สหรัฐหนี้บานแล้ว 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ จบเห่นักล่า เจอจีนสกัดปล้นชาติเล็กๆ หลังปูตินคุยเจ้าชายซาอุฯร่วมขั้วอำนาจใหม่

0

จากการคว่ำบาตรของสหรัฐอเมริกาที่มีต่อรัสเซีย โดยข้ออ้างการรุกรานยูเครน ทำให้เกิดกระแสตีกลับ ส่งผลกระทบต่ออเมริการวมทั้งชาติยุโรปเอง ซึ่งมีข้อมูลถึงภาวการณ์เป็นหนี้ไว้อย่างน่าสนใจ

ทั้งนี้ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีของสหรัฐผ่าน Blockdit เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2566 ว่า

หนี้สินของอเมริกาในปีนี้ ณ จุดนี้ มีถึง ๓๑.๔ ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา และไม่เคยที่จะนำเงินไปใช้หนี้เลย มีแต่กู้เพิ่มอย่างเดียว อเมริกาต้องจัดหาเงิน ๑๕% ของงบประมาณประจำปีเพื่อจ่ายดอกเบี้ยอย่างเดียว เงินส่วนต้นไม่ลดแม้แต่น้อย

ดูการจำลองภาพนำเงิน ๑ พันล้านดอลลาร์มากอง เทียบกับเครื่องบินสิครับว่าจะมากมายขนาดไหน แล้วค่อยไปนึกถึง ๓๑.๔ ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา

อันตรายสำหรับอเมริกาก็คือชาตินักล่าอาณานิคมในยุคก่อนๆ สามารถปล้นทรัพยากรชาติอื่นมาใช้ได้ แต่ทุกวันนี้ มีรัสเซียและจีนยิ่งใหญ่ขึ้นมาและพร้อมจะช่วยชาติเล็กๆที่ถูกชาตินักล่าอาณานิคมรุกราน โอกาสที่จะปล้นเงินทองจากชาติอื่นมาปลดหนี้สินของตนเอง จึงเป็นไปได้ยากทุกขณะ

ขณะนี้ นานาชาติกำลังทิ้งดอลลาร์ด้วย ถ้าอเมริกาไม่ใช้เศรษฐกิจพอเพียง หันมาประหยัดสุดขีด หันมาใช้วิถีมักน้อย สันโดษ ลดความโลภ ความโกรธและความหลง สังคมอเมริกันไม่มีทางรอดจากเงินเฟ้ออย่างหนักไปได้แน่นอน

สิ่งที่จะตามมาหลังวิกฤติในยุโรปและอเมริกาคือผู้คนเป็นโรคซึมเศร้ามากขึ้น ซึ่งเคยเกิดขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ มาแล้ว สมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒​ หลังจากประเทศสะบักสะบอมเพราะสงคราม ชาวตะวันตกจำนวนมากหันมานับถือพระพุทธศาสนา

เมื่อเกิดวิกฤติเศรษฐกิจในอเมริกาอีกรอบ คนอเมริกันจะเห็นคุณค่าของพระพุทธศาสนามากยิ่งขึ้นเช่นกัน อเมริกาต้องล่มสลายเสียก่อน ถึงจะสร้างศิลปะวัฒนธรรมที่ *อารยะ* กว่าเดิมได้ครับ

นอกจากนี้ยังพบว่าเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2566 ดร.ปฐมพงษ์ ยังได้ออกมาเผยแพร่ข้อมูลที่สำคัญของการพูดคุยกันของสองผู้นำไว้อย่างน่าติดตามต่อไปว่า “ปูตินกับ MBS คุยนอกรอบกัน:

เมื่อวาน มีข่าวเชิงลึกออกมาว่าวลาดิเมียร์ ปูตินและเจ้าชาย MBS เปิดอกคุยโทรศัพท์กันแบบพี่แบบน้องหลายชั่วโมง สื่อบอกว่าทั้งวัน ผมใช้ว่าหลายชั่วโมงก็น่าจะพอ

เรื่องหลักๆ ถ้าพูดแบบไม่เกรงใจก็คือคุยกันเรื่องการบริหาร OPEC และการเข้าเป็นสมาชิก BRICS รวมทั้งเรื่องความมั่นคงของประเทศอื่นๆ จากประเทศนักล่าอาณานิคม ปูตินคงแนะนำวิธีปราบม็อบจัดตั้งสงครามพันทางเหมือนที่แนะเวเนซุเอลานั่นแหละครับ”