เมกากระอัก!! อินเดียควงบังคลาเทศเทดอลลาร์ใช้เงินปท.ค้าขาย ลดเงินสำรองตุนทองเพิ่ม หนุนBRICSตั้งเงินสกุลร่วม

0

ข่าวดีของกลุ่มโลกหลายขั้วที่มีกลุ่ม BRICS เป็นศูนย์การนำ วันนี้อินเดียประกาศชัดเร่งลดค่าเงินดอลลาร์เนื่องจากใช้ดอลลาร์ในการค้าบางอย่าง เดินหน้าลดเงินสำรองต่างประเทศที่เป็นดอลลาร์ เพิ่มเงินสกุลอื่นและทองคำมากขี้น ขณะที่ตอบรับการค้าพลังงานกับต่างประเทศเป็นประจำชาติและเงินหยวน 

เป็นไปตามแนวทางของ กลุ่มBRICS ปฏิบัติการde-dollarization ผลักดันประเทศสมาชิกใช้เงินประเทศค้าขายได้สำเร็จ ส่งผลให้เกิดโมเมนตัมใหม่ ทำให้กลุ่มเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาหันเข้ามาร่วมการจัดตั้งสกุลเงินสำรองใหม่ ลดบทบาทดอลลาร์สหรัฐอย่างต่อเนื่อง

วันที่ ๒๔ เม.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวโกลบัลไทมส์และบิสซิเนสสแตนดาร์ด รายงานว่า อินเดียและบังกลาเทศบรรลุข้อตกลงที่จะเห็นส่วนหนึ่งของธุรกรรมการค้าทวิภาคีของพวกเขาชำระด้วยสกุลเงินของพวกเขาเอง รูปีอินเดียและตากาบังกลาเทศ สื่อรัสเซียและอินเดียหลายสำนักรายงานในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การส่งออกของอินเดียไปยังบังกลาเทศมูลค่า ๒ พันล้านดอลลาร์ จากประมาณ ๑๓.๖๙ พันล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณที่แล้ว จะซื้อขายกันในรูปี ในขณะที่ส่วนที่เหลือจะชำระเป็นดอลลาร์สหรัฐ ในขณะเดียวกัน การส่งออกของบังคลาเทศไปยังอินเดียซึ่งอยู่ที่ประมาณ ๒ พันล้านดอลลาร์ในปี ๒๕๖๕ จะมีการทำธุรกรรมซื้อขายอย่างเต็มที่ในรูปีและตากา ตามรายงานของ ANI

หนังสือพิมพ์ฮินดูสถานไทมส์รายงานว่า ก่อนหน้าบังกลาเทศมีอีก ๑๘ ชาติ รวมถึงรัสเซีย เยอรมนี สหราชอาณาจักร สิงคโปร์ ศรีลังกา มาเลเซีย โอมาน และนิวซีแลนด์ ได้เริ่มทำการค้าในต่างประเทศกับอินเดียด้วยสกุลเงินรูปีอินเดียแล้ว

การพัฒนาชี้ให้เห็นถึง แนวโน้มที่อินเดียได้เร่งกระบวนการลดค่าเงินดอลลาร์ในการค้าต่างประเทศ ได้เน้นย้ำถึงแรงกดดันที่เงินดอลลาร์แข็งค่าส่งผลกระทบต่อเงินทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดีย 

ด้วยความทะเยอทะยานที่จะพัฒนาภาคการผลิตภายในประเทศ อินเดียจึงมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเข้าผลิตภัณฑ์พลังงานและวัตถุดิบอื่นๆจำนวนมาก เพื่อการผลิต ซึ่งนำไปสู่การขาดดุลการค้าที่เพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในปี ๒๕๖๕ อินเดียขาดดุลการค้าประมาณ ๒๗๐,๐๐๐ ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่า ๑๗๘,๐๐๐ ล้านดอลลาร์ในปี ๒๕๖๔ ประมาณ ๕๑% ตามรายงานของสื่ออินเดีย

ในขณะเดียวกัน นโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐก็สร้างแรงกดดันอย่างมากต่อสภาพคล่องของเงินดอลลาร์ของอินเดีย ดังนั้นจึงไม่ยั่งยืนมากขึ้นสำหรับอินเดียที่จะชำระการค้าต่างประเทศทั้งหมดด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และการแสวงหาความหลากหลายและเพิ่มการตั้งถิ่นฐานในสกุลเงินของประเทศจะช่วยบรรเทาแรงกดดันต่อเงินสำรองดอลลาร์ของอินเดียและอำนวยความสะดวกในการค้าของประเทศอื่น ๆด้วย

ในปี ๒๕๖๕ อินเดียเปิดตัวกลไกการชำระบัญชีการค้ารูปีของตนเอง ซึ่งช่วยให้ประเทศที่มีเงินดอลลาร์ไม่พอ หรือไม่สามารถซื้อขายในสกุลเงินดอลลาร์เพื่อซื้อขายในรูปีได้ หมายความว่าการลดค่าเงินดอลลาร์ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงน้ำหนักการค้าที่เพิ่มขึ้นโดยประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ในการค้าโลก 

ในขณะที่วอชิงตันล่อลวงอินเดียให้เข้าร่วมการรณรงค์ต่อต้านจีน การที่อินเดียละทิ้งดอลลาร์สหรัฐในการค้านั้นมีนัยสำคัญ 

ในความเป็นจริง ความเคลื่อนไหวของอินเดียเป็นเพียงส่วนยอดของภูเขาน้ำแข็ง เมื่อพูดถึงแนวโน้มการลดค่าเงินดอลลาร์ทั่วโลก เนื่องจากความเชื่อมั่นในเงินดอลลาร์ลดลงในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจต่างๆ จากข้อเท็จจริงที่ว่าประมาณหนึ่งในสี่ของประชากรโลกได้รับผลกระทบโดยตรงจากการคว่ำบาตรทางการเงินของสหรัฐฯ  จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นการผลักดันการลดค่าเงินดอลลาร์โดยประเทศอื่นๆ ไม่ว่าจะเพื่อหลบเลี่ยงการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ หรือเพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นเป้าหมายรายต่อไป การใช้อำนาจในทางที่ผิดของสหรัฐฯ ในการครอบครองเงินดอลลาร์ได้เร่งการสูญเสียความเชื่อมั่นในเงินดอลลาร์อย่างที่เมกาเองก็คาดไม่ถึง

ปัจจุบัน ประเทศต่างๆ ที่ต้องการกระจายสกุลเงินในการชำระบัญชีในการค้าระหว่างประเทศได้กระจายไปทั่ว ๕ ทวีป และจนถึงปีนี้ ประเทศต่างๆ ได้ดำเนินการลดค่าเงินดอลลาร์โดยเฉพาะมากขึ้นกว่าที่เคย เมื่อปลายเดือนมีนาคม จีนและบราซิลบรรลุข้อตกลงที่จะอนุญาตให้ทั้งสองประเทศทำธุรกรรมการค้าและการเงินโดยตรงในสกุลเงินหยวนจีนหรือเรียลบราซิล แทนที่จะใช้ดอลลาร์สหรัฐเป็นตัวกลาง

เกือบพร้อมๆ กันประเทศในกลุ่มอาเซียนได้ประกาศแผนการที่จะช่วยให้เศรษฐกิจอาเซียนค่อยๆ เปลี่ยนจากการใช้สกุลเงินต่างประเทศ เช่น ดอลลาร์ เป็นสกุลเงินท้องถิ่นในการทำธุรกรรมทางการเงิน เพื่อลดการพึ่งพาสกุลเงินต่างประเทศ

ในช่วงต้นเดือนเมษายน อินเดียได้ลงนามในข้อตกลงกับมาเลเซียซึ่งอนุญาตให้การค้าทวิภาคีชำระเป็นเงินรูปีของอินเดีย 

ในขณะที่ความตระหนักที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการลดค่าเงินดอลลาร์กำลังส่งผลลดอำนาจของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ  ทำให้เมกาต้องเผชิญกับความท้าทายที่ร้ายแรงในระยะยาว ปฏิเสธไม่ได้ว่าการลดค่าเงินดอลลาร์ไม่ใช่สิ่งที่สามารถทำได้ในระยะสั้นในอนาคตอันใกล้ แต่วันนี้ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วและการกระตุ้นสงครามในหลายภูมิภาคของสหรับฯก็กลายเป็น อีกปัจจัยหนึ่งไปกระตุ้น สำหรับกระบวนการลดค่าเงินดอลลาร์จะส่งผลต่อความผันผวนของค่าสกุลเงินของหลายๆ ประเทศ อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อตลาดการเงินทั่วโลก จึงต้องมีการเตรียมการและการประสานงานที่รอบคอบมากขึ้นระหว่างประเทศต่างๆ

แต่อย่างไรก็คงขวางไม่อยู่ เพราะกระแสคลื่นยี้เงินดอลลาร์สหรัฐฯเกิดขึ้นแรงและเร็ว มีรายงานว่า สัปดาห์ที่แล้ว บังกลาเทศอนุมัติการจ่ายเงินมูลค่า ๓๑๘ ล้านดอลลาร์ให้กับบริษัทพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ของรัสเซียโดยใช้เงินหยวนแทน ซึ่งเป็นกรณีล่าสุดที่ประเทศต่างๆ เลี่ยงการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ และใช้สกุลเงินจีนในการชำระเงินระหว่างประเทศ ซึ่งจะเร่งแนวโน้มการลดค่าเงินดอลลาร์ทั่วโลกให้เร็วยิ่งขึ้นเรื่องนี้รัสเซียสนับสนุนเต็มที่ ช่วยให้ประเทศต่างๆหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯได้ด้วย ผลก็คือรายได้จากโภคภัณฑ์และพลังงานของรัสเซียไม่ได้น้อยไปกว่าเดิมเพราะขายของได้เพิ่มขึ้นในด้านวอลุ่ม ไม่ว่าจะชำระด้วยเงินประเทศคู่ค้าหรือหยวนนั่นเอง