ทะเลจีนใต้เดือดคลั่ก!! จีนส่งบินรบ ๓๕ ลำลั่นปิดน่านฟ้าเหนือไต้หวัน พรรครัฐบาลไทเปส่งหัวหน้าพรรคชิงปธน.เทไช่

0

ไต้หวันเฝ้าประกาศซ้อมรบเพื่อเป็นการเฝ้าระวัง หลังจีนต่อเวลาซ้อมรบออกไปอีก ๑๒ วันหลักจบซ้อมปฏิบัติการล้อมเกาะ ตอบโต้เมกาใช้ไช่อิงเหวินในหมากเกมยั่วยุจีน ล่าสุดโดนจีนประกาศ “เขตห้ามบิน” นานสามวันเหนือน่านฟ้าไต้หวัน ด้วยเครื่องบินรบ ๓๕ ลำคุมท้องฟ้าเบ็ดเสร็จ

รัฐบาลไทเปกล่าวว่า จีนเตรียมปิดน่านฟ้าบางส่วนของเกาะไต้หวัน นาน ๓ วัน ตั้งแต่ ๑๖-๑๘ เมษายนนี้ คาดจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อบริการเที่ยวบินพาณิชย์ เท่ากับจำลองสถานการณ์สงครามให้ดูว่าจะส่งผลต่อชีวิตของชาวไต้หวันอย่างไรบ้าง แต่ทางการจีนกลับไม่ยืนยันทำให้นักวิเคราะห์มองว่าข่าวนี้ปล่อยจากทางไต้หวันเพื่อวัตถุประสงค์บางประการ ต้องติดตามต่อไปว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น

วันที่ ๑๓ เม.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวทาซซ์และโกลบัลไทมส์ รายงานว่าการฝึกซ้อมทางทหารจัดขึ้นเพื่อตอบโต้การที่ไช่ อิงเหวิน ผู้นำระดับภูมิภาคของไต้หวันเดินทางผ่านสหรัฐฯ และการพบกับเควิน แม็กคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 5 เมษายน ฝ่ายสหรัฐฯอ้างถึงความจำเป็นของการขายอาวุธให้ไต้หวันต่อไป กระทรวงต่างประเทศของจีนแสดงการประท้วงอย่างแน่วแน่ต่อเรื่องนี้ โดยอ้างว่าปักกิ่งจะใช้มาตรการตอบโต้ที่มีประสิทธิภาพและเด็ดขาด

กระทรวงกลาโหมไต้หวันเปิดเผยว่า เครื่องบิน ๓๕ ลำและเรือ ๘ ลำที่เป็นของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) ในบริเวณใกล้เคียงเกาะเมื่อวันพุธที่ผ่านมา

จากข้อมูลดังกล่าว เครื่องบิน ๑๕ ลำได้ข้ามเส้นกึ่งกลางของช่องแคบไต้หวัน และเข้าสู่เขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศทางตะวันตกเฉียงใต้ของไต้หวัน พวกเขารวมถึงเครื่องบินรบ Su-30, J-16 และ J-10, โดรนลาดตระเวน BZK-005 ตลอดจนโปรแกรมเตือนภัยและควบคุมทางอากาศ KJ-200 

ในการตอบสนอง กองทัพไต้หวันพยายามลาดตระเวนทางอากาศ ออกคำเตือนทางวิทยุ และติดตั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศเตรียมพร้อม

PLA ส่งเรือและเครื่องบินไปยังพื้นที่ใกล้เคียงของไต้หวันเป็นประจำ ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่แย่ลงระหว่างทั้งสองฝ่ายหลังจากการเยือนของประธานสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกา Nancy Pelosi เมื่อวันที่ ๒-๘ สิงหาคม ๒๐๒๒ 

ต่อมา ไต้หวันได้รับการเยือนโดยคณะผู้แทนอื่นๆจากตะวันตกอีกหลายคน รวมทั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติและเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ ปักกิ่งมองว่าการเยือนดังกล่าวเป็นการยั่วยุ แทรกแซงกิจการภายในของจีน และสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนชาวไต้หวัน

ไต้หวันเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของจีน ถูกปกครองโดยฝ่ายบริหารท้องถิ่นตั้งแต่ปี ๑๙๔๙ แต่ปักกิ่งถือว่าเกาะนี้เป็นหนึ่งในมณฑลของตน วอชิงตันยังคงเป็นผู้จัดหาอาวุธและยุทโธปกรณ์หลักขายให้ไต้หวัน ทั้งยังส่งนายทหารมาฝึกทหารเป็นที่ปรึกษาความมั่นคงแก่ผู้นำไทเป ขณะที่ปากพร่ำพูดว่ารับรองจีนเดียว

ความเคลื่อนไหวล่าสุดในไต้หวัน ขณะที่กระแสต่อต้านผู้นำ ปธน.ไช่ อิงเหวินเพิ่มสูงขึ้นทั้งในสภาฯ และในหมู่ประชาชนที่ออกหน้านำสหรัฐฯเข้ามามีบทบาทด้านความมั่นึคงของประเทศอย่างออกนอกหน้า

เพื่อลดกระแสต่อต้านพรรคแกนนำรัฐบาล ได้มีการประกาศชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งต่อไปในปีหน้าอย่างเป็นทางการโดยไม่เสนอ ไช่ อิงเหวินเข้าชิงชัย 

Taiwan Newsเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า นายไล่ ชิงเต๋อ รองประธานาธิบดีไต้หวัน หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) ได้รับการเสนอชื่อจากคณะกรรมการบริหารกลางของพรรค DPP ให้เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันในปี ๒๕๖๗ อย่างเป็นทางการ 

นายไล่ ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค DPP ตั้งแต่ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ลาออกจากตำแหน่งเมื่อ ๒๖ พ.ย.๒๕๖๕ หากพรรค DPP ชนะเลือกตั้ง จะทำให้พรรค DPP เป็นพรรคแรกที่มีสมาชิกได้เป็นประธานาธิบดี 2 สมัยติดต่อกัน

ทางด้านการทหาร ไต้หวันจะเปิดตัวการซ้อมรบขนาดใหญ่ประจำปีในวันพฤหัสบดีนี้ร่วมกับหน่วยงานด้านภัยพิบัติและกระทรวงกลาโหม รวมถึงรัฐบาลท้องถิ่น ปีที่แล้ว รัฐบาลได้ปรับปรุงการฝึกซ้อมเพื่อเตรียมพร้อมรับภัยพิบัติให้ครอบคลุมสถานการณ์ในช่วงสงครามมากขึ้น พวกเขากล่าวว่าในปีนี้ แนวโน้มดังกล่าวจะยังคงดำเนินต่อไปด้วยการเตรียมพร้อมทำสงคราม 

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เฉิน หว่านฮุย “สมาชิกสภานิติบัญญัติ” จากพรรค People First Party ของไต้หวันตั้งคำถามและวิพากษ์วิจารณ์เจ้าหน้าที่ DPP เกี่ยวกับการมาเยือนของพ่อค้าอาวุธชาวอเมริกัน โดยกล่าวว่าพวกเขาไม่ควรทำสงครามและทำให้ชาวไต้หวันตกอยู่ในสถานการณ์ที่ล่อแหลมอีกต่อไป ผู้สนับสนุนสันติภาพจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ บนเกาะกำลังออกมาต่อต้านการเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ DPP ที่สมรู้ร่วมคิดกับกองกำลังภายนอกและผลักดันสถานการณ์ในช่องแคบไต้หวันไปสู่อันตรายและความขัดแย้ง และผู้คนจำนวนมากขึ้นต้องเผชิญกับความจริง ส.ส.ฝ่ายค้านย้ำว่า “แก๊งค้าอาวุธสหรัฐ” นี้จะไม่มีวันได้รับการต้อนรับในไต้หวัน

สื่อโกลบัลไทมส์ ออกบทบรรณาธิการวิเคราะห์ว่า ทางการไต้หวันที่นำโดยพรรค DPP ของปธน.ไช่ อิงเหวินได้ “ส่งส่วยให้” วอชิงตันด้วยเงินจำนวนมากแล้ว แต่สหรัฐฯ ยังไม่พอใจอย่างชัดเจน ขณะนี้เชื่อแน่ว่าไต้หวันจะต้องใช้จ่ายมากขึ้นด้วยภาษีของประชาชนในการทุ่มซื้ออาวุธ สิ่งที่ไต้หวันขาดแคลนจริงๆ คือไข่ น้ำ และไฟฟ้า ไม่ใช่กระสุนหรือขีปนาวุธ สิ่งที่ต้องการคือสันติภาพและการพัฒนา ไม่ใช่สงครามและวิกฤต ยิ่งเจ้าหน้าที่ DPP “เต็มใจ” ที่จะใช้จ่ายเพื่อทำให้วอชิงตันพอใจ พวกเขาก็จะยิ่งขาดแคลนในแง่ของการดำรงชีวิตของผู้คน และความเสี่ยงที่พวกเขาจะนำมาสู่ช่องแคบไต้หวันก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น สิ่งนี้กลายเป็นวงจรอุบาทว์ที่คนไต้หวันจำเป็นต้องกำจัดโดยด่วน

จีนมีท่าทีมั่นใจมากว่าสามารถจัดการปัญหาไต้หวันได้อย่างเบ็ดเสร็จในทางทหารหากจำเป็น และสามารถรอเวลาของการระเบิดจากภายในของคนไต้หวันที่คุกรุ่นมากขึ้นทุกทีทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจ  อีกไม่กี่วันข้างหน้า กลุ่มนักธุรกิจค้าอาวุธของสหรัฐฯประกาศจะเดินทางมาไต้หวันด้วยข้อเสนอพิเศษในการจัดซื้ออาวุธขั้นสูง ต้องติดตามต่อไปอย่างไม่กะพริบตา เมื่ออเมริกาซ้อมรบใหญ่ทั้งกับเกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์ เผชิญหน้ากับจีนและเกาหลีเหนืออย่างท้าทาย ขณะที่จีนยังปักหลักรอบเกาะไต้หวันด้วยกองเรือพิฆาต และบินรบคุมฟ้าพร้อมชน!!??