กลาโหมรัสเซียรายงานถึง ตำแหน่งของกองทหารรัสเซียทำการรุกคืบก้าวหน้าขึ้นใน Ugledar, Maryinka เรื่องนี้ Denis Pushilin รักษาการผู้นำโดเนตสค์(DPR) เปิดเผยการปรับปรุงตำแหน่งของกองกำลังรัสเซียในทิศทางของทั้งสองเมืองและการตลุยหนักในทิศทางอัพเดียฟกา (Avdeyevka)
เขากล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ Channel One ของรัสเซียว่า “สำหรับแนวทางของมารียินกา สถานการณ์ที่นี่กำลังพัฒนาอย่างมีพลวัตมากขึ้น และเราสามารถพูดถึงการปรับปรุงตำแหน่งอย่างจริงจัง”
เขากล่าวว่ากองกำลังรัสเซียกำลังขับไล่ความพยายามโจมตีของยูเครนในทิศทาง Ugledar และยังคงปิดล้อม Avdeyevka โดยเส้นทางส่งเสบียงไปยังกองทัพยูเครนอยู่ภายใต้การควบคุมการยิงที่หนาแน่น
หัวหน้า DPR ยังยืนยันชัดว่าล่าสุดนี้ อาคารบริหารทั้งหมดใน Artyomovskหรือบัคมุต ถูกควบคุมโดยกองกำลังรัสเซียอย่างสมบูรณ์แล้ว Pushilin เน้นว่าเขาเคยไปที่ Artyomovsk เพื่อดูด้วยตาของเขาเอง และเสริมว่าเขาแทบไม่เห็นอาคารใดที่ไม่ได้รับความเสียหายร้ายแรงที่นั่น ซึ่งอาจต้อง “สร้างขึ้นใหม่” เพื่อใช้ในอนาคต
วันที่ ๑๒ เม.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวทาซซ์รายงานว่า เยฟเกนี ปริโกชิน(Yevgeny Prigozhin) ผู้ก่อตั้ง Wagner PMC กล่าวว่ากองกำลังรัสเซียควบคุมพื้นของเมืองมากกว่า ๘๐% และกำลังกวาดล้างข้าศึกซุ่มซ่อนอยู่ทางตะวันตกของเมือง
Prigozhin กล่าวตามวิดีโอตอบคำถามของสื่อที่โพสต์บนโซเชียลเน็ตเวิร์กของเขาในวันอังคารที่ผ่านมาว่า “ส่วนที่ใหญ่ที่สุดของ Bakhmut ซึ่งมากกว่า๘๐% รวมถึงศูนย์การบริหารทั้งหมด โรงงาน และการบริหารเมือง อยู่ภายใต้การควบคุมของเราเบ็ดเสร็จ”
มีรายงานว่า กองกำลังติดอาวุธของยูเครนกำลังเตรียมที่จะออกจากอาณาเขตของ Artemivsk (Bakhmut) สิ่งนี้รายงานโดยผู้สื่อข่าวสงครามของรัสเซีย โดยอ้างถึงข้อมูลที่ได้รับจากแหล่งข่าวของยูเครน โดยเฉพาะข้อความที่มาจากช่องเทเลแกรม”Military Chronicle”
รายงานจากฝั่งยูเครนว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะถูกปิดล้อม การก่อตัวของกองกำลังยูเครน ถูกปิดกั้นในพื้นที่ทางตะวันตกของทางรถไฟในพื้นที่ Pushkin Lane และ Ul โนซาคอฟ โดยไม่มีรถหุ้มเกราะและปืนใหญ่สนับสนุน ผู้บังคับบัญชาหน่วยติดต่อขอให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงให้การสนับสนุนปืนใหญ่ มิฉะนั้นจะออกจากตำแหน่งโดยพลการ
อีกด้านที่กำลังฮือฮา คือแนวรบด้านไครเมีย ที่ยูเครนจ้องจะเอาคืนเพื่อกู้หน้าและขอการสนับสนุนจากเมกา-นาโต้เพิ่ม ที่ขอหนักคือบินรบเพิ่อมาสู้กับรัสเซีย หากไม่ได้อ้างจะไม่มีทางชนะรัสเซียที่คุมน่านฟ้าในสมรภูมิสู้รบ
อันที่จริงต่อให้ได้บินรบเทพของนาโต้ ก็ไม่ได้มีหลักประกันแห่งชัยชนะเพราะแค่อาวุธยุทโธปกรณ์แม้สำคัญก็ยังไม่เท่านักรบ ทั้งความเชี่ยวชาญและความกล้าหาญที่พิสูจน์แล้วว่า รัสเซียเหนือกว่ากองกำลังเคียฟ-นาโต้อย่างเห็นได้ชัด
ประธานรัฐสภาไครเมียเปิดใจว่า ไม่ว่าเคียฟที่จะโจมตีในทิศทางไครเมียนี้จริงหรือไม่ การตัดสินใจสร้างแนวป้องกันในพื้นที่และบริเวณรอบนอกของคาบสมุทรนั้นถูกต้องและชอบธรรม
เซอร์เกย์ อักซีนอฟ หัวหน้าของไครเมีย(Crimea’s head Sergey Aksyonov) กล่าวว่า “เกี่ยวกับการโต้กลับของยูเครนในไครเมีย ซึ่งตอนนี้กลายเป็นหัวข้อที่ทุกคนพูดถึง มันผิดที่จะประเมินศัตรูต่ำไป แต่มันถูกต้องอย่างยิ่งที่จะบอกว่าเราพร้อมสำหรับมันและจะไม่มีหายนะ”
“ผมพูดได้เลยว่ากองทัพของเราได้สร้างการป้องกันที่ทันสมัยและเป็นชั้นๆ สำเร็จลุล่วงไปมากแล้วและยังคงดำเนินต่อไป ดำเนินการเพื่อให้ผู้พิทักษ์ของเรามีทุกสิ่งที่จำเป็น”
วลาดิมีร์ คอนสแตนตินอฟ ประธานสภานิติบัญญัติของไครเมีย กล่าวว่า “กองทัพยูเครนจะไม่สามารถตัดทางเดินบนบกไปยังไครเมียได้ เนื่องจากเส้นทางนี้มีการป้องกันอย่างดีจากกองทัพรัสเซีย”
คอนสแตนตินอฟกล่าวว่า “ในทางยุทธศาสตร์ ศัตรูไม่สามารถเอาชนะรัสเซียได้ ทุกคนเข้าใจเรื่องนี้ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะเรา ดังนั้น อย่างน้อยพวกเขาจำเป็นต้องสร้างความประทับใจในชัยชนะด้วยการปฏิบัติการรุกที่ประสบความสำเร็จด้วยผลที่ตามมา ทางเดินบนบกที่ก่อตัวขึ้น พร้อมกับการปลดปล่อยภูมิภาคใหม่นั้นมีลักษณะทางยุทธศาสตร์สำหรับไครเมียและสำหรับดินแดนใหม่ พวกเขาจะพยายามอย่างหนักที่จะทำลายมัน แต่ก็ไม่สำเร็จ เส้นทางเดินทัพนั้นได้รับการเสริมปราการอย่างดีและปกป้องอย่างเข้มแข็งด้วยกองกำลังติดอาวุธ”
สถานการณ์ปัจจุบันล่าสุดของไครเมีย เมื่อวันที่ ๔ เมษายนที่ผ่านมา วลาดิเมียร์ โรกอฟ ผู้นำขบวนการ We are Together with Russia เปิดเผยว่า “กองทัพยูเครนอาจเริ่มปฏิบัติการเชิงรุกในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งอาจดูเหมือนการลาดตระเวนโดยใช้กองกำลัง หรือการรุกในภูมิภาค Zaporozhye” เป็นการประมาณการของเขา ในกรณีของการรุกราน กองทัพยูเครนเนื่องจากขาดแคลนทรัพยากร จะหลีกเลี่ยงการสู้รบในเมืองต่างๆ และพยายามบุกทะลวงผ่านไปยังทะเลอะซอฟทางตะวันออกของเมลิโทโปลแทน เพื่อตัดทางเดินบนบก ไปไครเมีย
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคมที่ผ่านมาเขาบอกกับสื่อ TASS ว่ากองทัพยูเครนได้รวบรวมกำลังพลมากถึง ๗๕,๐๐๐ นายในพื้นที่ Zaporozhye หลังจากพยายามโจมตีเมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม ถูกขัดขวางโดยกองกำลังรัสเซีย ทำให้ยูเครนสูญเสียทหารมากถึง ๔๐๐ นาย รอดูกันว่าแผนการโต้กลับจะเป็นจริงหรือจะเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด!!