จากที่หลายทศวรรษที่ผ่านมาชาติมหาอำนาจระหว่างสหรัฐและรัสเซียพยายามต่อสู้กันในทุกๆด้าน ไม่เว้นกระทั่งด้านอวกาศที่เป็นข่าวสารเผยแพร่ไปทั่วโลกในการส่งมนุษย์หรือยานอวกาศขึ้นสู่จักรวาลนั้น
ล่าสุดวันนี้ 22 เมษายน 2566 Blockdit World Update ได้โพสต์ข้อความเปิดเผยถึงเรื่องราวของชาติมหาอำนาจในการส่งจรวดขึ้นสู่อวกาศไว้บางช่วงที่สำคัญว่า
“องค์การอวกาศแห่งชาติของรัฐบาล ที่มีศักยภาพปล่อยจรวดขนาดใหญ่จัมโบ้นำอุปกรณ์น้ำหนัก และปริมาณมาก ออกไปนอกโลกได้ คือ จรวดโซยุซ ของรัสเซีย และจรวดลองมาร์ช ของจีน เพียง 2 ชาติเท่านั้น
ที่ผ่านมาหลายสิบทศวรรษ NASA สหรัฐ ยังไม่มีศักยภาพผลิตเครื่องยนต์จรวดขับดันด้วยตนเอง เบื้องหลังความสำเร็จแท้จริงผลงานด้านอวกาศตลอดมาคือ ขอซื้อเครื่องยนต์ฯ จากรัสเซียราว 110 เครื่อง
แต่เมื่อสหรัฐคว่ำบาตร รัสเซีย ก็เลยตอบโต้ประกาศไม่ขายเครื่องยนต์ใหม่ ไม่ยอมบำรุงรักษาเครื่องยนต์เก่า ส่งผลให้ NASA เหลือที่พึ่งสุดท้ายแห่งเดียวคือ จรวดขับดันบริษัท SpaceX ใช้ยาน Falcon นำมนุษย์อวกาศ และขนอุปกรณ์น้ำหนักเล็กน้อยไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ ISS ที่รัสเซียเป็นหัวหน้าควบคุม
จรวดขับดันขนาดจัมโบ้โซยุซ ของรัสเซีย และลองมาร์ซ ของจีน สามารถบรรทุกสิ่งของขนาดน้ำหนัก ปริมาณมากหลายตันขึ้นสู่อวกาศ เปรียบเสมือน เรือบรรทุกเครื่องบินลำใหญ่ สำเร็จมานานหลายสิบปี โดยไม่เคยระเบิดแม้แต่ครั้งเดียว
แต่จรวด Falcon บริษัท SpaceX สหรัฐ ไม่สามารถทำแบบนั้นได้ เปรียบเสมือน เรือยอร์ชลำเล็ก ดังนั้น สหรัฐ จึงจะเลียนแบบโดยการสร้างจรวดยักษ์ Starship คาดหวังให้เป็นเสมือนเรือบรรทุกเครื่องบิน
การพัฒนาจึงยากกว่าจรวดขนาดเล็กหลายเท่า ใช้งบประมาณ เวลา เทคโนโลยีสูง เครื่องยนต์จำนวนมาก เพื่อจะทำให้ยานอวกาศทุกชิ้นสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
สหรัฐ คุยโวว่ามีภารกิจ Artemis III จะส่งมนุษย์อวกาศ 2 คนตัวเป็นๆ ไปดวงจันทร์ในปี 2568 โดยอยู่ระหว่างการฝึกฝน และถ่ายทอดสดโชว์พาวครั้งใหญ่ในรอบกว่า 50 ปี และยังคุยโวว่าจะสร้างสถานีที่อยู่อาศัยถาวรที่ขั้วใต้ดวงจันทร์ แข่งขันกับจีน และรัสเซีย ในการทำเหมืองแร่พลังงาน เช่น Helium-3
ล่าสุดบริษัท SpaceX ของ Elon Musk บริษัทเอกชน ความหวังสุดท้ายที่ของ NASA สหรัฐ ในการนำมนุษย์ออกสู่อวกาศ ได้ทดสอบปล่อยจรวด Starship
เป็นจรวดบรรทุกของหนักที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยสร้างมาใช้เครื่องยนต์ Raptor ระบบ Super Heavy booster มากถึง 33 ตัว ปล่อยขึ้นจากฐาน Launchpad ในเมือง Boca Chica รัฐ Texas โดยมีประชาชนจำนวนมากมาเฝ้ารอดู ริมผืนน้ำแหงนหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าโดยถือกล้องและโทรศัพท์คอยถ่ายภาพ
บริษัท SpaceX ของ Elon Musk หวังว่าการทดสอบปล่อยจรวดครั้งนี้จะบรรลุผลนำไปสู่การรับจ้าง NASA นำการเดินทางมนุษย์ และอุปกรณ์หนักไปอวกาศ ดวงจันทร์ ดาวอังคาร ในอนาคต
เครื่องยนต์ถูกจุดระเบิดเป็นควันไฟ ฝุ่น และควันขนาดใหญ่พายาน Starship ลอยขึ้นจากผิวโลก จรวดผ่านช่วงความดันอากาศพลศาสตร์สูงสุด ซึ่งเป็นหนึ่งในช่วงเวลาสำคัญสำหรับการปล่อยจรวด
แต่แล้วเกิดเรื่องช็อคขึ้นเมื่อจรวดเทพทรงพลังที่สุดของมนุษยชาติ (อีกแล้ว) พุ่งขึ้นไปได้แค่ 4 นาที สูง 24 ไมล์ ไม่ถึงความสูงที่ตั้งเป้า ก็พบความผิดปกติ เครื่องยนต์หลายตัวที่ส่วนล่างของยานล้มเหลวไม่ทำงาน
ตัวเสริมแรงแบบ Super Heavy เครื่องยนต์ที่เหลือจึงโหลดน้ำหนักมากเกินไปสำหรับระบบนำทางที่จะชดเชย และยานเริ่มหมุนเกลียว เสียการทรงตัว
จากนั้นระบบยุติการบินอัตโนมัติก็ทำลายจรวด เกิดระเบิดตูมขึ้นกลางอากาศ แตกกระจายเป็นลูกไฟตกลงมาเหนืออ่าวเม็กซิโก ไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คาดหวัง”