากได้เร็วสุดในเดือนพฤษภาคม แม้ว่า เดนิส ชมิกัล(Denis Shmigal) นายกรัฐมนตรียูเครนเมื่อเร็ว ๆ นี้ประเมินว่าอาจไม่ดำเนินการจนกว่าจะถึงฤดูร้อน
ยูเครนกำลังวางแผนที่จะใช้กองพลรบ ๑๒ กองพลซึ่งมีกำลังพลประมาณ ๔,๐๐๐ นายในการรณรงค์ต่อต้านกองกำลังรัสเซียครั้งใหม่ สหรัฐฯ และพันธมิตรได้ช่วยฝึกเก้าหน่วยในจำนวนนั้น โดยทหารได้รับการสอนให้ใช้ยุทโธปกรณ์ที่จัดหาโดยตะวันตก และได้รับคำแนะนำทางยุทธวิธีที่โรงทหารอเมริกันในเยอรมนี ผู้สนับสนุนของยูเครนยังคาดว่าจะให้ข้อมูลข่าวกรองสำหรับการโจมตีอย่างเต็มที่
อเล็กซานเดอร์ เวอร์ชโบว์ อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำรัสเซียและเจ้าหน้าที่อาวุโสของ NATOกล่าวว่า “ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการต่อต้านครั้งนี้”“ทุกคนมีความหวัง แต่มันจะเป็นตัวตัดสินว่าจะมีผลลัพธ์ที่ดีสำหรับยูเครนหรือไม่” ในเวลาเดียวกัน กลาโหมนาโต้ฯยืนยันว่าได้ส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ยูเครนตามขอพร้อมลุยศึกกับรัสเซียแล้ว
ขณะที่จีนแสดงบทผู้ถือคบเพลิงแห่งสันติภาพ และบันไดลงสำหรับผู้นำยูเครน แต่ผู้อยู่เบื้องหลังทั้งเมกา-นาโต้ยังตั้งใจจะให้เกิดการสู้รบครั้งใหญ่ เพื่อกดรัสเซียให้แพ้ให้ได้ ดูภาพแล้วคงยากที่จะมีการสงบศึก เพราะหากเป็นเช่นนั้นเท่ากับเมกา ยอมปล่อยให้รัสเซียสามารถส่งกำลังไปหนุนจีนและเกาหลีเหนือได้อย่างสะดวก หากเมกาเปิดศึกกับจีนในเอเชีย-แปซิฟิก การยืดสงครามในยุโรปเป็นการพร่ากำลังรบพันธมิตรรัสเซีย-จีน-อิหร่าน น่าจะเป็นเรื่องที่ดีกว่าสำหรับเมกาหรือไม่ คงจะได้คำตอบเร็วๆนี้!