มิคสัญญีในฝรั่งเศสยังคุโชน หลังจากเดินทางกลับจากต่างประเทศ แผนปฏิรูปเงินบำนาญของมาครงได้กลายเป็นกฎหมายในสัปดาห์นี้ มาครงสั่งให้รัฐบาลของเขา “ ฟื้นฟูความสงบสุข ” ในอีก ๑๐๐ วันข้างหน้า และให้คำมั่นว่าจะไม่สนับสนุนการเพิ่มอายุเกษียณอีก ๒ ปี กฎหมายดังกล่าวถูกคัดค้านมากกว่า ๒ ใน ๓ ของประชากรชาวฝรั่งเศส กระแสต่อต้านยิ่งพุ่งแรงขึ้นกว่าเดิม
โคลเอ เบอร์กิกนอน(Chloe Bourguignon) เลขาธิการสหภาพภูมิภาค UNSA กล่าวกับสื่อว่า“คนที่ขัดขวางไม่ให้ฝรั่งเศสก้าวไปข้างหน้าคือมาครง เป็นการแสดงความดูถูกอย่างมากที่พูดต่อว่าประชาชนที่เดือดร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากข้อความยั่วยุทั้งหมดที่เขาส่งมาในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ”
ผู้ประท้วงต้องการให้ประธานาธิบดีมาครงยกเลิกการปฏิรูปเงินบำนาญและบีบให้บริษัทต่างๆ จัดหาทุนให้กับระบบประกันสังคมเมื่อทำไม่ได้ให้ลาออก
ในขณะที่กระแสการต่อต้านนโยบายของรัฐบาลโอลาฟ โชลช์ของเยอรมนีก็เกิดขึ้นไม่หยุดทั้งนัดหยุดงาน ทั้งประท้วงขับไล่นาโต้ต่อต้านส่งอาวุธให้ยูเครนแต่ท่าทีของรัฐบาลเยอรมนียังคงยืนหยัดสนับสนุนมตินาโต้ ผลักดันยูเครนสู้รัสเซียไม่หยุดยั้งท่ามกลางเงินเฟ้อพุ่ง คาไฟ้ฟ้าแพงและค่าครองชีพไม่พอกิน
วันที่ ๒๒ เม.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์รายงานว่า ผู้ประท้วงหลายร้อยคนเข้าไปในตลาดหลักทรัพย์ Euronext ในกรุงปารีสเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยจุดพลุไฟและตะโกนคำขวัญต่อต้านรัฐบาล การเข้ายึดครองอาคารเป็นเหตุการณ์ล่าสุดในชุดการเดินขบวนต่อเนื่อง นับตั้งแต่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ประกาศเพิ่มอายุเกษียณ
ผู้ประท้วงประมาณ๓๐๐ คน โบกธงสหภาพแรงงาน บุกเข้าไปในล็อบบี้ของตลาดหลักทรัพย์ฯ พลุไฟของพวกเขาทำให้อาคารเต็มไปด้วยควันสีแดงและปิดสัญญาณเตือนภัย “เราอยู่ที่นี่ เราอยู่ที่นี่ แม้ว่ามาครงจะไม่ต้องการ เราก็อยู่ที่นี่”พวกเขาร้องขณะที่ตำรวจปราบจลาจลกลุ่มเล็กๆ รออยู่ข้างนอก
จากธงและป้ายที่พวกเขาถือ ผู้ประท้วงส่วนใหญ่เป็นพนักงานการรถไฟ ซึ่งก่อนหน้านี้สหภาพแรงงานเรียกร้องให้“แสดงออกถึงความโกรธ” ประท้วงนอกสถานีรถไฟเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ประธานาธิบดีปฏิเสธที่จะพิจารณาร่างกฎหมายนี้ใหม่ โดยให้เหตุผลว่าการเพิ่มอายุเกษียณนั้น“จำเป็น”เพื่อไม่ให้ระบบประกันสังคมของฝรั่งเศสล่มสลาย
สหภาพแรงงานไม่เห็นด้วยโดยโต้แย้งว่าระบบอาจถูกกระตุ้นโดยการปรับขึ้นภาษีนิติบุคคล นักสหภาพแรงงานคนหนึ่งบอกกับสกายนิวส์เมื่อวันพฤหัสบดีว่า “เราได้รับแจ้งว่าไม่มีเงินที่จะจ่ายบำเหน็จบำนาญ”และเสริมว่า“ไม่จำเป็นต้องรับเงินจากกระเป๋าของคนงาน มีบางส่วนอยู่ในกระเป๋าตุงของบรรดามหาเศรษฐี”
สหภาพแรงงานของฝรั่งเศสให้คำมั่นว่าจะจัดการนัดหยุดงานและการเดินขบวนประท้วงต่อไป โดยเรียกร้องให้มีการชุมนุมอีกทั่วประเทศในวันที่ ๑ พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันแรงงานสากล ฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของ Macron ทั้งปีกซ้ายและขวาได้สัญญาว่าจะร่วมชุมนุมต่อต้านของด้วยเช่นกัน โดยมารีน เลอเปง (Marine Le Pen) ผู้นำกลุ่ม National Rally ฝ่ายขวาเรียกร่างกฎหมายฉบับมาครงนี้ว่า “เป็นการแตกหักครั้งสุดท้ายระหว่าง Macron และชาวฝรั่งเศส”
ฝรั่งเศส ซึ่งเคยเป็นผู้ส่งออกไฟฟ้า กลับจะต้องพึ่งพาการนำเข้าไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งเยอรมนี เป็นจำนวนมาก เพื่อตอบสนองความต้องการภาคอุตสาหกรรมและครัวเรือนในฤดูหนาวหน้า ในขณะเดียวกัน เยอรมนีปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ๓ แห่งสุดท้ายเมื่อวันเสาร์ ซึ่งยุติการใช้พลังงานนิวเคลียร์เชิงพาณิชย์มากว่า ๖ ทศวรรษ แม้จะมีความกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับความมั่นคงทางพลังงานหลังการลดการจัดหาก๊าซของรัสเซีย แม้ต้องกลับมาพึ่งพาโรงไฟฟ้าถ่านหินเป็นอย่างมากก็ยังแก้ปัญหาโดยรวมไม่จบ
สถิติของเดสตาติส (Destatis)ระบุว่า เยอรมนีอาจกลายเป็นผู้ส่งออกไฟฟ้าสุทธิไปยังฝรั่งเศสเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี ๑๙๙๐ เป็นอย่างน้อย ทั้งสองประเทศยังต้องเผชิญชะตากรรมเหมือนกันทั้งปัญหาเศรษฐกิจรุมเร้า และการเมืองระส่ำระสายทั้งในกลุ่มอำนาจและภาคประชาชน
เยอรมนีไม่น้อยหน้าฝรั่งเศส เมื่อปชช.นับแสนประท้วงหยุดงานทั่วปท.รถไฟสนามบินอัมพาต ส่งผลกระทบต่อผู้ดำเนินการขนส่งระดับชาติดอยต์เช บาห์น (Deutsche Bahn) และการเดินทางของประชาชนซึ่งตรงกับชั่วโมงเร่งด่วนตั้งแต่เช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา
รถไฟขนส่งผู้โดยสารทั่วเยอรมนีหยุดให้บริการในเช้าวันศุกร์ ท่ามกลางการประท้วงทั่วประเทศที่ริเริ่มโดยสหภาพแรงงาน EVG ซึ่งเรียกร้องให้ขึ้นค่าจ้างพนักงานรถไฟ พร้อมกับการหยุดงานในลักษณะเดียวกันที่สนามบินหลักหลายแห่งของเยอรมันซึ่งเริ่มตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
คอสซิมา อินเจนเชย์(Cosima Ingenschay) สมาชิกคณะกรรมการบริหารของ EVG โต้แย้งว่า “ การเรียกประท้วงเวลานี้เพื่อแจ้งเตือนการนัดหยุดงานแบบจำกัดเวลา เราได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าเราไม่ต้องการให้ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสาร แต่ส่งผลกระทบต่อบริษัทต่างๆและรัฐบาล ”
การหยุดงานในวันศุกร์ส่งผลกระทบต่อรถไฟทั้งในเมืองรวมสายภูมิภาคและทางไกล ในขณะเดียวกัน การหยุดงานประท้วงโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่สนามบินในโคโลญจน์ ดุสเซลดอร์ฟ ฮัมบูร์ก และสตุตการ์ตกำลังดำเนินการอยู่ เนื่องจากพนักงานเรียกร้องขึ้นค่าจ้าง จากข้อมูลของสมาคมสนามบิน ADV ของเยอรมนี การหยุดงานดังกล่าวส่งผลกระทบต่อผู้โดยสาร ๔๕,๒๐๐ คนในวันพฤหัสบดีเพียงวันเดียว โดยตัวเลขดังกล่าวคาดว่าจะส่งผลกระทบถึงผู้โดยสาร ๑๐๐,๐๐๐ คนภายในสิ้นวันศุกร์
สหภาพแรงงานกำลังเจรจากับบริษัทราว ๕๐ แห่ง จนถึงตอนนี้ Deutsche Bahn ได้เสนอให้เพิ่มค่าแรงขึ้นอีก ๕% บวกกับการชำระเงินครั้งเดียวสูงถึง ๒,๕๐๐ยูโร ซึ่งเป็นข้อเสนอที่ EVG ปฏิเสธว่าไม่เพียงพอกับค่าครองชีพที่พุ่งกระฉูด และเงินเฟ้อสูงไม่ลด คาดว่าจะมีการเจรจาค่าจ้างอีกรอบในวันอังคารหน้า
