ผิดแผนเจ๊งเอง!? ยักษ์หลักทรัพย์ซัดเมกาเสียฐานะเงินสำรองโลก รมว.คลังปูดเองไบเดนทำลายศก.เมกาเพื่อขยี้จีน

0

สหรัฐฯจอมคว่ำบาตรตายน้ำตื้น หวังจะทำลายล้างคู่แข่งทั้งรัสเซียและจีน ผลสะท้อนกลับอาการสาหัสกว่าที่คาด จึงเกิดเรื่องเซอร์ไพรซ์จากรมว.คลังสหรัฐฯถี่ๆวันก่อนยอมรับว่าอำนาจดอลลาร์ตกต่ำ วันนี้ออกมาให้สัมภาษณ์อีกว่า ปธน.โจ ไบเดน เต็มใจที่จะสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เพื่อตอบโต้จีน ทั้งยอมรับว่าการปกป้องความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกาอาจมีต้นทุนทางเศรษฐกิจมหาศาล พร้อมกับย้ำเตือนว่าโอกาสผิดนัดชำระหนี้ยังน่าเป็นห่วง แต่โดยรวมก็แก้ตัวให้รัฐบาลว่า ทำไปเพราะจีนเป็นต้นเหตุ สะท้อนมุมมองของเมกาและตะวันตกที่เคยชินกับการเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล รับไม่ได้ที่ประเทศอื่นจะก้าวหน้ามากกว่าตน

วันที่ ๒๑ เม.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์รายงานว่า เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยว่า “ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ยอมหยุดอยู่กับที่เพื่อปกป้องอเมริกาจากภัยคุกคามด้านความมั่นคงที่เกิดจากจีน แม้ว่าการกระทำที่เขาต้องสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศตนเองก็ตาม” 

เยเลนย้ำว่า “ความมั่นคงของชาติมีความสำคัญสูงสุดในความสัมพันธ์ของเรากับจีน”เยลเลนกล่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมาในกรุงวอชิงตัน เธอยกตัวอย่างการปิดกั้นจีนจากการได้รับเทคโนโลยีบางอย่าง และเสริมว่า“เราจะไม่ประนีประนอมกับข้อกังวลเหล่านี้ แม้ว่าพวกเขาจะบังคับให้ต้องแลกกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของเราก็ตาม”

เยลเลนกล่าวหาจีนว่าปฏิบัติทางเศรษฐกิจที่ “ไม่ยุติธรรม” และ “ใช้ท่าทีเผชิญหน้ามากขึ้น”ต่อสหรัฐฯ และพันธมิตรในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา วอชิงตันมี“ชุดเครื่องมือมากมาย”เพื่อจัดการกับภัยคุกคามด้านความมั่นคงจากจีน เช่น การควบคุมการส่งออกและการคว่ำบาตรต่อหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนกองทัพปลดปล่อยประชาชน (PLA)

“กระทรวงการคลังมีมาตรการคว่ำบาตรเพื่อจัดการกับภัยคุกคามที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยทางไซเบอร์และการหลอมรวมกันทางทหารและพลเรือนของจีน”เยลเลนกล่าวเสริมว่า  “เรายังตรวจสอบการลงทุนต่างประเทศอย่างรอบคอบในสหรัฐฯ สำหรับความเสี่ยงด้านความมั่นคงของประเทศ และดำเนินการที่จำเป็นเพื่อจัดการกับความเสี่ยงดังกล่าว และเรากำลังพิจารณาโครงการที่จะจำกัดการลงทุนขาออกของสหรัฐฯ ในเทคโนโลยีที่มีความละเอียดอ่อนเฉพาะเจาะจง โดยมีนัยยะสำคัญต่อความมั่นคงของชาติ”

ฝ่ายบริหารของ Biden ได้ดำเนินการเพื่อปิดกั้นบริษัทจีนจากการรักษาความปลอดภัยของเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง เช่น การจำกัดการส่งออกอุปกรณ์การผลิตชิป เยลเลนยืนยันว่าวอชิงตันไม่ได้ดำเนินการดังกล่าวเพื่อให้ได้มาซึ่งความได้เปรียบทางเศรษฐกิจหรือขัดขวางการเติบโตและความทันสมัยของจีน

เยลเลนยังตำหนิจีนที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนและกล่าวหาว่าสนับสนุนรัสเซียอย่างไม่มีขีดจำกัด ท่ามกลางวิกฤตยูเครน เธอเตือนว่าผลที่ตามมาจะรุนแรงหากจีนให้การสนับสนุนด้านวัตถุหรือช่วยรัสเซียหลบเลี่ยงการคว่ำบาตร และเธอเสริมว่าสหรัฐฯ จะใช้ “ เครื่องมือ” ของตน เพื่อยับยั้งการละเมิดสิทธิมนุษยชน“หลักการนี้เป็นพื้นฐานของวิธีที่เรามีส่วนร่วมกับโลก”

สรุปว่าที่สหรัฐฯทำทั้งหมดล้วนถูกต้อง รัสเซียและจีนต่างหากที่ผิด ไม่ได้สำนึกเลยสักนิดว่านานาชาติทั่วโลกต่างไม่ได้คิดเช่นนั้น วันนี้จึงได้เห็นการหันหลังให้สหรัฐฯ เทดอลลาร์ ทิ้งเงินสำรองดอลลาร์ไปถือทองคำมากขึ้นอย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน

เยลเลนยอมรับเมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่าการที่วอชิงตันใช้ประโยชน์จากระบบการเงินโลกเพื่อคว่ำบาตรประเทศอื่น ๆ อาจลดบทบาทของเงินดอลลาร์สหรัฐในฐานะสกุลเงินสำรองของโลก เมื่อถูกถามเกี่ยวกับ“การใช้สกุลเงินสหรัฐฯเป็น อาวุธ” เธอบอกกับ CNN ว่ากลยุทธ์ดังกล่าว“อาจบ่อนทำลายอำนาจของเงินดอลลาร์”

สตีเฟน เจน(Stephen Jen) ซีอีโอของ Eurizon บริษัทจัดการสินทรัพย์ในลอนดอน เตือนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า การคว่ำบาตรรัสเซียได้เร่งให้เงินดอลลาร์เสื่อมค่า นานาชาติเคลื่อนตัวออกจากเงินดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก

ส่วนแบ่งเงินสำรองทั่วโลกของสกุลเงินสหรัฐฯ ลดลงเร็วกว่าปีที่แล้วถึง ๑๐ เท่าเมื่อเทียบกับ ๒๐ ปีก่อนหน้านี้ 

กระบวนการดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นเมื่อบางประเทศเริ่มมองหาทางเลือกอื่นหลังจากเห็นทรัพย์สินของรัสเซียถูกแช่แข็งในต่างประเทศ และประเทศถูกตัดขาดจากระบบการส่งข้อความทางการเงินทั่วโลกที่รู้จักกันในชื่อ SWIFT 

เจน(Jen) และโจอานา เฟรเร (Joana Freire) เพื่อนร่วมงาน Eurizon ของเขาเขียนไว้ในบันทึก เมื่อปรับตาม ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่ “รุนแรง”ในปีที่แล้ว ค่าเงินดอลลาร์สูญเสียส่วนแบ่งตลาดไปประมาณ ๑๑% ตั้งแต่ปี ๒๐๑๖ ที่จริงเพิ่มขึ้นสองเท่ามาตั้งแต่ปี ๒๐๐๘

เงินดอลลาร์ประสบกับการล่มสลายอย่างน่าทึ่งในปี ๒๕๖๕ ในส่วนแบ่งการตลาดในฐานะสกุลเงินสำรอง ซึ่งสันนิษฐานว่าเกิดจากการใช้มาตรการคว่ำบาตรอย่างหนัก” บันทึกระบุว่า “การกระทำพิเศษของสหรัฐฯ และพันธมิตรต่อรัสเซียทำให้ประเทศที่ถือครองทุนสำรองขนาดใหญ่ต้องตกใจ” ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ 

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า “ขณะนี้เงินดอลลาร์คิดเป็นประมาณ ๕๘% ของเงินสำรองทั่วโลกทั้งหมด ลดลงจาก ๗๓% ในปี ๒๐๐๑ ถือเป็น”เงินสำรองที่มีอำนาจเหนือโลกอย่างเถียงไม่ได้”

จีน ซาอุดีอาระเบียและอินเดียกำลังดำเนินการเพื่อใช้สกุลเงินของตนเองเพื่อชำระการค้าระหว่างประเทศ ในขณะที่รัสเซียเริ่มรับชำระเงินสำหรับการส่งออกจากหลายประเทศในสกุลเงินรูเบิลและหยวนของจีน และเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ของบราซิล เรียกร้องให้ประเทศกำลังพัฒนาเลิกใช้เงินดอลลาร์สหรัฐและเปลี่ยนไปใช้สกุลเงินของตนเองท่ามกลางเสียงตอบรับของกลุ่มประเทศละตินอเมริกาอย่างคึกคัก

ผลของสงครามเศรษฐกิจยกแรก ระหว่างโลกขั้วเดี่ยวแองโกลแซกซอนที่มีสหรัฐฯเป็นแกนนำ กับโลกหลายขั้วที่มีรัสเซีย-จีนเป็นแกนนำ ช่วงระยะเวลา ๑ ปีของปฏิบัติการพิเศษทางทหารของปูติน ส่งผลถล่มบทบาทของเงินดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินสำรองของโลกลดน้อยลงกว่าครึ่ง ฉีกหน้ากากเมกาที่ใช้ประโยชน์จากระบบการเงินโลกเพื่อบรรลุเป้าหมายทางภูมิ

รัฐศาสตร์ ผ่านการคว่ำบาตรอย่างชัดเจน บุมเมอแรงทางเศรษฐกิจได้ย้อนใส่เมกาและยุโรปอย่างน่าตกใจ แม้กระนั้นเมกาก็ยังยืนยันจะทำกับจีน ส่งสัญญาณจะยอมเชือดเศรษฐกิจมะกัน เพื่อทำลายจีน แบบนี้เรียกว่าเมกาไม่สรุปบทเรียน หรือบ้าคลั่งเพราะจนตรอกกันแน่!!??