แหกอกเมกา!! อาฟริกาลั่นลาออกICC ซัดสั่งจับปูตินไม่เป็นธรรม ดันBRICS สร้างเงินสกุลใหม่ถีบส่งดอลลาร์

0

ศาลICC ได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงว่า เป็นกลไกของมหาอำนาจขั้วเดี่ยวที่มีสหรัฐฯเป็นพี่เบิ้ม สั่งเอาผิดใครก็ได้นอกจากเมกาและพวก ออกคำสั่งจับปธน.ปูตินโดยไม่มีการสอบสวน นับวันจึงหมดเครดิตต่อนานาชาติมากขึ้น

ล่าสุดอาฟริกาใต้ซึ่งเป็นประธานกลุ่ม BRICS ปีนี้ประกาศชัดว่าจะลาออกจากศาลโลกแห่งนี้เพราะไม่มีความยุติธรรม เพื่อเคลียร์ทางให้ปธน.ปูตินมาเข้าร่วมการประชุมกลุ่มBRICS กลางเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ได้อย่างมั่นใจ

ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลินกล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ปธน.ปูตินได้รับคำเชิญเข้าร่วมประชุมBRICS แล้ว เขากล่าวว่า “การตัดสินใจที่เหมาะสมจะทำขึ้นในช่วงเริ่มต้นของงาน แต่ไม่ว่าในกรณีใด รัสเซียจะเข้าร่วมอย่างแข็งขันในเรื่องนี้อย่างแน่นอน” 

BRICS เป็นกลไกความร่วมมือระหว่าง ๕ ประเทศเศรษฐกิจชั้นนำที่ไม่ใช่ประเทศตะวันตก ได้แก่ บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ ซึ่งเข้ามาเป็นสมาชิกในปี ๒๐๑๐

มีการคาดการณ์ว่ากลุ่มประเทศ BRICS จะครองเศรษฐกิจโลกภายในปี ๒๐๕๐ BRICS ส่งเสริมโครงการที่สนับสนุนการเกิดขึ้นของโลกหลายขั้ว ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม

วันที่ ๒๖ เม.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์รายงานว่า แอฟริกาใต้ประกาศลาออกจาก ICC ที่ออกหมายจับปูติน ประธานาธิบดีซีริล รามาโฟซา กล่าวว่าการตัดสินใจของฝ่ายปกครองเกิดขึ้นเพราะ “การปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม” ของบางประเทศผลักดันศาล

รามาโฟซาประกาศเมื่อวันอังคาร ถ้อยแถลงของเขามีขึ้นในขณะที่การประชุมสุดยอดกลุ่ม BRICS ที่กำลังจะมีขึ้น ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองเดอร์บันในเดือนสิงหาคม ได้รับผลกระทบจากปัญหาด้านลอจิสติกส์จากการที่องค์กรในกรุงเฮกมุ่งเป้าไปที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย

ตามคำตัดสินของประธานาธิบดี พรรคคองเกรสแห่งชาติแอฟริกา (ANC) บรรลุข้อตกลงดังกล่าวหลังการประชุมสุดสัปดาห์

รามาโฟซากล่าวหลังการแถลงข่าวร่วมกับประธานาธิบดีเซาลี นีนิสโตของฟินแลนด์ ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนทางการทูตที่กรุงพริทอเรียว่า “ใช่ พรรคที่ปกครองได้ตัดสินใจอย่างรอบคอบแล้วว่า แอฟริกาใต้ควรถอนตัวจาก ICC ส่วนใหญ่เป็นเพราะวิธีการที่ ICC จัดการกับปัญหาต่างๆอย่างไม่เป็นธรรม”

แอฟริกาใต้พยายามถอนตัวจาก ICC เป็นครั้งแรกในปี ๒๕๕๙ แต่การเคลื่อนไหวดังกล่าวถูกเพิกถอนตามคำตัดสินของศาลสูงที่พบว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ

การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากพบว่าประเทศละเมิดพันธกรณีต่อ ICC โดยไม่สามารถจับกุมอดีตประธานาธิบดีซูดานโอมาร์ อัล-บาเชียร์(Omar al-Bashir) ในระหว่างการเยือนประเทศในปี ๒๕๕๘ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำแอฟริกา อดีตผู้นำซูดานรายนี้ถูกตั้งข้อหาล้างเผ่าพันธุ์ต่อหน้าศาลที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งดาฟูร์ที่มีมาอย่างยาวนาน

การประกาศถอนตัวครั้งล่าสุดมีขึ้นหลังการออกหมายจับประธานาธิบดี ปูตินของรัสเซีย โดย ICC เมื่อเดือนมีนาคมกล่าวหาปูตินว่า “ส่งตัวเด็กอย่างผิดกฎหมาย” จาก “พื้นที่ยึดครองของยูเครน”

ข้อหาดังกล่าวเกี่ยวข้องกับสิ่งที่รัสเซียระบุว่าเป็นความพยายามอพยพพลเรือนออกจากเขตดอนบาสส์ (Donbass) ซึ่งประชากรส่วนใหญ่พูดภาษารัสเซีย ถูกทหารยูเครนทำร้ายอย่างหนักต่อเนื่องมา ๘ ปี

แอฟริกาใต้ ซึ่งมีกำหนดเป็นเจ้าภาพต้อนรับผู้นำจากประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้จะมาพบกันในการประชุมสุดยอด BRICS ในเดือนสิงหาคมปีนี้ จะต้องบังคับใช้หมายศาลของ ICC สำหรับการจับกุมปูตินในฐานะผู้ลงนาม ธรรมนูญกรุงโรมปี ๒๕๔๕

เมื่อถูกถามเมื่อวันอังคารว่าพริทอเรียจะจับกุมปูตินหรือไม่ รามาโฟซากล่าวว่าเรื่องนี้ “อยู่ระหว่างการพิจารณา อย่างไรก็ตาม ฟิกิเล เอ็มบาลูลา เลขาธิการพรรคของเขากล่าวว่า อาฟริกาใต้ยินดีต้อนรับปูตินเข้าประเทศตลอดเวลา และ ICC ทำหน้าที่เพียงเพื่อ “ผลประโยชน์ของคนไม่กี่คน”

เมื่อต้นเดือนนี้ รามาโฟซาประกาศว่าเขาจะส่งคณะผู้แทนไปยังวอชิงตันเพื่อชี้แจงจุดยืนที่ “ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ” ของเขาต่อปูตินและสถานการณ์ในยูเครน

แม้ประกาศจุดยืนชัด แต่ก็ไม่มีหลักประกันด้านความปลอดภัยต่อผู้นำรัสเซียแต่อย่างใด เพราะสมาชิกที่เข้าร่วมการประชุมล้วนมีสัตยาบันกับศาลโลกส่วนใหญ่ ยิ่งกลุ่มBRICS เติบโตแข็งแกร่งมากขึ้นเท่าใด เมกาและพวกจะยิ่งเตะสะกัดกั้นทุกวิถีทาง สมัยนี้เขาคุยกันสั่งการกันทางโลกเสมือนเป็นเรื่องปกติ ปูตินไม่ไปมือประสานคนสำคัญอื่นๆของรัสเซียยังมีอีกหลายคน คงต้องจับตาดูว่า สิงหาคมนี้จะได้เห็นผู้นำBRICS ทั้ง ๕ จับมือกันหรีอไม่ ถึงอย่างไรยุทธศาสตร์ใหญ่ของโลกหลายขั้วยังคงเดินหน้าต่อไปได้ไม่มีสะดุดอย่างแน่นอน!!??