เด็ดขาด!! RFผนึกวาร์กเนอร์ปลดปล่อยต.ต.บัคมุตเพิ่ม ๒ แห่ง วันเดียวดับยูเครนกว่า ๓๐๐ ลั่นใครยังดื้อสู้จับตาย

0

การสู้รบดุเดือดในเมืองยุทธศาสตร์บัคมุตเข้าใกล้สภาวะการปลดปล่อยโดยสมบูรณ์แล้ว เมื่อสัปดาห์ก่อน ผู้นำกลุ่ม วาร์กเนอร์ และผู้บริหารDPR ออกมายืนยันว่าควบคุมพื้นที่เกิดน ๙๐% แล้ว และช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ได้ปลดปล่อยพื้นที่ในฝั่งตะวันตก ที่ยังมีทหารเคียฟซุ่มอยู่ได้อีก ๒ แห่ง 

มีรายงานข่าวในเทเลแกรมของยูเครนที่แสดงภาพการประหารนักสู้รัสเซียแม้บาดเจ็บอย่างโหดร้ายทำให้กลุ่มวาร์กเนอร์ประกาศว่าหมดเวลายอมจำนนแล้ว ยังดื้อส่งกำลังหนุนมาก็จับตายลูกเดียว

วันที่ ๒๔ เม.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวทาซซ์และรัสเซียทูเดย์รายงานว่า ทีมจู่โจมของรัสเซียปลดปล่อยพื้นที่สองแห่งทางตะวันตกของเมืองอาร์ติมอฟสค์ (Artyomovsk) หรือบัคมุต ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของการรุกเดือดของวาร์กเนอร์ประสานกับรัสเซียนฟอร์ซ

พลโทอิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกลาโหมรัสเซียกล่าวว่า “ในทิศทางของโดเนตสค์ ทีมโจมตีได้ปลดปล่อยพื้นที่สองแห่งทางตะวันตกของเมือง Artyomovsk ในช่วง ๒๔ ชั่วโมงที่ผ่านมา” 

“หน่วยกองทัพอากาศรัสเซียให้การสนับสนุนทีมจู่โจมวาร์กเนอร์ในเขตทางเหนือและทางใต้ของเมือง”

เยฟเกนี ปริโกชิน(Yevgeny Prigozhin) ผู้ก่อตั้ง PMC Wagner กล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า “การก่อจลาจลได้เริ่มขึ้นในหมู่ทหารของกองกำลังยูเครนใน Chasov Yar และ Konstantinovka พวกเขากำลังลดอาวุธ ลุกขึ้นและจากไป” 

Prigozhin รายงานในช่องเทเลแกรมของเขา เป็นการตอบสนองต่อคำขอให้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรายงานที่ประธานาธิบดียูเครน เซเลนสกี้Zelensky ได้เรียกร้องจากผู้บัญชาการกองกำลังภาคพื้นดิน Alexander Syrsky ให้กองทหารของเขายืนหยัดใน บัคมุตต่อไป จนถึงวันที่ ๙ พฤษภาคม เพื่อ “ป้องกันไม่ให้รัสเซีย ประสบชัยชนะทางข้อมูลขนาดใหญ่ของการต่อสู้” เป็นคำสั่งที่พร้อมส่งทหารของตัวเองมาตายเพื่อผลทางสถานะของตัวเองอย่างไม่ละอาย

ทางด้านรัสเซียนฟอร์ซ การบินต่อสู้ของกองทัพอากาศรัสเซียได้ทำการก่อกวน ๖ ครั้งในช่วงสุดสัปดาห์เพื่อสนับสนุนหน่วยจู่โจมที่ต่อสู้เพื่อยึดการควบคุมเมืองบัคมุต

รวมทั้งการยิงปืนใหญ่ของกลุ่มการรบทางใต้ ได้โจมตีหน่วยศัตรูในพื้นที่ของการตั้งถิ่นฐานของเมืองบ็อกดานอฟกา (Bogdanovka) และนิโคลาเยฟกา (Nikolayevka) ของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์ซึ่งใกล้เมืองบัคมุตเพื่อกีดกันกอลกำลังหนุนของยูเครนด้วย

ทางด้านความเคลื่อนไหวในแนวหน้าของการสู้รบ โฆษกกลาโหมกล่าวว่า “กองกำลังรัสเซียทำลายกองทหารยูเครนถึง ๒๐๐ นายในพื้นที่โดเนตสค์ในช่วงวันที่ผ่านมา ทำลายยานรบของทหารราบยูเครน ๑ คัน, รถหุ้มเกราะ ๔ คัน, ยานยนต์ ๘ คัน, ปืนครก D-20 และเครื่องยิงจรวด Grad อีกหลายชุด”

 “ในทิศทางของคริสนี ลิมัน (Krasny Liman) เครื่องบินจู่โจมและการบินของกองทัพบกและปืนใหญ่จากศูนย์กลุ่มรบได้โจมตีหน่วยกองทัพยูเครน” 

การโจมตีดังกล่าว “ทำลายบุคลากรยูเครนกว่า ๗๐ นาย ยานเกราะต่อสู้ รถกระบะ ๒ คัน ปืนครก D-30 และปืนใหญ่อัตตาจร Gvozdika” 

ในทิศทางของคูเปียนสค์ (Kupyansk) เครื่องบินปฏิบัติการ/ยุทธวิธีและการบินกองทัพและปืนใหญ่ของกลุ่มการรบทางตะวันตก ได้โจมตีหน่วยข้าศึก กิจกรรมของกลุ่มต่อต้าน/ลาดตระเวนยูเครน ๔ กลุ่มถูกขัดขวาง ดับบุคลากรยูเครนประมาณ ๙๕ ราย ยานเกราะต่อสู้ ๑ คัน และรถปิกอัพ ๓ คัน”

“หน่วยทหารของยูเครนติดตั้งทุ่นระเบิดโดยใช้ระบบทำเหมืองระยะไกลที่ผลิตโดยเยอรมนี ในพื้นที่แห่งหนึ่งภายในเขตปฏิบัติการพิเศษทางทหาร ทหารของหน่วยรบตะวันตกเคลียร์ทุ่นระเบิดประมาณ ๒๐๐ ทุ่นระเบิดในย่านที่พักอาศัยระหว่างปฏิบัติการกำจัดทุ่นระเบิด

ในระหว่างการต่อสู่กองกำลับรัสเซียพบตำแหน่งปืนใหญ่ของข้าศึกประมาณ ๓๐ ตำแหน่งและถูกปราบปราม

อเลกซานเดอร์ ซาฟชัค(Alexander Savchuk) โฆษกของกลุ่ม Russian Battlegroup Center เปิดเผยว่า หน่วยปืนใหญ่ของกลุ่ม เข้าปะทะกับเป้าหมายกว่า ๑๕๐ เป้าหมายของกองทัพยูเครนในช่วง ๒๔ ชั่วโมง 

เจ้าหน้าที่หน่วยลาดตระเวนและหน่วยช่วยเหลือระบุตำแหน่งศัตรูของกองพลขนส่งทางอากาศที่ ๘๑ และกองพลทหารราบยานยนต์ที่ 58 ของกองทัพยูเครนที่เมืองทอร์สกี (Torsky) และ เชอร์โวโนนิบรอฟสกี(Chervonodibrovsky)ข้าศึกสูญเสียกำลังพลและยุทโธปกรณ์อันเป็นผลมาจากการโจมตีทางอากาศและการโจมตีด้วยการยิงโดยปืนใหญ่ของกลุ่มประจัญบาน

สถานการณ์โดยรวม รัสเซียเหนือกว่าอย่างชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆในทุกพื้นที่ของภูมิภาคใหม่ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา อเล็กซานดรา อุสติโนวา สมาชิกสภานิติบัญญัติของยูเครน อ้างว่าการขาดอาวุธทำให้เคียฟต้องเลื่อนการเริ่มต้นการตอบโต้ต่อกองทหารรัสเซียออกไปอย่างไม่มีกำหนด แต่นิตยสารอังกฤษลงบทวิเคราะห์เตือนว่า แม้ว่าเคียฟ”วางแผนมายาวนาน” ต่อการตอบโต้กอง กำลังรัสเซีย แต่อาจจบลงด้วยการถุกปิดล้อมโดยกองทัพรัสเซีย”