โลกมุสลิมเคลื่อนไหวอย่างคึกคักในการหันหน้าเข้าหากันเพื่อแก้ไขปัญหาที่หมักหมมมากว่าศตวรรษ ด้วยบทบาทที่โดดเด่นของมกุฎราชกุมาร เจ้าชายบินซัลมานหรือ MBS แห่งซาอุดีอาระเบียส่งสัญญาณว่า เมกาและอิสราเอลจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามอำเภอใจได้ง่ายๆ เมื่อดุลอำนาจในภูมิภาคนี้เปลี่ยนแปลง
วันที่ ๒๑ เม.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า แหล่งข่าวจากผู้เกี่ยวข้องเปิดเผยว่า คณะผู้แทนกลุ่มฮามาส โดยการนำของนายอิสมาอีล ฮะนีเยห์ และคาลิด มัชอัล ได้เดินทางเยือนประเทศซาอุดีอาระเบีย เพื่อพบปะหารือกับเจ้าหน้าที่กรุงริยาด
อิสมาอีล ฮะนีเยห์ ผู้อำนวยการสำนักงานฝ่ายการเมืองขบวนการเคลื่อนไหวอิสลามฮามาส เป็นผู้นำคณะในครั้งนี้
แหล่งข่าวยังเปิดเผยว่า มูซา อะบูมัรซูก เจ้าหน้าที่ฝ่ายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของกลุ่มฮามาสและคาลิด มัชอัล ผู้นำกลุ่มฮามาสนอกปาเลสไตน์ เป็นสมาชิกที่ร่วมคณะครั้งนี้
พวกเขาเน้นย้ำให้เห็นว่า การเดินทางเยือนนี้ สามารถที่จะเป็นการเริ่มต้นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มฮามาสกับฝ่ายซาอุดีอาระเบีย
ขณะเดียวกันมะห์มูด อับบาสผู้นำการปกครองตนเองของปาเลสไตน์ ได้เข้าพบมกุฏราชกุมารซาอุดีอาระเบีย ณ กรุงเจดดาห์ในเวลาใกล้เคียงกันด้วย
นายมะห์มูด อับบาส ได้เข้าพบปะเจ้าชายมูฮัมหมัด บิน ซัลมาน มกุฏราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย โดยหารือกรณีสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของภูมิภาคและปาเลสไตน์
ในขณะที่โลกมุสลิมขับเคลื่อนอย่างคึกคักด้วยฝีมือของมกุฎราชกุมาร เจ้าชายบินซัลมาน หรือ MBS ส่งรัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย เยือนซีเรีย พบประธานาธิบดีบัชชาร์ อัล อัสซาดเปิดเผยท่าทีเลือกข้างซีเรียอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน
เจ้าชายฟัยซาล บิน ฟัรฮาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อช่วงบ่ายของวันอังคารที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้เข้าพบปะประธานาธิบดีบัชชาร อัลอัสซาด ผู้นำซีเรีย เป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของซาอุดีอาระเบียเยือนซีเรีย หลังจากเกิดสงครามกลางเมืองในซีเรีย เมื่อปีที่ ๒๐๑๑
ขณะที่ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายฟัยซาล อัลมิกดาด รัฐมนตรีต่างประเทศซีเรีย ได้เดินทางเยือนประเทศซาอุดีอาระเบียและเข้าพบปะหารือกับเจ้าหน้าที่ของซาอุดีอาระเบียอีกเช่นกันด้วย
งานนี้เมกาฯหนาวๆร้อนๆ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติทำเนียบขาว ได้โทรศัพท์ถึงมกุฏราชกุมาร ซาอุดีอาระเบีย ถกประเด็นอิหร่านและการสิ้นสุดสงครามในเยเมน ทั้งๆที่MBSเดินหน้าไปไกลแล้ว
นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทําเนียบขาว ได้หารือทางโทรศัพท์กับมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยหารือประเด็นอิหร่านและการสิ้นสุดสงครามในเยเมน เมกาพยายามสร้างภาพว่าการเคลื่อนไหวของซาอุดีอาระเบียอยู่ภายใต้สายตาของเมกาซึ่งสวนทางความจริงอย่างมาก
ท่าทีของซาอุดีอาระเบียต่ออิหร่านยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เร่งฟื้นสัมพันธ์มากกว่าเดิม บิน ฟัรฮาน พูดคุยกับ อมีร อับดุลลอฮิยอน รมว.ต่างประเทศอิหร่านว่า ซาอุดิอาระเบียจะจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นแก่ผู้แสวงบุญชาวอิหร่าน และไม่ต้องใช้วีซ่าในการเดินทางเข้าไปแสวงบุญอีกแล้ว
ในการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่าง อมีร อับดุลลอฮิยอน กับ พันธมิตรชาวซาอุดีอาระเบียของเขา ในขณะที่แสดงความยินดีกับ อีดุลฟิตรีนั้น รัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศอิหร่านได้ประเมินการประชุมล่าสุดระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านและซาอุดีอาระเบีย รวมถึงการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทางเทคนิคระหว่างอิหร่านและซาอุดีอาระเบีย และกล่าวเสริมว่า : เพื่อนร่วมงานของฉันในกระทรวงการต่างประเทศและคณะผู้แทนของริยาดและเจดดาห์กำลังพยายามเปิดสถานทูตและสถานกงสุลใหญ่ของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านในซาอุดีอาระเบียอีกครั้งก่อนวันฮัจญ์
ในการสนทนาทางโทรศัพท์นี้ ขณะที่แสดงความยินดีกันในโอกาสวันอีด รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดิอาระเบียยังได้แสดงความหวังว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองประเทศจะพบกันเร็วๆ นี้ในกรุงริยาดและเตหะราน
รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบียกล่าวว่าซาอุดีอาระเบียจะจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นสำหรับผู้แสวงบุญชาวอิหร่าน และเปิดสถานทูตและสถานกงสุลใหญ่ในกรุงริยาดและเจดดาห์อีกครั้งโดยเร็ว
ด้านอิสราเอล นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ยักไหล่ไม่แสดงความกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่านที่เป็นศัตรูตัวฉกาจ โดยบอกกับสื่อสหรัฐฯ เมื่อวันพุธว่าริยาดไม่มีภาพลวงตาเกี่ยวกับคนที่ไว้ใจได้
เขากล่าวว่าการฟื้นฟูความสัมพันธ์ของซาอุดีอาระเบียกับอิหร่านนั้น “น้อยมาก” ที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอล และส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการลดความตึงเครียดในภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเยเมน
แต่เมื่อถูกถามว่าทำไมริยาดจึงฟื้นฟูความสัมพันธ์กับซีเรียและเป็นเจ้าภาพต้อนรับผู้นำกลุ่มฮามาสและเจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์ เนทันยาฮูให้เหตุผลว่าการเคลื่อนไหวเหล่านั้นมีขึ้นเพื่อส่งข้อความถึงพวกเขาก่อนข้อตกลงสันติภาพกับอิสราเอลจะเกิดขึ้นตามว่า ประมาณว่าซาอุดีอาระเบียจะเป็นตัวกลางช่วยอิสราเอลซะงั้น
เขากล่าวว่า “บางทีเพื่อบอกพวกเขาจะต้องเตรียมตัว ซาอุดีอาระเบียอาจจะพยายามบอกให้พวกเขาหยุดทำสิ่งที่น่ากลัวที่พวกเขาปลุกระดม” พูดปลอบใจตัวเองมากกว่า เพราะส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ จากที่ทำหยิ่งว่าจะสู่เองไม่ว่าสหรัฐฯจะช่วยหรือไม่
เนทันยาฮูระบุว่า อิหร่านเป็นตัวปัญหาของภูมิภาคประเทศต่างๆ เช่น เยเมน ซีเรีย และเลบานอน ซึ่ง “เป็นพันธมิตรกับอิหร่าน เป็นพันธมิตรกับความทุกข์ยาก”
เนทันยาฮูย้ำความเชื่อของเขาที่ว่า การที่อิหร่านและฮามาสมีสันติภาพกับซาอุดีอาระเบียจะยุติความขัดแย้งกับอิสราเอลไปด้วยในที่สุด แม้ว่าเขาจะยอมรับว่ามันจะไม่แก้ปัญหาความขัดแย้งกับชาวปาเลสไตน์แต่อย่างใด เนทันยาฮูคงแกล้งทำไม่ได้ยินว่า เจ้าชายอาหรับ MBS ประกาศยืนเคียงข้างปาเลสไตน์ไปเมื่อไม่นานมานี้!!??