เดือดระอุ! เจ้าชายซาอุฯ ต่อสายตรงหา ปธน.ปูติน จัดการสหรัฐ ชักใยรัฐประหารในซูดาน ปกปิดข้อมูลชาวอเมริกันเสียชีวิต

0

เดือดระอุ! เจ้าชายซาอุฯ ต่อสายตรงหา ปธน.ปูติน จัดการสหรัฐ ชักใยรัฐประหารในซูดาน ปกปิดข้อมูลชาวอเมริกันเสียชีวิต

จากกรณีที่เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างกองทัพซูดานกับกลุ่มติดอาวุธ RSF ในหลายเมืองทั่วประเทศ รวมถึงในกรุงคาร์ทูมเมืองหลวง จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหายที่แน่ชัด ท่ามกลางความกังวลว่าซูดานอาจเผชิญกับสงครามกลางเมือง

ล่าสุดวันนี้ (23 เมษายน 2566) Blockdit World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว โดยบอกว่า การรัฐประหารชิงอำนาจ สู้รบกันเองในซูดาน แอฟริกาตะวันออก ผ่านเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 ระหว่างฝ่าย พล.อ.อับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์ฮาน ประธานาธิบดี และผู้บัญชาการกองทัพซูดาน กับฝ่าย พล.อ.โมฮาเหม็ด ฮัมดัน ดากาโล รองประธานาธิบดี และผู้บัญชาการกองกำลังติดอาวุธกึ่งทหาร RSF ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 413 ราย และบาดเจ็บกว่า 3,500 ราย

การสู้รบที่รุนแรงดุเดือด เกิดขึ้นในเมืองหลวง คาร์ทูม และบริเวณโดยรอบ ส่วนเมืองอื่นๆ มีการต่อสู้กันประปราย ทางอียิปต์ ซาอุฯ UAE ที่สนิทกับผู้นำทหารทั้ง 2 ฝ่ายพยายามเจรจาหยุดยิงหลายรอบ แม้ผู้นำทั้ง 2 ฝ่ายตกลง แต่ไม่นานจากนั้นก็เริ่มกลับยิงถล่มกันอีก ทั้ง 2 ฝ่ายงัดอาวุธทุกอย่างที่แต่ละฝ่ายมี ประเคนใส่กันแบบไม่ยั้ง

โดยกองทัพซูดานจะได้เปรียบกว่าทางอากาศใช้เครื่องบินรบยิงจรวดถล่มลงมาตลอดเวลา สนามบินหลักส่วนใหญ่กลายเป็นสมรภูมิรบ สนามบินนานาชาติในเมืองหลวงอยู่ภายใต้การระดมยิงอย่างหนัก เนื่องจากกองกำลังติดอาวุธกึ่งทหาร RSF ได้พยายามเข้าควบคุมพื้นที่ดังกล่าว

กองทัพซูดาน จึงโจมตีสนามบินอย่างหนัก ทำลายหนึ่งรันเวย์ และทิ้งซากเครื่องบินกระจัดกระจาย ปืนต่อสู้อากาศยานปลิวเป็นสายขึ้นท้องฟ้า เสียงปืน ระเบิด ดังสนั่นอย่างต่อเนื่อง นานาชาติต่างพยายามอพยพพลเมืองของตนหนีภัยสงครามออกจากซูดาน โดยซาอุฯ อพยพทูตกลับไปถึงประเทศแล้ว และกำลังทะยอยอพยพพลเรือน ส่วนจอร์แดน และ UAE ก็กำลังดำเนินการ

กองทัพซูดาน ได้รับการประสานจาก อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส อพยพพลเมืองโดยเครื่องบินทหาร แต่สหรัฐ มีทูตและพลเมืองที่รออพยพมีปริมาณมาก เกินกว่าจะใช้เครื่องบินขนออกได้หมด แต่การปิดสนามบินนานาชาติของซูดาน ทำให้การอพยพโดยเครื่องบินไม่มีความปลอดภัย กลาโหมสหรัฐ สั่งกองบัญชาการแอฟริกาของตนเคลื่อนย้ายทหารและอาวุธไปยังฐานทัพเรือในอ่าวเอเดน ประเทศจิบูตี เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการอพยพเฉพาะเจ้าหน้าที่สถานทูต แต่รัฐบาลสหรัฐ ระบุว่าไม่มีแผนการอพยพพลเมืองอเมริกันประมาณ 16,000 คนที่ติดอยู่ในซูดาน

กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ยืนยันว่ามีชาวอเมริกันเสียชีวิต 1 รายท่ามกลางการสู้รบที่หนักหน่วง แต่ปกปิดไม่ให้ข้อมูลว่าเขาเกี่ยวข้องกับการสู้รบอย่างไร เพียงแต่แจ้งครอบครัวแล้ว สหรัฐฯ ยอมรับว่าล้มเหลวในการรวบรวมนักการทูตอเมริกันทั้งหมดอพยพออกจากซูดาน

ยอมรับว่า “ไม่ง่ายเหมือนการกระโดดขึ้นแท็กซี่แล้วเดินไปที่สถานทูต” เพราะเป็นสถานการณ์ที่อันตรายมากเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาขบวนรถทูตสหรัฐ ติดธงชาติถูกกองกำลังติดอาวุธกึ่งทหาร RSF ระดมยิง รถยนต์ไฟไหม้แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

ล่าสุด มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน อัล ซาอุด นายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย ต่อสายโทรศัพท์หารือกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เกี่ยวกับความพยายามที่จะแก้ไขวิกฤตการณ์ในตะวันออกกลาง ที่มีสหรัฐ มาตั้งฐานทัพเถื่อนในซาเรีย ไม่ยอมออกไป และโอกาสความร่วมมือระหว่างซาอุฯ และกลุ่มประเทศ BRICS ได้แก่ บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ แต่ไม่มีรายงานว่าหารือกันประเด็นสงครามในซูดาน

วิเคราะห์ว่า..รัสเซีย และซาอุฯ รู้ตื้นลึกหนาบางเบื้องลึกรัฐประหาร สงครามกลางเมืองในซูดาน ว่ามีสหรัฐ ชักใย ทำให้ข้อตกลงหยุดยิงล้มเหลวหลายครั้ง เป็นสถานการณ์ที่ไม่ปกติ คาดว่า 2 ฝ่ายจะตีกันต่อไป จนกว่าจะมีฝ่ายใดสูญเสียหนักกว่ามาก เมื่อนั้นการเจรจาหยุดยิงจะง่ายขึ้นแน่อน

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.blockdit.com/world.update

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/profile.php?id=100077775671454