ทะเลจีนใต้เดือด!! สภาฯไต้หวันด่าผู้นำไฟแลบ ปชช.ต้านเมกาแทรกแซง จีนซ้อมรบต่อ ๑๒ วันชนเมกาซ้อมรบฟิลิปปินส์

0

ดูเหมือนว่าความร้อนแรงของจุดวาบไฟที่สามกำลังคุกรุ่นในทะเลจีนใต้อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง เมื่อกองทัพจีนประกาศต่อเวลาซ้อมรบด้วยกระสุนจริงไปอีก ๑๒ วัน

เรือรบจีนยังคงอยู่ใกล้กับไต้หวันแม้การซ้อมรบ ๓ วันจะจบลง เรือรบอีก ๘ ลำของกองทัพเรือจีนยังคงแล่นอยู่ในน่านน้ำรอบไต้หวัน หลังจากที่ปธน.ไช่ อิงเหวิน เดินทางกลับจากพบกับประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเควิน แม็คคาธี (Kevin McCarthy) ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย พอถึงบ้านก็เจอดี ส.ส.ในสภาเปิดอภิปราย ใส่กันยับ โดยเฉพาะด่าไฟแลบใส่ไช่ อิงเหวินฐานชักศึกเข้าบ้าน เปิดทางให้ต่างชาติเข้ามาล้วงตับมายุ่งกับความมั่นคงของประเทศ

ในเวลาเดียวกันกระแสการต่อต้านผู้นำไต้หวันที่แสดงท่าทีรับใช้สหรัฐฯออกนอกหน้า เพิ่มขึ้นในหมู่ประชาชนต่อต้านการแทรกแซงของสหรัฐ ไม่เอาสงครามกับจีนแผ่นดินใหญ่

ขณะเดียวกัน สหรัฐฯก็เปิดแนวยั่วยุทางทหารขั้นสูงด้วยการซ้อมร่วม “ฟิลิปปินส์-สหรัฐ” ครั้งใหญ่ที่สุดของปีนี้ พร้อมๆกับซ้อมรบกับเกาหลีใต้ จัดหนักแบบนี้ถึงได้ส่อแววเทยูเครนให้นาโต้อุ้ม ทำให้ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกร้อนระอุ โดยเฉพาะทะเลจีนใต้

วันที่ ๑๒ เม.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวโกลบัลไทมส์รายงานว่า สหรัฐฯ และฟิลิปปินส์เริ่มการซ้อมรบทางทหาร “ครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา” เมื่อวันอังคาร โดยมีทหารจากทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมมากกว่า 17,000 นาย ตลอดจนตัวแทนจากประเทศอื่นๆ รวมถึงออสเตรเลีย ต้องพบกับการประท้วงในท้องถิ่นอย่างรุนแรงต่อการปรากฏตัวของกองทัพที่เพิ่มขึ้น ของสหรัฐฯ ในฟิลิปปินส์ และคำเตือนจากผู้สังเกตการณ์ว่าจะเป็นอันตรายต่อเสถียรภาพในภูมิภาค 

การฝึกซ้อมประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ทหารสหรัฐ ๑๒,๒๐๐ นาย กองกำลังฟิลิปปินส์ ๕,๔๐๐ นาย และทหารออสเตรเลีย ๑๑๑ นาย 

การซ้อมรับนี้เรียกว่าบาลิกาตัน 2023 ซึ่งจะดำเนินไปจนถึงวันที่ ๒๘ เมษายน เมื่อสัปดาห์ที่ทางการฟิลิปปินส์ไฟเขียวเปิดใช้ฐานทัพสหรัฐเพิ่มอีก ๔ แห่ง หนึ่งในนั้นอยู่ทางตอนเหนือของเกาะลูซอน ซึ่งเป็นส่วนที่ใกล้ที่สุดกับเกาะไต้หวัน การฝึกซ้อมยังมีขึ้นก่อนการประชุม “2+2” ของรัฐมนตรีกลาโหมและรัฐมนตรีต่างประเทศในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ตั้งแต่วันอังคารถึงวันพุธสัปดาห์นี้

ซีเอ็นบีซีรายงานว่า การฝึกซ้อมที่รวมกิจกรรมการฝึกทั่วฟิลิปปินส์จะรวมถึงการซ้อมยิงจริงเพื่อทิ้งระเบิดและจมเรือที่ปลดประจำการในน่านน้ำทะเลจีนใต้ เรือรบของสหรัฐฯ เครื่องบินขับไล่ ตลอดจนขีปนาวุธแพทริออต เครื่องยิงจรวด HIMARS และ Javelin ต่อต้านรถถัง จะถูกนำมาจัดแสดง ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ทหารสหรัฐฯ และฟิลิปปินส์ 

ทั้งสองประเทศจะทำการยกพลขึ้นบกแบบสะเทินน้ำสะเทินบกบนเกาะปาลาวันทางตะวันตกซึ่งหันหน้าออกสู่ทะเลจีนใต้ นอกจากนี้ยังจะเป็นครั้งแรกที่เรือฟริเกตของกองทัพเรือฟิลิปปินส์และสหรัฐฯ ยิงอาวุธของพวกเขาไปยังทะเลจีนใต้จากน่านน้ำนอกจังหวัดซัมบาเลส ทางเหนือของกรุงมะนิลา

สื่อท้องถิ่นรายงาน ชาวฟิลิปินจัดชุมนุมประท้วงต่อต้านการซ้อมรบร่วม มีการเผาธงชาติสหรัฐฯ ขณะที่พวกเขาแสดงการต่อต้านเหตุการณ์ทางทหาร นอกกองบัญชาการกองทัพบกของฟิลิปปินส์ในเมืองเกซอนซิตีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา กลุ่มดังกล่าวประณามการซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐฯ และฟิลิปปินส์อย่างต่อเนื่อง 

ตำรวจมะนิลาได้เข้าควบคุมตัวนักศึกษาจากวิทยาลัยการสื่อสารมวลชนแห่งมหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์ ๒ คนหลังจากการประท้วงโดยไม่แจ้งล่วงหน้าที่หน้าสถานทูตสหรัฐฯบนถนน Roxas Boulevard 

ชาวฟิลิปปินส์พลัดถิ่นและนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนคนอื่นๆ จัดประท้วงของตนเองที่ไทม์สแควร์ในนครนิวยอร์ก ป้ายที่เขียนว่า “US Troops out of Philippines” มีให้เห็นใน Youth Advocate for Climate Action Philippines ที่โพสต์บน Twitter เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า “จากนิวยอร์กถึงฟิลิปปินส์ หยุดเครื่องจักรสงครามของสหรัฐฯ

หวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนตอบคำถามเกี่ยวกับการซ้อมรบของสหรัฐฯและฟิลิปปินส์ในการแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ว่า “ความร่วมมือทางทหารระหว่างสหรัฐฯ และฟิลิปปินส์จะต้องไม่แทรกแซงข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ ทั้งยังทำลายอธิปไตยเหนือดินแดนของจีน สิทธิและผลประโยชน์ทางทะเล และผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของจีนให้น้อยลง”

ซ่ง จงผิง ผู้เชี่ยวชาญด้านทหารของจีน กล่าวว่า “จังหวะเวลาและกองกำลังผสมขนาดใหญ่อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ของการซ้อมรบในน่านน้ำทะเลจีนใต้ พิสูจน์ให้เห็นว่าสหรัฐฯ กำลังเพิ่มมาตรการคุกคามอย่างเต็มที่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ผลักดันให้ฟิลิปปินส์กลายเป็นส่วนสำคัญของยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิก โดยมีจีนเป็นเป้าหมายหลักของการต่อต้านของวอชิงตัน

ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ของฟิลิปปินส์ ให้คำมั่นกับจีนเมื่อวันจันทร์ว่า ฐานทัพที่สหรัฐฯ เข้าถึงได้จะไม่ถูกใช้ในการกระทำที่น่ารังเกียจใดๆ โดยเน้นย้ำว่าข้อตกลงกับวอชิงตันออกแบบมาเพื่อเพิ่มการป้องกันประเทศของเขา แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าความร่วมมือทางทหารที่วอชิงตันส่งเสริมไม่เกี่ยวข้องกับการปกป้องฟิลิปปินส์แต่มุ่งเป้าต่อต้านจีน

ผู้เชี่ยวชาญมองว่าฟิลิปปินส์เป็นทำเลที่มีศักยภาพสำหรับจรวด ขีปนาวุธ และระบบปืนใหญ่เพื่อตอบโต้จีนอย่างชัดเจน การกล่าวบิดเบนของทางการฟิลิปปินส์ยากจะมองเป็นอื่น

คำพูดของผู้นำฟิลิปปินส์บ่งบอกว่าประเทศกำลังแสวงหาจุดยืนที่สมดุลระหว่างสหรัฐฯ และจีน แต่พฤติกรรมแบบนี้ มะนิลากำลังเล่นกับไฟด้วยการนำกองทัพสหรัฐฯ เข้ามาในภูมิภาคนี้มากขึ้น 

หลี่ ไคเชง(Li Kaisheng) นักวิจัยและรองผู้อำนวยการสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของ Shanghai Academy of Social Sciences กล่าวว่า “ทางการทูตของฟิลิปปินส์เหมือนไม่ได้เอนเอียงไปทางสหรัฐฯอย่างเต็มที่ แม้ความสัมพันธ์ทวิภาคีดีขึ้นเมื่อเทียบกับยุคดูเตอร์เต 

ผู้เชี่ยวชาญฟันธงว่า การถูกลากเข้าสู่ความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นและถูกใช้โดยสหรัฐฯ เพื่อบ่อนทำลายสันติภาพในภูมิภาคนั้นไม่ได้ช่วยผลประโยชน์ของฟิลิปปินส์เลย มาร์กอส จูเนียร์จะรักษาจุดยืนที่เป็นกลางและสมดุลได้อย่างไรในเมื่อไม่สามารถกุมบังเหียนสหรัฐฯได้ เมื่อสหรัฐฯ เข้ายึดฐานทัพเรือเหล่านี้แล้ว จะใช้อาวุธโจมตีและอุปกรณ์สอดแนมได้ตามความประสงค์ ซึ่งจะเป็นความท้าทายอย่างใหญ่หลวงต่อภูมิภาคและความมั่นคงของจีน แล้วจีนจะนิ่งเฉยได้อย่างไร

สรุปแล้วก็คือ ฟิลิปปินส์เลือกข้างแล้วว่า จะเป็นบ้านกระสุนตกให้สหรัฐฯเผชิญหน้ากับจีนในย่านนี้ เข้าแถวเดียวกับญี่ปุ่น-เกาหลีใต้!!