หากประเทศกำลังจะมีพายุใหญ่ ถ้าหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่คือผู้อยู่ตรงกลางของพายุ เป็นศูนย์กลางให้มวลชนพลพรรคกลุ่มคุณหมุนรอบ ระวังจะโดนพายุหอบคุณไปไกลจากประเทศนี้
รศ.ดร.แสงเทียน อยู่เถา นักวิชาการสถาบันทิศทางไทย
กรณีที่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ได้ไปพูดบนเวทีของสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๖๒ มีอยู่หลายตอนที่น่าสนใจ จะขอนำบางตอนที่มีการบรรยายในวันดังกล่าวมาแสดงเป็นเบื้องต้น ได้แก่
“…ผมจะบอกคุณสิ่งที่ผมรู้ มีหลายคนทั้งจากโลกออนไลน์และในชีวิตจริงเข้ามาถามผม ว่าเมื่อไหร่จะรวมตัวประท้วง เมื่อไหร่จะเริ่มการต่อสู้ รู้ไหมมีหลายคนถามผมแบบนั้น บางคนถึงขนาดพูดเล่นๆ ในโลกออนไลน์ ว่าพวกเขาอยากเจอแก๊สน้ำตา ร่างกายต้องการแก๊สน้ำตา พวกเขาชักชวนผม และผมกลับเป็นคนเดียวที่พูดว่า ใจเย็นก่อน รอก่อน ผมเป็นคนเดียวที่บอกให้ใจเย็น ทุกเส้นทาง ทุกตัวเลือก มันยังไม่ถึงที่สุด ขอให้พวกเราได้พยายามอย่างสันติ ให้เราได้พยายามนำประชาธิปไตยคืนสู่ไทยอย่างสันติภาพผ่านระบบรัฐสภา ให้เราพยายามก่อน ผมเลยกลายเป็นคนเดียวที่คอยบอกพวกเขาให้ใจเย็น…”
“…ในเดือนมกราคม ผู้คนเริ่มจัดการรณรงค์กันแล้ว พวกเขาเรียกมันว่า วิ่งไล่เผด็จการ พวกเขาจัดการประท้วงในรูปแบบการวิ่ง เรารู้ว่าเรายืนอยู่บนขอบ ผมคิดว่ามันชิดเจนว่ามันไม่ใช่เพราะเรา เราต้องการมีส่วนร่วมกับการเมือง ในระบบรัฐสภา แต่เราไม่ได้รับอนุญาตให้ทำ ประชาชนไม่ได้รับอนุญาตให้ทำสิ่งนี้ เราถูกผลักให้ออกมาข้างนอก และผมคิดว่านั่นทำไมจึงเป็นช่วงเวลาที่อ่อนไหว และต้องชัดเจนว่า นั่นไม่ใช่เพราะเรา…”
“…ต้องขออธิบายก่อนว่าพวกเราไม่ได้เป็นคนอยู่เบื้องหลังงานวิ่งในวันที่ ๑๒ มกราคมที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่มันเกิดจากความโกรธของผู้คน พวกเขาเหล่านี้เริ่มต้นรวมตัวกันทางออนไลน์ เราคงต้องลองมาดูกันว่าจะมีคนออกมารวมตัวกันในอีเว้นท์นี้มากแค่ไหน…”
“…แทนที่จะทำเช่นนั้น พวกเขาผลักดันให้ประชาชนออกมา ไม่มีใครรู้แน่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อประชาชนสูญเสียความเชื่อมั่นในรัฐสภา เมื่อพวกเขาไม่มีความหวังเหลือ เมื่อไม่มีความเป็นไปได้ที่จะได้อำนาจมาอย่างสันติ ไม่มีใครรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฝ่ายที่กุมอำนาจ พวกรัฐบาลทหาร พวกเขาคิดว่าพวกเขาสามารถยับยั้งมันได้ แต่หลายคนกลับคิดในอีกรูปแบบหนึ่ง หลายคนที่ผมได้ไปพูดคุยด้วยไม่มั่นใจ ผมคิดว่านี้เป็นการพนันขันต่อที่อันตรายมาก ถ้าเรามองดูในเวทีโลก ถ้าเราดูที่ชิลี จุดเปลี่ยนในชิลีก็คือเรื่องค่ารถไฟใต้ดิน เราไม่รู้ว่าจุดเปลี่ยนที่นี่จะเป็นอะไร ที่เรารู้ที่นี่คือ เรารู้ว่าความตึงเครียดกำลังเพิ่ม มันสัมผัสได้ มันรับรู้ เรารู้ว่าพายุกำลังจะมา…” (NationTV22 at YouTube channel, Dec 3, 2019)
เมื่อพิจารณาแล้วหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่กำลังชื่นชมตัวเองว่าเป็นคนเดียวที่กำลังปรามผู้ที่จะออกมาชุมนุม แต่ย้อนแย้งกับสิ่งที่กำลังดำเนินไปในท่ามกลางสายตาของคนอีกจำนวนมากในประเทศ ทั้งหมดเหมือนกำลังปูทางให้เป็นข่าวเพื่อให้ต่างชาติและพลพรรครู้ว่ากำลังคิดการ หรือจะทำการสิ่งใดในการต่อต้านอำนาจที่คุณคิดว่ากำลังผลักให้ประชาชนออกมาเอง ไม่เกี่ยวกับหัวหน้าพรรคและพลพรรคของอนาคตใหม่แต่อย่างใด คุณกำลังชี้ให้ได้เล็งเห็นว่าประเทศไทยเริ่มมีความตึงเครียดเพิ่มขึ้นและจะมีจุดเปลี่ยนจากการยุบพรรคของคุณหรือไม่ ถึงได้อ้างกรณีค่ารถไฟใต้ดินที่ชิลี เพื่อมาเทียบเคียง ทั้งๆ ที่ผ่านมาการทำงานอย่างสอดประสานทั้งการเตรียมทำค่ายเยาวชน การเข้าไปพูดกับนักเรียนในโรงเรียน การรณรงค์ด้วยงานกิจกรรมเพื่อสร้างวาทกรรมให้เห็นว่าเป็นการดำเนินการของภาคประชาชนที่ไม่พอใจอำนาจรัฐ รัฐไม่ได้ทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ บ้าแต่อำนาจพยายามกอดอำนาจไว้อย่างไม่ลืมหูลืมตา คุณยังติดกับคำว่าเผด็จการอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆ ที่ปัจจุบันมีการดำเนินการผ่านตัวแทนของประชาชนในสภาผู้แทนราษฎรอยู่อย่างต่อเนื่อง
การบรรยายครั้งนี้ของหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เหมือนเป็นการชี้ให้โลกได้เห็นว่า รัฐบาลในประเทศนี้กำลังท้าทายโดยไม่ให้มีการดำเนินการใดๆ ของตัวแทนประชาชนในสภา ผลักคนให้ไปต่อสู้ด้วยวิธีที่รุนแรง เพราะวิธีสันติไม่สามารถใช้การได้ ซึ่งที่จริงประชาชนยังไม่เคยได้เรียกร้องชุมนุมใดๆ เลย และถ้าต้องลงถนนในฐานะที่ผมเคยนำนักศึกษาและเข้าร่วมกับการต่อสู้ภาคประชาชนมาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ผมว่าเราบอบช้ำมามากพอแล้ว
และผมเชื่อว่าคุณก็เห็นว่าแกนนำในการนำคนออกมาเดินบนถนนที่ผ่านมามันควบคุมฝูงชนและความรุนแรงได้ยากขึ้นทุกที อนาคตพวกเขาเหล่านั้นปัจจุบันพวกคุณคงเห็นเป็นที่ประจักษ์ว่าเป็นอย่างไร ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลอยู่ตลอด ต้องหนีออกนอกประเทศหรือหลายคนต้องไปอยู่ในคุกเพราะเหตุการณ์จากฝูงชนที่ทำผิดกฎหมายโดยแกนนำไม่อาจยับยั้งได้หรือในบางกรณีที่มีการยั่วยุเสียเอง การแสดงออกด้วยวิธีอหิงสายังมีอีกมากมายเพียงแต่พวกคุณจะทำกันหรือไม่ หรือต้องการไม่ให้เป็นแบบอหิงสา เกิดเรื่องร้ายๆ กับคนที่คุณคิดว่าเขาออกมาต่อสู้กับสิ่งที่คุณเรียกว่าอำนาจที่กดทับประเทศ หรืออำนาจเผด็จการ ทั้งๆ ที่เพิ่งผ่านการเลือกตั้งตามที่พวกคุณเรียกร้องว่าอยากเลือกตั้ง ทำไม่ไม่รอการเลือกตั้งรอบหน้าที่จะให้ได้คะแนนสูงกว่ากลุ่มอื่นเขาที่เป็นรัฐบาลในปัจจุบัน
ถ้าคุณยังดื้อดึง ดึงดันให้เกิดการประท้วงลงถนน แม้จะอ้างว่าไม่เกี่ยวกับคุณและพรรคพวกที่คนอีกจำนวนมากก็ไม่เชื่อกัน มุ่งแต่ให้เป็นไปตามความคิดคุณ ตามวาทกรรมที่คุณสร้างขึ้นว่ากำลังต่อสู้กับอำนาจที่กดทับประเทศไทยอยู่ การพูดบรรยายกับนักข่าวต่างประเทศก็อาจเป็นผลดีที่จะอ้างความชอบธรรมในการขอลี้ภัยในต่างประเทศได้ง่ายขึ้น หากเกิดความรุนแรงขึ้นจากฝูงชนจนผิดกฎหมายบ้านเมืองเหมือนช่วงที่ผ่านมา ดัง “พายุใหญ่ที่พร้อมจะหอบทุกอย่างที่อยู่ตรงกลางของพายุ และระวังถ้าพวกคุณเป็นศูนย์กลางให้มวลชนพลพรรคกลุ่มคุณหมุนรอบ จะโดนพายุหอบคุณไปไกลจากประเทศนี้ด้วยบาดแผลจากความรุนแรงของพายุที่นับไม่ถ้วน”
