เมกาตาแหก!? รัสเซียเดินสายคุยกลุ่มละตินฯเดินหน้าเทดอลลาร์ บราซิล-คิวบา-นิการากัว กระชับศก.ความั่นคง

0

ลุงแซ่บของรัสเซีย เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียเดินทางถึงเมืองหลวงของบราซิลแล้ว ตามกำหนดทัวร์เดินสายพบเพื่อoย่านละตินอเมริกาแบบยาวไป ดูเหมือนว่าผู้นำประเทศละตินไม่ใช่กลุ่มโปรอเมริกาเสียเป็นส่วนใหญ่ นอกจากบราซิลแล้ว ก็จะไปเยือนคิวบา เวเนซุเอลาและนิการากัว เล่นเอาเมกาหน้าสั่น เมื่อรัสเซียตีท้ายครัวแบบเน้นๆ ไม่แน่อาจได้เห็นขีปนาวุธของรัสเซียมาวางแถวๆนี้อีกครั้งเมื่อกระแสสงครามพีคถึงขีดสุด

วันที่ ๑๘ เม.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวทาซซ์และสปุ๊ตนิกรายงานว่า คณะผู้แทนของรัสเซียและบราซิลซึ่งนำโดยรัฐมนตรีต่างประเทศได้จัดการหารือกันในเช้าวันจันทร์ ที่ผ่านมา ณ ที่ตั้งของกระทรวงการต่างประเทศในเมืองหลวงของบราซิล

เมาโร วิเอรา รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของบราซิลกล่าวว่าการลงโทษทางเศรษฐกิจฝ่ายเดียวที่กำหนดต่อรัสเซียโดยไม่ผ่านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเป็นอันตรายต่อประเทศกำลังพัฒนา

“ผมย้ำกับรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ ถึงจุดยืนของบราซิลในการคว่ำบาตรฝ่ายเดียว นอกจากไม่ได้รับการประสานงานกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติแล้ว ยังส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งหลายประเทศยังไม่หายจากโรคระบาด” นักการทูตระดับสูงกล่าวในการแถลงข่าวหลังจากพูดคุยกับเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ

Lavrov จะเข้าพบประธานาธิบดีลูอิส อินาซีโอ ลุลา ดาซิลวา (Luiz Inacio Lula da Silva) ของบราซิล นอกจากนี้ รัฐมนตรีรัสเซียยังจะได้พบกับที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศซึ่งเป็นอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของบราซิล เซลโซ อโมริม

ลาฟรอฟ อธิบายว่าเป็น “พัฒนาการใหม่ของความร่วมมือระดับภูมิภาค”เชิงคุณภาพ

นักการทูตชั้นนำของรัสเซียจะพบกับคู่หูชาวบราซิลมาอูโร วีเอียรา(Mauro Vieira)และยวาน กิล ปินโต(Yvan Gil Pinto)แห้่งเวเนซุเอลาและยังมีกำหนดจะนั่งคุยกับเพื่อนร่วมงานชาวคิวบาบรูโน โรดริเกส พาร์ริลลา (Bruno Rodríguez Parrilla) และเดนิส มอนคาดา (Denis Moncada) รัฐมนตรีต่างประเทศนิการากัวด้วย

ลาฟรอฟได้สรุปหัวข้อที่น่าจะเน้นย้ำถึงวาระการประชุมของเขากับรัฐมนตรีต่างประเทศของสี่ประเทศในลาตินอเมริกา ระบุในบทความของเขาสำหรับหนังสือพิมพ์บราซิลฟอลฮา เดเซาเปาโล(Folha de Sao Paulo)และนิตยสารบูซอส(Buzos)ของเม็กซิโก ซึ่งตีพิมพ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว 

เขาย้ำว่า “มอสโกว์ยืนหยัดอย่างต่อเนื่องในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างรัสเซียและละตินอเมริกาบนพื้นฐานของการสนับสนุนซึ่งกันและกัน ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และการคำนึงถึงผลประโยชน์ของกันและกัน” “ความสัมพันธ์ของเรากับหลายประเทศในภูมิภาคกำลังพัฒนาตามแนวทางนี้ ด้วยจิตวิญญาณของการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์”

ลาฟรอฟย้ำว่ารัสเซียยังเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ในละตินอเมริกาและแคริบเบียน “เข้มแข็ง มีเอกภาพทางการเมือง และมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ”

ลาฟรอฟระบุว่า “การสร้างพื้นที่สำหรับการเดินทางร่วมกันโดยไม่ต้องใช้วีซ่า” ปัจจุบันครอบคลุม ๒๗ รัฐของละตินอเมริกาและแคริบเบียน เขากล่าวว่า “อเมริกาใต้ทั้งหมดและเกือบทั้งหมดของอเมริกากลาง กลายเป็นวีซ่าฟรีสำหรับพลเมืองรัสเซีย”

เขายังกล่าวว่า “ภูมิทัศน์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเปิดโอกาสใหม่สำหรับการพัฒนาความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันระหว่างรัสเซียและประเทศในละตินอเมริกาซึ่งกำลังมีบทบาทโดดเด่นมากขึ้นในการสร้างระเบียบโลกแบบหลายขั้ว”

ลาฟรอฟชี้ให้เห็นว่า “ความร่วมมือของเรากับประเทศในละตินอเมริกานั้นขึ้นอยู่กับแนวทางเชิงปฏิบัติที่ปราศจากอุดมการณ์ ซึ่งไม่ได้มุ่งร้ายต่อใคร ไม่เหมือนมหานครที่เคยเป็นอาณานิคมในอดีต เราไม่แบ่งพันธมิตรเป็นเพื่อนหรือศัตรู และเราไม้ท้าทายพวกเขาด้วยทางเลือกเทียมให้เลือกว่าจะอยู่ข้างเราหรือต่อต้านเรา” 

นักการทูตชั้นนำของรัสเซียเน้นย้ำถึงความสำคัญของการใช้ประโยชน์สูงสุดจาก ธรรมชาติที่เกื้อกูลกันของเศรษฐกิจของทั้งสองฝ่าย  “เพื่อยกระดับพันธมิตรทางเทคโนโลยีที่เต็มเปี่ยม และเปลี่ยนไปใช้สกุลเงินของประเทศ แทนการใช้เงินดอลลาร์หรือยูโรเมื่อทำธุรกรรม โดยเราจะร่วมมือกันให้เป็นจริงอย่างมั่นคง”

นอกจากนี้ ลาฟรอฟยังยกย่องความพยายามของรัสเซียในการมีส่วนร่วมในการแก้ไข “ปัญหาการพัฒนาระหว่างประเทศในภูมิภาค” เขาเสริมว่าเพื่อช่วยประเทศในละตินอเมริกาเพิ่มความมั่นคงของพลเรือน ผู้เชี่ยวชาญของรัสเซียได้ฝึกอบรม “บุคลากรมืออาชีพสำหรับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายแห่งชาติ” และช่วยประเทศต่างๆ เอาชนะผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง

แม้ชาติตะวันตกจะคว่ำบาตรรัสเซียและกดดันทางการเมือง และแม้กระทั่งขู่กรรโชกต่อมอสโก แต่ปีที่แล้วรัสเซียส่งออกไปยังละตินอเมริกาและแคริบเบียนเพิ่มขึ้น ๓.๘% การเพิ่มขึ้นของการส่งมอบปุ๋ยและผลิตภัณฑ์น้ำมันของรัสเซียไปยังภูมิภาคนี้โดยเฉพาะในปี ๒๕๖๕ รัสเซียเพิ่มการส่งออกข้าวสาลีในภูมิภาคนี้ถึง ๔๘.๘%